วีเอ็มแวร์ ‘Cloud-Smart’ พลิกโฉมโลกธุรกิจยุค ‘ดิจิทัล’

วีเอ็มแวร์ ‘Cloud-Smart’ พลิกโฉมโลกธุรกิจยุค ‘ดิจิทัล’

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆ ได้มุ่งสู่ความท้าทายใหม่ๆ ในโลกธุรกิจ ด้วยการบุกเบิก “กลยุทธ์ดิจิทัล” ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จล้วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี “คลาวด์”

รากู รากูรัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ยักษ์เทคโนโลยีคลาวด์ วีเอ็มแวร์  เปิดมุมมองว่า คลาวด์มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล สมาร์ท ขับเคลื่อนได้ด้วยระบบอัตโนมัติ เข้าถึงข้อมูลอินไซต์ รวมถึงสร้างโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ อย่างที่เทคโนโลยียุคเก่าไม่สามารถทำได้

ไอดีซีระบุว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชั่นที่ออกแบบให้ทำงานบนคลาวด์ (Cloud Native) มีอัตราการเติบโตกว่า 400% จากมูลค่า 72 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 เพิ่มขึ้นมาเป็น 310 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

บริหาร ‘มัลติคลาวด์’ อุปสรรคใหญ่

แม้หลายธุรกิจจะมีความก้าวหน้าอย่างมากบนเส้นทางดิจิทัล ทว่าผู้นำองค์กรต่างยังมีความกังวลและมีความคิดว่า "ก้าวไปข้างหน้าได้ไม่เร็วมากพอ” 

โดยมี 3 อุปสรรคที่สำคัญคือ ขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ พบข้อจำกัดในการยกระดับแอปองค์กรให้ทันสมัยรวมถึงการย้ายไปสู่คลาวด์ และการรักษาความปลอดภัยเมื่อต้องบริหารจัดการระบบคลาวด์หลายตัวหรือข้ามแพลตฟอร์ม

อย่างไรก็ดี การสร้างความสำเร็จสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากคือ การพัฒนาคลาวด์ที่ชาญฉลาด “Cloud-Smart” ซึ่งจะทำให้สามารถก้าวข้ามอุปสรรค รวมถึงเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ “มัลติคลาวด์” ที่มีความซับซ้อนและยังเป็นปัญหาใหญ่ของทุกธุรกิจ

วีเอ็มแวร์พบว่า ที่ผ่านมามีธุรกิจเพียง 20% เท่านั้นที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนและใช้ประโยชน์เชิงกลยุทธ์จากมัลติคลาวด์ได้แบบเต็มที่ และมีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่มั่นใจว่าสามารถก้าวไปถึงคลาวด์สมาร์ทได้แล้ว คำถามคือแล้วอีก 80% ต้องทำอย่างไรถึงจะไปสู่จุดที่เหมาะสมนั้นได้

จาก ‘Cloud Chaos’ สู่ ‘Cloud Smart’

สำหรับเส้นทางสามารถแบ่งได้เป็น 3 เฟสหลักๆ คือ เฟสแรก Cloud First : คลื่นลูกแรกของนวัตกรรมคลาวด์ เริ่มต้นด้วยการใช้งานระบบคลาวด์สาธารณะและพัฒนาไปสู่มัลติคลาวด์ เฟสที่สอง Cloud Chaos : ความโกลาหลของคลาวด์ แน่นอนว่าเมื่อมีตัวเลือกมากขึ้น มีการใช้งานมากขึ้น ย่อมพาไปสู่ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

จากการสำรวจพบว่า การสร้างแอปใหม่ๆ บนคลาวด์นั้นอาจมีอุปสรรคด้านความล่าช้าและยุ่งยาก ขณะเดียวกันการจัดการพอร์ตโฟลิโอของแอปทั้งหมดบนคลาวด์ที่แตกต่างกันนั้นมีความยากและราคาแพง

นอกจากนั้น ถูกท้าทายด้วยเรื่องความเร็วการใช้งาน การเข้าถึง และความปลอดภัย ซึ่งความซับซ้อนทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจ ตั้งแต่การบริหารจัดการ การจัดการต้นทุน ไปจนถึงการรักษามาตรฐานให้คงอยู่

เฟสที่สาม Cloud Smart : จุดหมายปลายทางที่ทุกองค์กรต้องไปให้ถึง จุดที่องค์กรสามารถบริหารจัดการคลาวด์ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับโจทย์ธุรกิจ และความต้องการของลูกค้า

ปักธง ‘Digital-Smart Business’

สำหรับวีเอ็มแวร์ จุดยืนธุรกิจมุ่งผลักดันให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนมัลติคลาวด์ ที่ขาดไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสบการณ์ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างโซลูชันที่รวดเร็ว ตอบโจทย์ ปูทางไปสู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จของทุกธุรกิจ

โดย “Cloud-Smart” จะเป็นตัวจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพิ่มความเร็ว ขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงผลลัพธ์ทางธุรกิจที่น่าพอใจ

ปัจจุบัน อีโคซิสเต็มของวีเอ็มแวร์มีนักพัฒนากว่า 5 ล้านคน สามารถสร้าง 3.5 แสนโปรเจคใหม่ทุกสัปดาห์ และเกิดเป็น 35 แอปพลิเคชันใหม่ได้ทุกนาที

สถิติระบุว่า 97% ของธุรกิจที่ขับเคลื่อนองค์กรบนคลาวด์สมาร์ทและมัลติคลาวด์มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4%, 96% บอกว่าความสามารถในการทำกำไรมีการปรับปรุงในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน 92% สามารถบริหารจัดการข้อมูลได้ดีกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่ความสำเร็จของคลาวด์สมาร์ทนั้นคงไม่ธรรมดาและไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก แต่ไม่ว่าจุดยืนของธุรกิจจะเป็นเพียงผู้เริ่มต้นหรือแข็งแรงแล้วในสนามนี้ รากฐานของ “Digital-Smart Business” สิ่งที่สำคัญและดีที่สุดคือ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับสภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์องค์กร ซึ่งจะมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมสามารถเดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ใช้ต้นทุนน้อยลง สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้อย่างมีเสถียรภาพในทุกระบบคลาวด์

ยกระดับการจัดการ ‘มัลติคลาวด์’

เพอร์นีมา พัดมนาบาน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการจัดการระบบคลาวด์ วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า การจัดการแอปพลิเคชันและโครงสร้างพื้นฐานมัลติคลาวด์ โดยเฉพาะบนพับบลิกคลาวด์ รวมถึงสภาพแวดล้อมของเทคโนโลยีที่หลากหลายนั้นล้วนมีความซับซ้อน ทีมงานที่ดูแลต้องทำการควบคุมต้นทุน พร้อมทั้งรับรองประสิทธิภาพ และจัดการนโยบายความปลอดภัย เพื่อให้สอดคล้องกันในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและมีการกระจายตัว

“การใช้งานมัลติคลาวด์ การจัดการค่าใช้จ่าย การใช้ทรัพยากรต่างๆ การใช้ประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน การรักษาความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนดบนคลาวด์ที่มีความแตกต่างเป็นเรื่องยากและอาจจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เกินกำหนด ไร้ประสิทธิภาพและเพิ่มความเสี่ยง”

เพื่ออุดช่องว่างดังกล่าว วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอในการจัดการมัลติคลาวด์ที่เรียกว่า “VMware Aria” โซลูชันแบบครบวงจร ช่วยรองรับการจัดการต้นทุน ประสิทธิภาพ การกำหนดค่าต่างๆ รวมถึงการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานพร้อมการรองรับการใช้งานเนทีฟแอปพลิเคชันบนคลาวด์

การประกาศเปิดตัวดังกล่าว มาพร้อมกับความสามารถใหม่พร้อมกับการขยายขอบเขตสำหรับการจัดการคลาวด์แบบเนทีฟและมัลติคลาวด์ สามารถตอบโจทย์การกำกับดูแลคลาวด์ การเคลื่อนย้ายคลาวด์ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ