เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ เลือก ‘Slop’ เป็นคำแห่งปี 68 หลังโซเชียลเต็มไปด้วยคอนเทนต์เอไอ

Slop เป็นคำแห่งปี 2568 สะท้อนถึงการแพร่หลายของคอนเทนต์คุณภาพต่ำที่สร้างโดยเอไอบนโซเชียลมีเดีย ในบริบทนี้หมายถึงเนื้อหาดิจิทัลที่ผลิตด้วยเอไอในปริมาณมากแต่มีคุณภาพต่ำ เช่น คลิปวิดีโอแปลกๆ ข่าวปลอม ภาพเหนือจริง หรือเพลงที่เข้าข่ายสแปม
KEY
POINTS
- พจนานุกรมเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ ประกาศให้ Slop เป็นคำแห่งปี 2568 สะท้อนถึงการแพร่หลายของคอนเทนต์คุณภาพต่ำที่สร้างโดยเอไอบนโซเชียลมีเดีย
- Slop ในบริบทนี้หมายถึงเนื้อหาดิจิทัลที่ผลิตด้วยเอไอในปริมาณมากแต่มีคุณภาพต่ำ เช่น คลิปวิดีโอแปลกๆ ข่าวปลอม ภาพเหนือจริง หรือเพลงที่เข้าข่ายสแปม
- การเลือกคำนี้สะท้อนความรู้สึกของผู้คนต่อคอนเทนต์เอไอ ซึ่งมีทั้งความรำคาญ ความกังวลเรื่องข้อมูลเท็จ และความต้องการเนื้อหาที่เป็นของจริงและมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียในปี 2568 ที่พบเห็นได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ คือ คลิปประหลาด ภาพเหนือจริง ข่าวที่ดูเหมือนจริงแต่ไม่แน่ใจว่าจริง หรือผลงานดิจิทัลจำนวนมากที่ผลิตออกมาอย่างรวดเร็ว จนแทบแยกไม่ออกว่าอะไรคือของจริง และอะไรคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์
ภาพรวมของโลกดิจิทัลในลักษณะนี้ ทำให้พจนานุกรมเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ (Merriam-Webster) ตัดสินใจเลือกคำว่า “Slop” เป็นคำแห่งปี หรืออาจคุ้นหูในชื่อ AI Slop เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ผลิตด้วยเอไอในปริมาณมาก
เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ให้นิยาม Slop ว่าเป็นคอนเทนต์ดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตด้วยเอไอในปริมาณเยอะๆ เดิมทีคำนี้ใช้มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เพื่อหมายถึงโคลนอ่อนหรือสิ่งเลอะเทอะ ก่อนจะถูกใช้ในความหมายของสิ่งที่มีคุณค่าต่ำ และค่อยๆ ขยายความหมายตามบริบทของสังคมดิจิทัลในปัจจุบัน
การเปลี่ยนผ่านของคำเกิดขึ้นพร้อมกับการเติบโตของเครื่องมือสร้างเนื้อหาด้วยเอไอบนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ตัวอย่างที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางคือ วิดีโอสิ่งมีชีวิตประหลาดที่แปรสภาพไปมาในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเว็บไซต์ 404 Media รายงานว่ามียอดรับชมมากกว่า 362 ล้านครั้งบนแพลตฟอร์มของเมตา
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เริ่มเปิดเครื่องมือและพื้นที่เฉพาะสำหรับคอนเทนต์ที่สร้างด้วยเอไอ โดยเมตา เปิดตัว Vibes ซึ่งเป็นฟีดสำหรับรวมวิดีโอที่สร้างด้วยเอไอโดยเฉพาะ ขณะที่โอเพนเอไอ เปิดตัว Sora เครื่องมือสร้างวิดีโอจากข้อความสั้นๆ
เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ทำงานควบคู่กับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่างติ๊กต็อก และยูทูบ การผลิตและเผยแพร่คอนเทนต์ด้วยเอไอจึงทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น สามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งในหลายกรณีเนื้อหาเหล่านี้ยังสร้างรายได้จากยอดรับชมและการมีส่วนร่วมได้โดยตรง
นอกจากนี้แล้ว อุตสาหกรรมดนตรีเองก็ได้รับผลกระทบ เช่น สปอติฟาย เปิดเผยว่าได้ลบเพลงที่สร้างด้วยเอไอ ซึ่งเข้าข่ายสแปมออกจากระบบมากกว่า 75 ล้านแทร็ก พร้อมออกนโยบายเพื่อปกป้องศิลปินจากการแอบอ้างและการหลอกลวงด้วยเอไอ
สปอติฟายเคยถูกตั้งคำถาม หลังโปรเจ็กต์ดนตรีชื่อ The Velvet Sundown มียอดผู้ฟังรายเดือนถึง 1 ล้านคน โดยไม่ได้ระบุชัดเจนในช่วงแรกว่าเป็นผลงานที่สร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์ ก่อนจะมีการชี้แจงภายหลังว่าเป็นโครงการดนตรีสังเคราะห์
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจจาก All-America Economic Survey ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ระบุว่า การใช้งานแพลตฟอร์มเอไออย่าง ChatGPT, Copilot และ Gemini ในช่วง 2-3 เดือนล่าสุดลดลงเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี มีเพียง 48% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่ระบุว่า ใช้งานเอไอเมื่อไม่นานมานี้ ลดลงจาก 53% ในเดือนสิงหาคม
เกร็ก บาร์โลว์ (Greg Barlow) ประธานเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ ระบุว่า Slop เป็นคำที่สื่อภาพได้ชัดเจน สะท้อนความรู้สึกหลากหลายของผู้คนต่อเอไอ ตั้งแต่ความตื่นตา ความรำคาญ ไปจนถึงความรู้สึกว่าบางครั้งเทคโนโลยีที่ถูกมองว่าฉลาด ก็อาจสร้างสิ่งที่ดูไร้สาระได้
เขาอธิบายอีกว่า Slop ครอบคลุมตั้งแต่วิดีโอไร้เหตุผล ภาพโฆษณาประหลาด ข่าวปลอมที่ดูเหมือนจริง ไปจนถึงหนังสือดิจิทัลคุณภาพต่ำที่เขียนโดยเอไอ
อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีอย่าง Sora จะสร้างความประทับใจจากความสามารถในการสร้างภาพสมจริงจากข้อความสั้นๆ แต่การแพร่กระจายของเนื้อหาลักษณะนี้ โดยเฉพาะคลิปที่เกี่ยวข้องกับคนดังหรือบุคคลสาธารณะที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้กระตุ้นความกังวลเรื่องข้อมูลเท็จ ดีพเฟก และลิขสิทธิ์ เนื้อหาประเภทนี้ยังถูกนำไปใช้ในบริบททางการเมือง
ตัวอย่างหนึ่งคือ กรณีของ พีต เฮกเซธ (Pete Hegseth) รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐที่โพสต์ภาพการ์ตูนเด็กชื่อ “แฟรงคลิน” (Franklin) ซึ่งถูกดัดแปลงให้สื่อถึงความรุนแรง เพื่ออธิบายจุดยืนด้านการทหารของสหรัฐ
สำหรับบาร์โลว์ การที่คำว่า Slop ถูกค้นหาและใช้งานมากขึ้น สะท้อนว่าผู้คนเริ่มตระหนักถึงเนื้อหาปลอมหรือคุณภาพต่ำ และกำลังมองหาสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นคือความจริง ความตั้งใจ และความเป็นมนุษย์ในโลกดิจิทัล
เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ระบุว่า กระบวนการเลือกคำแห่งปีมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการค้นหาและการใช้งานคำ ก่อนที่บรรณาธิการจะร่วมกันตัดสินว่าคำใดสะท้อนบรรยากาศของปีนั้นได้ดีที่สุด
นอกจาก Slop แล้ว เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ยังเปิดเผยรายชื่อคำเด่นของปี 2568 อีกหลายคำ เช่น “Performative” ที่ใช้เรียกพฤติกรรมสร้างภาพในโลกออนไลน์และการเมือง “Gerrymander” ที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตเลือกตั้งในสหรัฐ “Touch grass” ที่สะท้อนความต้องการหลีกออกจากโลกดิจิทัล และ “Tariffs” หรือภาษีศุลกากร ซึ่งกลับมาอยู่ในความสนใจจากประเด็นการค้าโลก
ตั้งแต่ปี 2546 เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์เลือกคำแห่งปีเพื่อทำหน้าที่เป็นภาพสะท้อนของสังคมในแต่ละช่วงเวลา โดยคำในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เช่น “Pandemic”, “Vaccine”, “Gaslighting” และ “Polarization” ล้วนสะท้อนความเปลี่ยนแปลง ความตึงเครียด และคำถามสำคัญที่ผู้คนเผชิญในยุคของตนเอง
เช่นเดียวกับ Slop ที่กลายเป็นภาพแทนของโลกออนไลน์ในยุคปัญญาประดิษฐ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้







