ถอดรหัส "ฉลากเบอร์ 5 ติดดาว" มาตรฐานใหม่ประหยัดไฟที่มีในตู้เย็น LG รุ่นใหม่

ถอดรหัส "ฉลากเบอร์ 5 ติดดาว" มาตรฐานใหม่ประหยัดไฟที่มีในตู้เย็น LG รุ่นใหม่

ทำความรู้จัก “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” ล่าสุด พร้อมเทคนิคในการเลือกซื้อตู้เย็นเพื่อการใช้งานอย่างคุ้มค่าและประหยัดไฟสูงสุด

“ค่าไฟแพง ค่าแรงถูก” เป็นปัญหาที่คนยุคนี้กำลังเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่วิถีชีวิตยังต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า หากไม่หนีไปใช้พลังงานทางเลือก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ก็คงต้องแบกรับค่าใช้จ่ายนี้กันต่อไป

ทว่าภาระเรื่องค่าไฟฟ้าที่หนักหนา ก็ทุเลาลงได้ด้วยการ ประหยัดไฟ วิธีต่างๆ ทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ ซึ่งหลายคนจะคุ้นตากับ ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 กันดี เพราะคือเครื่องหมายการันตีความประหยัดไฟที่ถูกใช้กันมานาน

แต่นอกจาก “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” เวอร์ชั่นปกติ ปัจจุบันมี ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ซึ่งถือเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดที่จะยืนยันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายนี้จะช่วยคุณประหยัดไฟได้ดีกว่าเดิม

ไปทำความรู้จัก “ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5” เวอร์ชั่นใหม่ว่าแตกต่างจากเวอร์ชั่นเก่าอย่างไร หรือจะเป็นแค่กุศโลบายเพิ่มคำว่า “ติดดาว” แล้วบอกว่าเหนือกว่าแล้ว

สำหรับ “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว” นั้น เริ่มใช้กันตั้งแต่ปี 2562 โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ยกระดับมาตรฐานการประหยัดพลังงาน จากฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แบบเดิม ด้วยการปรับให้เป็นฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าและให้ข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภค พร้อมแบ่งเกณฑ์ระดับประสิทธิภาพพลังงานออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ เบอร์ 5 เบอร์ 5 ระดับ 1 ดาว เบอร์ 5 ระดับ 2 ดาว และเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว ซึ่งยิ่งมีจำนวนดาวมากขึ้น ก็ยิ่งแสดงถึงการประหยัดไฟที่เพิ่มขึ้น

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษถึงความประหยัดไฟด้วย “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว” มักจะอยู่ในกลุ่มของเครื่องทำความเย็น ทั้งเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น โดยเฉพาะ ตู้เย็น ที่ต้องเปิดใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

ถอดรหัส \"ฉลากเบอร์ 5 ติดดาว\" มาตรฐานใหม่ประหยัดไฟที่มีในตู้เย็น LG รุ่นใหม่

การเลือกซื้อตู้เย็นจึงต้องมีเทคนิคเล็กน้อย ที่จะไม่ทำให้ตู้เย็นใหม่มาเป็นภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอีกชิ้นหนึ่ง

หนึ่งเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถประหยัดไฟจากการใช้ตู้เย็นได้มากขึ้นคือการเลือกตู้เย็นที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งในด้านขนาดความจุที่เพียงพอสำหรับปริมาณสมาชิกภายในบ้าน รวมถึงการเลือกตู้เย็นที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ความถี่ในการหยิบใช้วัตถุดิบและการทำอาหาร เป็นต้น

ตู้เย็นจากแบรนด์ LG รุ่นใหม่ในซีรีส์ New Smart Inverter ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการประหยัดไฟจนได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของประสิทธิภาพที่ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากถึง 27 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ในตู้เย็นแบบสองประตู ยังเข้าเกณฑ์ตู้เย็นที่ช่วยประหยัดไฟตั้งแต่การออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยการแบ่งประตูจะช่วยให้ไม่ต้องเปิดตู้เย็นทั้งหลัง ผู้ใช้เลือกเปิดเฉพาะฝั่งที่ต้องการหยิบของในนั้นได้ รวมถึงระบบทำน้ำแข็งอัตโนมัติ (Auto Ice Maker) พร้อมที่กดน้ำบนบานประตูตู้เย็น (Water Dispenser) ซึ่งลดการเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำดื่มได้ด้วย

ถอดรหัส \"ฉลากเบอร์ 5 ติดดาว\" มาตรฐานใหม่ประหยัดไฟที่มีในตู้เย็น LG รุ่นใหม่

ในแง่ประสิทธิภาพการใช้งาน ตู้เย็น LG New Smart Inverter มาพร้อมเทคโนโลยี Door Cooling+ ที่ช่วยทำความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอและรวดเร็วขึ้น และเทคโนโลยี Linear Cooling ที่ช่วยลดความผันผวนของอุณหภูมิและยังช่วยคงความสดใหม่ของอาหาร รวมถึงผักผลไม้ ไว้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น

เมื่อการประหยัดไฟกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่ต้องคำนึงเมื่อเลือกซื้อตู้เย็น ทั้ง “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว” และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างประหยัดพลังงานจึงเป็นตัวช่วยให้เลือกตู้เย็นได้อย่างเหมาะสมในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้