มนุษย์เงินเดือนมองเทคโนโลยี ‘AI’ ความหวังใหม่ช่วยฝ่าวิกฤติ

แรงงานไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ความกังวลจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจกำลังถูกท้าทายด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีสมัยใหม่
KEY
POINTS
- มนุษย์เงินเดือนกำลังเผชิญความเครียดและแรงกดดันทางการเงินที่รุนแรงขึ้น
- ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ พนักงานชาวไทยมองเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นความหวังใหม่
- ผู้ที่ใช้ AI เป็นประจำในที่ทำงานระบุว่ามีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น (90%) รู้สึกมั่นคงในงานมากขึ้น (58%) และมีรายได้เพิ่มขึ้น (49%)
- GenAI ช่วยให้พนักงานประหยัดเวลาจากงานประจำ ทำให้สามารถนำเวลาไปใช้กับงานที่มีคุณค่ามากขึ้น
ผลสำรวจโดย พีดับบลิวซี ประเทศไทย เผย ปี 2568 แรงงานไทยต้องรับมือแรงกดดันทางเศรษฐกิจ เผชิญความท้าทายด้านการเงินที่ทวีความรุนแรงขึ้น แต่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยสร้างมุมมองในแง่ดีและโอกาสใหม่ในอนาคต
ข้อมูลระบุว่า แรงงานไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ความกังวลจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจกำลังถูกท้าทายด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีสมัยใหม่
โดยเกือบครึ่ง (48%) ยอมรับว่ากำลังเผชิญความเครียดด้านการเงิน เพิ่มขึ้นจาก 43% ในปี 2567 โดย 11% มีปัญหาในการชำระค่าใช้จ่าย และ 37% เหลือเงินหลังค่าใช้จ่ายที่จำเป็นน้อยหรือแทบไม่มีเลย
แม้ 51% ได้รับการปรับเงินเดือนขึ้น และ 20% ได้เลื่อนตำแหน่งในปีที่ผ่านมา แต่มีเพียง 27% ที่วางแผนจะขอขึ้นเงินเดือน และ 25% ตั้งใจจะขอเลื่อนตำแหน่งในอีก 12 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ กำลังเป็นความหวังใหม่สำหรับพนักงานชาวไทยท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงถาโถม โดย 72% กล่าวว่าตนใช้ AI ในที่ทำงานตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 54%
นอกจากนี้ การใช้ GenAI ในชีวิตประจำวันก็เพิ่มขึ้นเป็น 24% จาก 17% ในปีก่อน โดย 90% ของแรงงานไทยที่ใช้ AI เป็นประจำทุกวัน ระบุว่ามีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น 58% รู้สึกมั่นคงในงานที่ทำมากขึ้น และ 49% มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าผู้ที่ใช้ AI เป็นครั้งคราว
เซีย พาตอน หุ้นส่วนสายงานปรึกษา บริษัท พีดับบลิวซี ประเทศไทย กล่าวว่า GenAI ช่วยให้แรงงานไทยสามารถประหยัดเวลาในการทำงานประจำ แต่คุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่การนำเวลานั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์
เมื่อองค์กรกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการนำ GenAI มาใช้ ปรับบทบาทและเส้นทางความก้าวหน้าในสายงาน รวมทั้งส่งเสริมความสามารถในการปรับตัวก็จะเห็นประสิทธิภาพโดยรวมของแรงงานที่ดีขึ้น โอกาสในการเติบโตในสายอาชีพที่เพิ่มขึ้น และแรงกดดันทางการเงินที่ลดลง
โดยการใช้งาน GenAI อย่างมีความรับผิดชอบจะช่วยให้พนักงานได้โฟกัสกับงานที่มีความหมายมากขึ้น และสร้างประโยชน์ที่จับต้องได้ทั้งต่อบุคคลและองค์กร
อย่างไรก็ดี ความไว้วางใจในผู้นำองค์กรถือเป็นจุดแข็งสำคัญของผลสำรวจของประเทศไทย โดย 67% ของแรงงานแสดงความเชื่อมั่นในผู้จัดการของตน และ 68% เชื่อมั่นในผู้บริหารระดับสูง สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 58% และ 51% ตามลำดับ
นอกจากนี้ 66% ของแรงงานยังรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผยกับผู้จัดการของตน เมื่อ AI ถูกนำมาใช้ในการปฏิบัติงานประจำวันมากขึ้น ผู้นำองค์กรที่มีความรับผิดชอบและธรรมาภิบาลจะมีความสำคัญต่อการรักษาความไว้วางใจนี้
การนำ GenAI มาใช้อย่างมีความรับผิดชอบ จะช่วยลดกำแพงที่เป็นลำดับชั้นในองค์กร ส่งเสริมความร่วมมือ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ
ปัจจุบัน องค์กรในประเทศไทยกำลังลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดย 74% ของแรงงานรู้สึกว่าตนเองสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลการเรียนรู้และการพัฒนาที่ต้องการได้อย่างเพียงพอ เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 59%
อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการพัฒนาทักษะยังไม่ทั่วถึงในทุกระดับ โดย 67% ของพนักงานที่ไม่ใช่ระดับผู้จัดการรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุน ในขณะที่ผู้จัดการอยู่ที่ 79% และผู้บริหารระดับสูงอยู่ที่ 87%
การปิดช่องว่างในการเข้าถึงการเรียนรู้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพยากรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแก้ไขปัญหาอื่นด้วย เช่น การกระจายข้อมูลที่ไม่ทั่วถึง ความลังเลทางวัฒนธรรมในการแสวงหาความกระจ่าง และข้อจำกัดด้านเวลา รูปแบบ และภาษา
องค์กรควรพยายามลดอุปสรรคในการขออนุญาตและปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับบริบทไทย เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียม







