‘YouTube’ เปิดฟีเจอร์ใหม่หนุนครีเอเตอร์ไทย แบ่งรายได้ให้ 70%

‘YouTube’ เปิดฟีเจอร์ใหม่หนุนครีเอเตอร์ไทย แบ่งรายได้ให้ 70%

“YouTube” ประกาศเปิดตัวบริการ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks อย่างเป็นทางการในไทย หวังเพิ่มช่องทางใหม่ให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้ พร้อมสานความสัมพันธ์กับแฟน ใจป้ำแบ่งสัดส่วนรายได้ครีเอเตอร์ 70% YouTube 30% งานวิจัยเผย YouTube แพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่คนไทยคิดถึง

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของช่องทางการรับชมดิจิทัลคอนเทนต์ “YouTube” ยังคงมีจุดยืนที่แข็งแรงและเป็นหนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างชื่อและสร้างรายได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการยึดติดกับวิถีแบบเดิมๆ หรือมีรายได้จากการเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือน...

มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า YouTube ประเทศไทยเปิดตัวบริการ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครีเอเตอร์และแฟนๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ โดยครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube Partner Program : YPP สามารถเริ่มใช้งานได้เลยทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ‘YouTube’ เปิดฟีเจอร์ใหม่หนุนครีเอเตอร์ไทย แบ่งรายได้ให้ 70% “เรามีมุมมองว่า ทุกคนควรมีโอกาสที่จะเปลี่ยนความหลงใหลของตนเองให้กลายเป็นธุรกิจ จึงได้เริ่มต้นผลักดันบริการและโปรแกรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนพาร์ทเนอร์ รวมถึงนำเสนอช่องทางที่หลากหลายสำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากโฆษณา”

สำหรับ โมเดลส่วนแบ่งรายได้ของ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks สัดส่วนจะให้กับครีเอเตอร์ 70% และแพลตฟอร์ม 30%

อย่างไรก็ดี ช่วง 3 ปีที่ผ่านมายูทูบ ได้จ่ายค่าตอบแทนให้กับครีเอเตอร์ ศิลปิน และบริษัทสื่อทั่วโลกรวมแล้วกว่า 1.7 ล้านล้านบาท (5 หมื่นล้านดอลลาร์) ส่วนของ YouTube เองแหล่งที่มาของรายได้ จะมาจากการโฆษณา YouTube พรีเมียม และจากแฟนๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวดังกล่าว

ครีเอเตอร์ไทยรายได้เพิ่มเท่าตัว

ที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทย YouTube ได้นำเสนอช่องทางต่างๆ สำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกของช่อง (Channel Memberships) ซึ่งครีเอเตอร์ได้ใช้ช่องทางนี้ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับแฟนๆ ของตนเอง

โดยในเดือนมิ.ย. 2564 ช่อง YouTube ในไทยที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์การสร้างรายได้ทางเลือกมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 150% และช่อง YouTube ในไทยมีรายได้จากการเป็นสมาชิกของช่องเพิ่มขึ้นกว่า 250% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ขณะที่ ฟีเจอร์ Super Chat, Super Stickers และ Super Thanks จะมาช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างครีเอเตอร์และผู้ชมให้เหนียวแน่นขึ้นอีกขั้น โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สนับสนุนครีเอเตอร์ที่ตนชื่นชอบในระหว่างการสตรีมแบบสดและวีดิโอพรีเมียร์

ด้าน Super Thanks จะเป็นช่องทางสำหรับแฟนๆ ในการแสดงความขอบคุณและให้การสนับสนุนครีเตอร์ในหน้าสำหรับดูวิดีโอ (Video's watch page) ทั้งมีระบบซัพพอร์ตและช่วยเหลือครีเอเตอร์ทั้งรูปแบบแชทและอีเมล โดยสามารถรองรับภาษาไทยได้ด้วย

ส่วนของความคาดหวังต่อการเปิดตัวฟีเจอร์ดังกล่าว มุ่งเอื้อประโยชน์ให้กับคนที่อยู่บนแพลตฟอร์ม และเชื่อว่าจะมีประโยชน์อย่างมากต่อครีเอเตอร์ที่จะเชื่อมต่อกับแฟน และยูทูบเองได้มีระบบซัพพอร์ตและช่วยเหลือครีเอเตอร์ทั้งรูปแบบแชทและอีเมล โดยรองรับภาษาไทยด้วย

ช่องทางใหม่ผ่าน ‘Fan Funding’

ผู้บริหาร YouTube อธิบายว่า Super Chat เป็นข้อความในฟีดแชทสดที่มีการไฮไลต์ ซึ่งจะทำให้ข้อความนั้นโดดเด่นกว่าข้อความอื่นๆ ทำให้ได้รับความสนใจจากครีเอเตอร์คนโปรดมากยิ่งขึ้น โดยระบบจะปักหมุด Super Chat ไว้ที่ด้านบนสุดของฟีดแชทนานถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการมองเห็นข้อความของคุณ

ส่วน Super Stickers เปิดโอกาสให้ผู้ชมซื้อสติกเกอร์ที่โดดเด่นเพื่อส่งให้กับครีเอเตอร์ที่ตนชื่นชอบ โดยมีสติกเกอร์ให้เลือกหลายแบบ หลายภาษา Super Stickers จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้ครีเอเตอร์เชื่อมต่อกับแฟนๆ และมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

ขณะที่ Super Thanks เป็นช่องทางสำหรับผู้ชมในการสนับสนุนครีเอเตอร์และเนื้อหาที่ตนชื่นชอบ โดยการซื้อ Super Thanks ในหน้าสำหรับดูของวีดิโอ นอกจากนี้ ผู้ซื้อยังสามารถโพสต์ความคิดเห็นที่มีสีสันสดใสอันโดดเด่นที่ปรับแต่งได้ในส่วนความคิดเห็นของวีดิโอด้วย สำหรับระดับราคาเริ่มต้นที่แฟนสามารถสนับสนุนครีเอเตอร์ได้คือ 20 บาท และสูงสุดที่ 1 หมื่นบาท

“ฟีเจอร์ Super นี้ จะเป็นช่องทางใหม่สำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้ผ่าน Fan Funding หรือการให้เงินสนับสนุนของแฟนๆ และยังช่วยให้ครีเอเตอร์ได้มีโอกาสสร้างความใกล้ชิดกับแฟนๆ ของตนเอง เพราะการสนับสนุนของพวกเขาจะได้รับการจดจำ”

 

วิธีสร้างรายได้จาก YouTube

สำหรับผู้ที่สนใจจะสร้างรายได้บน YouTube สามารถทำได้โดยการสมัครและได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรแกรม “พาร์ทเนอร์ YouTube” ซึ่งอาจมีสิทธิ์รับโบนัส Shorts จากเงินโบนัส YouTube Shorts ด้วย ด้านการสร้างรายได้สามารถทำผ่านฟีเจอร์ต่อไปนี้

  • รายได้จากโฆษณา

รับรายได้จากโฆษณาแบบดิสเพลย์ โฆษณาซ้อนทับ และโฆษณาวิดีโอ, 

  • การเป็นสมาชิกของช่อง

สมาชิกจะชำระเงินตามรอบแบบรายเดือนเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษที่คุณมอบให้,

  • Shopping

อผลิตภัณฑ์ เช่น สินค้าที่ระลึก จากร้านค้าบน YouTube ได้ นอกจากนี้

  • Super Chat และ Super Stickers

แฟนๆ จะชำระเงินเพื่อไฮไลต์ข้อความหรือภาพเคลื่อนไหวของตนเองในแชทของสตรีม

  • Super Thanks

แฟนๆ จะชำระเงินเพื่อไฮไลต์ข้อความของตนเองในส่วนความคิดเห็นของวิดีโอ

  • รายได้จาก YouTube Premium

รับค่าบริการส่วนหนึ่งจาก YouTube Premium เมื่อมีสมาชิกรับชมเนื้อหา โดยฟีเจอร์แต่ละรายการจะมีข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ์แตกต่างกัน

 

แพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่คนไทยคิดถึง

ข้อมูลโดยกูเกิล ประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบัน ผู้คนนิยมรับชม YouTube บนหน้าจอทีวีกันมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของ YouTube พบว่าในเดือนพ.ค. 2565 มีผู้คนมากกว่า 12 ล้านรายในไทยที่รับชม YouTube บนหน้าจอทีวี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้คำนิยามของทีวีสำหรับคนไทยนั้นเปลี่ยนตามไปด้วย 

โดย 75% ของผู้ชมชาวไทยมองว่า YouTube คือ “ทีวี” เมื่อรับชมบนหน้าจอทีวี นอกจากนี้ YouTube ยังได้กลายเป็นจุดหมายของการเลือกซื้อสินค้า โดยกว่า 9 ใน 10 ของผู้ชมชาวไทยยอมรับว่าใช้ YouTube ในการชอปปิงและเลือกดูสินค้า ซึ่งขณะนี้ก็มีวิธีใหม่ๆ ที่ทำให้นักช้อปสามารถซื้อสินค้าและบริการ YouTube ได้

จากผลการสำรวจล่าสุดของ Ipsos พบว่า YouTube คือแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่คนไทยจะคิดถึงมากที่สุดหากไม่มีให้ใช้งานอีกต่อไป โดยเฉพาะกับผู้ใช้รุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มักจะใช้เวลาอยู่กับเทคโนโลยี พบด้วยว่า 87% ของคนไทยมองว่าคอนเทนต์บน YouTube มีคอนเทนต์ที่โดนใจที่หาดูไม่ได้จากที่อื่น

ปัจจุบัน ระบบนิเวศของ YouTube ในไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีครีเอเตอร์สร้างสรรค์คอนเทนต์มากขึ้นกว่าเคย โดยมีจำนวนชั่วโมงของคอนเทนต์ที่ถูกอัปโหลดบน YouTube เพิ่มขึ้นมากถึง 50%, มีช่องที่มีผู้ติดตามทะลุ 1 ล้านคนรวมกว่า 750 ช่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20%

การเติบโตนี้สะท้อนถึงเนื้อหาที่หลากหลายซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงแค่ช่องโทรทัศน์เจ้าใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลในวงการโทรทัศน์ โปรดักชันเฮาส์ ค่ายเพลง ศิลปิน และครีเอเตอร์ทั่วประเทศอีกด้วย

Ipsos พบด้วยว่า 95% ของคนไทยระบุว่า YouTube เป็นที่แรกที่พวกเขาเข้ามาหาเมื่อต้องการดูอะไรสักอย่าง ขณะที่ 94% รู้สึกว่า YouTube สามารถแนะนำวีดิโอที่พวกเขาควรดูได้ดีมากที่สุด