ความสำเร็จเพื่อส่วนรวม

ความสำเร็จเพื่อส่วนรวม

หลายคนไม่มีความสุขเท่าที่ควรถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีรอบตัว

สำหรับคนอายุราวๆ 60-70 ปีการได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากสังคมเกษตรเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม มาจนถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่กลายมาเป็นรากฐานของโลกดิจิทัลอย่างเอไอที่กำลังตื่นตัวกันอยู่ทุกวันนี้ ย่อมรู้สึกว่าตนเองนั้นโชคดีที่ได้ซึมซับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายได้ทั้งชีวิต

แต่สำหรับคนหนุ่มสาว ผมเชื่อว่าเขาโชคดียิ่งกว่า เพราะได้เห็นการปฏิรูปสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่เคยใช้เวลา 1-2 ชั่วอายุคนเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ทำให้คนรุ่นใหม่มีความร่วมสมัย และมีวิถีชีวิตที่คนรุ่นเก่าไม่เคยคาดคิดว่าจะกลายเป็นจริงได้

เมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและส่งผลกระทบได้รวดเร็วกว่าที่เคยเกิดขึ้น แม้ว่าคนรุ่นใหม่อาจได้อานิสงส์จากความก้าวหน้าดังกล่าว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนอีกเป็นจำนวนมากตอบรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ไม่ดีนัก

นั่นจึงกลายเป็นที่มาที่หลายคนไม่มีความสุขเท่าที่ควรถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีรอบตัวช่วยยกระดับให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยให้หารายได้ได้สะดวกสบายมากขึ้น แต่คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยยังคงค้นหาตัวเองไม่เจอว่าอะไรคือความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง

การมีเงินมีทอง มีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์ราคาแพงใช้ จึงกลายเป็นสูตรสำเร็จที่ทุกคนอยากทำตามอย่างกัน ผลก็คือเราเห็นข่าวคราวมากมายของคนที่ประสบความสำเร็จในลักษณะดังกล่าว คือร่ำรวยเหลือล้น แต่เป็นการได้มาซึ่งเงินทองจากการเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกง การทำธุรกิจสีเทา ไปจนถึงเป็นแก๊งค์มาเฟียข้ามชาติ

ความสำเร็จของปัจเจกชนจึงไม่ควรวัดกันที่วัตถุ เพราะการร่ำรวยโดยแก่งแย่ง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ไปจนถึงการฉ้อโกงจนเข้าสู่การเป็นอาชญากรนั้นย่อมเป็นการทำร้ายสังคมที่เราอาศัยอยู่โดยตรง นั่นคือเป็นการใช้ชีวิตเพื่อตอบสนองวัตถุแต่ไม่ทำให้สังคมรอบข้องตัวเราเองนั้นดีขึ้นเลย

แต่หากเราวัดความสำเร็จกันด้วยการสร้างคุณค่าให้สังคมโดยรวม คือการมีชีวิตอยู่ของเรานั้นทำให้สังคมดีขึ้น ทำให้คนรอบข้างมีความสุขมากขึ้น ไปจนถึงสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกดีขึ้นก็ย่อมทำให้เรามองเห็นคุณค่าของตัวเองได้เด่นชัดมากขึ้นเช่นกัน

ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพียงแค่รับผิดชอบหน้าที่การงานของตัวเองอย่างเต็มที่ มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ 

นั่นก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้แล้ว เพราะงานทุกตำแหน่งล้วนเปิดโอกาสให้เราช่วยเหลือและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนรอบข้างได้ทั้งนั้น

การมุ่งความสนใจแต่ความสำเร็จทางวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใหญ่โต บ้านหลังใหญ่ รถหรู ฯลฯ หากเจอปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ก็ย่อมรับความกดดันจนก่อให้เกิดความเครียดสะสม ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งกายและใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่หากผลงานของเรามีส่วนช่วยให้คนรอบข้างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือมีส่วนทำให้โลกเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น แม้จะเจอปัญหาและอุปสรรคเราก็ยังรู้สึกมีพลัง และมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานของเราให้สำเร็จเพราะเรารู้ว่ายังมีผู้ที่ได้ประโยชน์จากผลงานของเราอีกมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร หน้าที่รับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน หากคิดถึงส่วนรวมเป็นที่ตั้งและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ก็มีส่วนผลักดันให้สังคมดีขึ้นได้ ซึ่งนั่นก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งที่ทุกคนมีโอกาสทำได้เท่าเทียมกัน