เปิดแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลปี 2023 ที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อม

เปิดแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลปี 2023  ที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อม

Bernard Marr” ที่เป็นนักอนาคตศาสตร์ (Futurist) ด้านเทคโนโลยี เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้เขียนบทความแนะนำแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในปี 2023 ที่ทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมนับตั้งแต่ตอนนี้!!!

เทคโนโลยีดิจิทัล เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมักจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้กล่าวขานกันเสมอ เช่น Metaverse, Web 3.0, AI, AR/VR ,NFT และ Quantum Computing ผู้บริหารบางองค์กรก็จะตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ บ้างก็กลัวตกเทรนด์ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ รีบนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กรแต่สุดท้ายแล้วบางเทคโนโลยีก็อาจยังไม่พร้อมและเป็นเรื่องใหม่จนเกินกว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

ผมเองก็พยายามตามเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ ถ้ามีเวลาก็จะลงมือไปทดลองใช้บ้าง บางเทคโนโลยีก็พบว่าเป็นเรื่องน่าสนใจและเหมาะกับการนำมาประยุกต์ใช้งาน บางเทคโนโลยีก็อาจต้องรอเวลาให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้นก่อนที่จะนำไปใช้งานได้ในวงกว้าง บ้างก็เป็นการสร้างของนักการตลาดที่พยายามทำให้ดูดีกว่าความเป็นจริง และบ้างก็อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าความคุ้มค่าต่อการลงทุน

แต่สิ่งสำคัญเราควรต้องศึกษาข้อมูลนักวิเคราะห์ที่เป็นกลาง และเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นอกเหนือจากบริษัทวิจัยชื่อดังอย่าง Gartner หรือ Forrester แล้ว ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีหลายๆ ท่านที่มักจะนำเสนอความคิดเห็นดีๆ ออกมาต่อสาธารณะ หนึ่งในนั้นที่ผมมักจะติดตามบ่อยๆ คือ “Bernard Marr” ที่เป็นนักอนาคตศาสตร์ (Futurist) ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้เขียนบทความแนะนำแนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในปี 2023 ที่ทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมนับตั้งแต่ตอนนี้

ผมเล็งเห็นว่าเป็นเรื่องที่องค์กรต่างๆ ควรจะนำมาใช้เป็นแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีในปีหน้า โดย Bernard Marr ได้ระบุเทคโนโลยีในด้านต่างๆ ไว้ ดังนี้

1. AI Everywhere ในปีหน้าเอไอจะกลายเป็นกระแสหลักที่จะเห็นผู้คนและองค์กรจำนวนมากนำมาใช้งาน เพราะเอไอจะเข้าไปอยู่ในแอปต่างๆ ทำให้เราใช้เอไอจนกลายเป็นเรื่องปกติ การพัฒนาโปรแกรมจะเป็นแบบ No code ทำให้ใครๆ ก็สามารถสร้างแอปที่เป็นเอไอได้โดยไม่ต้องมีทักษะในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ในปัจจุบันแพลตฟอร์มคลาวด์ต่างๆ

ยังมีบริการ AI as a Service ที่ให้ผู้ที่มีข้อมูลอยู่บนคลาวด์สามารถนำมาต่อยอดทำระบบเอไอได้อัตโนมัติ การพัฒนาเอไอด้านการประมวลผลภาษา ด้าน Machine Vision และด้านวิทยาการข้อมูล ก็ก้าวหน้าไปมากและทำได้ง่ายขึ้น ดังนั้นทุกองค์กรควรจะต้องวางแผนอย่างจริงจังเพื่อนำเอไอมาประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ

2. Metaverse Technology แม้ว่าเทคโนโลยีด้านนี้อาจต้องใช้เวลาอีก4-5 ปี กว่าที่จะพร้อมใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าพิจารณาถึงหลักการและการนำเทคโนโลยีบางด้านของ Metaverse เช่น AR และ VR มาใช้งาน ก็อาจทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเริ่มพิจารณาที่จะเริ่มสร้างเนื้อหาดิจิทัลและการทำงานต่างๆ บนโลก Metaverse ดังเช่น อาจจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับประสบการณ์การทำงานของพนักงาน โดยการใช้เทคโนโลยี AR ในการประชุมให้เสมือนจริงมากกว่าใช้ Zoom แบบเดิมๆ หรือการนำเทคโนโลยีมาบริการลูกค้าให้ดีขึ้น ซึ่งเราก็เริ่มเห็นหลายๆ บริษัทมีแนวคิดที่จะสร้างบริการใหม่ๆ เช่น McDonald จะพัฒนาร้านอาหารบนโลกดิจิทัล หรือองค์กรก็เริ่มคิดที่จะเปิดออฟฟิศในโลก Metaverse เป็นต้น

3. Programmable World ในปีหน้าเราอาจจะเห็นสิ่งที่สร้างในโลกดิจิทัลแล้วสามารถนำมาใช้ในโลกจริง (Physical World) ได้มากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ Digital Twin ที่เราอาจจะจำลองรถแข่งให้อยู่โลกดิจิทัล และทำการออกแบบ ทดสอบ และพัฒนาโปรแกรมให้ได้รถที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น แล้วอาจใช้เครื่องพิมพ์สามมิติมาสร้างรถที่ออกแบบในโลกดิจิทัลให้กลายเป็นรถจริงๆ ซึ่งก็อาจรวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีนาโน หรือด้านพันธุกรรมต่างๆ ของมนุษย์หรือสัตว์ ที่อาจถูกจำลองบนโลกดิจิทัล แล้วสามารถนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้

4. Web 3 Technologies โดยเฉพาะด้านของเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้โดยไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นการสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ในด้านความเชื่อมั่นโดยไม่ต้องมีคนกลาง ทำให้เป็นการเปลี่ยนห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันก็จะมีการนำเทคโนโลยีอย่าง NFTที่ทำให้เราเก็บข้อมูลความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ มาใช้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ Digital ID ในโลกของ Web 3.0 ที่จะเข้ามาช่วยในการให้เราสามารถระบุตัวตนในโลกดิจิทัลได้อย่างถูกต้อง

5. Intelligent & Connected World ในปีหน้าเราจะเห็นโลกที่มีอุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่อกันมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีอย่าง IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะ ที่อาจส่งข้อมูลต่างๆ หากันผ่านเทคโนโลยอย่าง Wi-Fi หรือ 5G ทำให้การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันของเราผ่านอุปกรณ์ที่ชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่งองค์กรต่างๆจำเป็นต้องเร่งพัฒนาตัวเองที่จะนำระบบเหล่านี้เข้ามาใช้งาน

ทั้งหมดนี้คือ เทคโนโลยีที่สำคัญที่จะมีผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งจะมีกระแสการใช้งานอย่างมากและน่าจะเกิดขึ้นได้จริงในปีหน้า โดยองค์กรต่างๆ ควรจะวางแผน ศึกษา และเริ่มหาแนวทางนำเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้มาประยุกต์ใช้งาน เพื่อให้สามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้