วุ่นส่งท้ายปี! โรดแมปทีวีดิจิทัลถูกดอง ผู้ประกอบการจ่อฟ้อง 'สรณ' ไม่บรรจุวาระ

จับตาบอร์ดกสทช.วันนี้ 29 ธ.ค. นัดส่งท้ายปี ทีวีดิจิทัลจ่อฟ้องศาลปกครองหลังประธานกสทช. เกียร์วางดองวาระ–ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ชี้ทำให้อุตสาหกรรมเสี่ยงสูง ธุรกิจไร้ทิศทาง–สุญญากาศกำกับ OTT เอื้อสแกมเมอร์เปิดช่องภัยไซเบอร์
KEY
POINTS
- ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง หากบอร์ด กสทช. ไม่นำวาระ "โรดแมปทีวีดิจิทัล" และแผนกำกับดูแล OTT เข้าพิจารณาในการประชุมนัดสุดท้ายวันนี้
- การฟ้องร้องมุ่งเป้าไปที่ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เป็นจำเลยหลัก ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากดองวาระสำคัญมานานกว่า 2 ปี
- คดีนี้ไม่ได้เป็นการเรียกร้องค่าเสียหาย แต่เป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้ประธาน กสทช. ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
- การดองวาระดังกล่าวสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรม ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถวางแผนธุรกิจระยะยาวได้ เนื่องจากใบอนุญาตจะหมดอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลและสมาคมทีวีดิจิตอล เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลได้หารือร่วมกันอย่างจริงจังถึงแนวทางการดำเนินการทางกฎหมาย หากการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วันนี้ (29 ธันวาคม) ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปี ยังไม่มีการเปิดให้พิจารณาวาระสำคัญ ได้แก่ โรดแมป ทีวีดิจิทัล แผน OTT แห่งชาติ และแนวทางการกำกับดูแลกิจการ OTT ตามที่เคยมีการรับปากไว้
แหล่งข่าวระบุว่า หากวาระดังกล่าวยังถูกกันออกจากการพิจารณา ผู้ประกอบการจะยื่นฟ้องศาลปกครองโดยทันที โดยมี นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เป็นจำเลยหลัก ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ การดำเนินคดีดังกล่าว ไม่ใช่การเรียกร้องค่าเสียหาย แต่เป็นการฟ้องเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งบังคับให้ผู้มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยชี้ว่าพฤติการณ์ของประธาน กสทช. เข้าข่าย “ละเลยต่อหน้าที่” จากการดองวาระที่มีการเสนออย่างเป็นทางการโดยกรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 2 ปี
กรรมการด้านกิจการโทรทัศน์เสนอวาระครบถ้วน ผู้ประกอบการยื่นหนังสือทวงถามหลายครั้งตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ประธาน กสทช. รับปากว่าจะนำเรื่องเข้าบอร์ด แต่สุดท้ายวาระกลับถูกดองโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ด้านแหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ระบุว่า แนวทางการฟ้องร้องจะอาศัยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 9 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งให้อำนาจศาลปกครองพิจารณาคดีกรณีหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมยื่นคำขอให้ศาลใช้อำนาจตามมาตรา 72 มีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องดำเนินการตามหน้าที่ภายในกรอบเวลาที่ศาลเห็นสมควร
ขณะเดียวกัน การไม่เปิดให้พิจารณาวาระดังกล่าว ยังถูกมองว่าอาจขัดต่อหน้าที่ของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดให้ กสทช. ต้องวางนโยบายและกำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ใบอนุญาตโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินจะสิ้นสุดในปี 2571 และใบอนุญาตทีวีดิจิทัลจะหมดอายุในปี 2572
ผู้ประกอบการมองว่า การดองวาระอย่างต่อเนื่องกำลังสร้างความเสียหายในเชิงโครงสร้าง ทั้งต่อผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัลที่ไม่สามารถกำหนดทิศทางธุรกิจและแผนการลงทุนในระยะยาว ต่อความต่อเนื่องของโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดิน และต่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวม
นอกจากนี้ การที่ประเทศยังไม่มีแนวทางกำกับดูแลกิจการ OTT อย่างเป็นระบบ ยังส่งผลให้เกิดสุญญากาศด้านการกำกับดูแล เปิดช่องให้แพลตฟอร์มออนไลน์หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ และเอื้อให้ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์และขบวนการสแกมเมอร์แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง
นี่ไม่ใช่การขอให้ศาลมากำหนดนโยบาย แต่เป็นการขอให้ศาลบังคับให้ผู้มีอำนาจทำหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อการไม่ตัดสินใจและไม่ดำเนินการ กลายเป็นต้นเหตุของความเสียหายต่อทั้งระบบอุตสาหกรรม
แหล่งข่าวย้ำว่า การประชุมบอร์ด กสทช. วันนี้ (29 ธันวาคม) จะถือเป็นเส้นตายของความอดทน หากยังคงมีการดองวาระและไม่เปิดให้พิจารณาตามที่เคยรับปากไว้ การยื่นฟ้องศาลปกครองจะเกิดขึ้นทันที โดยมุ่งเอาผิดประธาน กสทช. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อยุติภาวะสุญญากาศด้านนโยบายที่กำลังบั่นทอนอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยอย่างต่อเนื่อง







