ภัยร้าย AI บูมธุรกิจท่องเที่ยว โจรไซเบอร์จ้องล้วงข้อมูลนักเดินทาง

เครื่องมือ AI ที่แพร่หลาย ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และต้องอาศัยข้อมูล ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
KEY
POINTS
- การใช้ AI เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- นักท่องเที่ยวชาวไทย 31% ใช้เครื่องมือ AI เพื่อค้นหาข้อมูล ที่พัก และตั๋วเดินทาง
- การวางแผนและจองการเดินทางผ่าน AI จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่ (86%) ตระหนักถึงปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่เชื่อว่าปลอดภัยจริง
- อาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อพัฒนาการโจมตีให้มีประสิทธิภาพและตรวจจับได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
- รูปแบบการโจมตีที่พบบ่อยคือการใช้โค้ดอันตรายที่สร้างโดย AI เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิตจากระบบโรงแรม และการสร้างอีเมลฟิชชิงหลอกลวงด้วยข้อเสนอท่องเที่ยวปลอมที่ดูสมจริง
วันนี้เทคโนโลยี AI กลายเป็นส่วนสำคัญของการใช้งานอินเทอร์เน็ต เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI อยู่รอบตัวเราในเกือบทุกที่ รวมถึงการใช้งานเพื่อการจัดการการเดินทาง
ผลการวิจัยของ แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) เผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อ AI ในด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกจำนวน 28% เชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้ ทั้งยังพบว่าประสบการณ์โดยรวมเป็นไปในเชิงบวกอย่างมาก
ผู้ใช้ 96% พึงพอใจที่ใช้ AI และ 84% ตั้งใจที่จะใช้ AI อีกครั้งเพื่อวางแผนอีกในอนาคต ข้อมูลนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างมาก โดยพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทย 31% ใช้งานเครื่องมือ AI ในการวางแผนการเดินทาง
AI กลายเป็นเพื่อนร่วมทาง
ไซมอน เติ้ง ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคอาเซียนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ของเอเชีย แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า การบูรณาการ AI เข้ากับการวางแผนการเดินทางกำลังเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่คึกคัก
ปัจจุบัน AI กลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่สำคัญ ทั้งช่วยสร้างแผนการเดินทางและเปรียบเทียบตัวเลือกที่ซับซ้อนความสะดวกสบายจากการใช้ AI นี้กำลังได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วจากผู้ใช้รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเครื่องมือ AI แพร่หลายมากขึ้น ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่าบริการนี้ทำงานบนระบบคลาวด์และต้องอาศัยข้อมูล ข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละรายการก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยโดยไม่จำเป็น
ความสะดวกสบายในการใช้ AI ไม่ควรใช้เป็นข้อยกเว้นในการละเลยความระแวดระวัง การตระหนักถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ใช้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ AI อย่างระมัดระวัง และระลึกไว้เสมอว่าความปลอดภัยนั้นสำคัญกว่าความเร็วและความสะดวกสบายเสมอ
AI กับการวางแผน 'การเดินทาง'
แคสเปอร์สกี้พบว่า ฟังก์ชัน AI ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเดินทางคือการค้นหาข้อมูล ผู้ที่ใช้ AI ในการวางแผนการท่องเที่ยว 70% เชื่อว่า AI ช่วยค้นหากิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ เส้นทางท่องเที่ยวที่นิยม และร้านขายของที่ระลึก, 66% ใช้ AI ในการค้นหาที่พัก, 60% ใช้ AI ในการทำรายการร้านอาหาร, และ 58% ใช้ในการค้นหาตั๋วเดินทาง
เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแล้ว การจองโดยใช้ AI ได้รับความนิยมน้อยกว่าในทุกกลุ่ม พบว่า 45% ใช้ AI ในการจองโรงแรม 43% ใช้จองตั๋ว และ 38% ใช้เกี่ยวกับร้านอาหาร และพบว่า 45% ใช้ AI ในการแก้ไขปัญหาเรื่องวีซ่าและการเข้าเมือง ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงหาก AI แสดงเนื้อหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมเหตุสมผล
จากการสำรวจในประเทศพบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทย 31% ใช้ AI ในการวางแผนการเดินทาง และอีก 69% คาดว่าจะใช้ในอนาคต การพึ่งพา AI ที่เพิ่มขึ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใช้ที่เชื่อมั่นใน AI อย่างมาก
โดย 57% เชื่อมั่นในข้อมูลที่ได้รับจาก AI และพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยใช้ AI มากขึ้นเพื่อช่วยในกิจกรรมต่างๆ เช่น การค้นคว้าหาข้อมูลจุดหมายปลายทางใหม่ๆ การแก้ไขปัญหาด้านภาษา และการจัดการด้านโลจิสติกส์ของการเดินทาง
ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 30% วางแผนจะใช้ AI เพื่อหาที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น และการแปลภาษา
AI และประเด็นความปลอดภัย
นอกจากการกำหนดเส้นทางและการค้นหาข้อมูลแล้ว พบว่าในหลายกรณี การใช้ AI ในการวางแผนการเดินทางยังรวมถึงการจองโรงแรมและตั๋วเดินทาง ซึ่งต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
การสำรวจของแคสเปอร์สกี้เผยให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวบางส่วนยังไม่พร้อมที่จะไว้วางใจ AI และแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลของตน 48% มองเห็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการใช้งาน AI และพยายามไม่แจ้งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนใดๆ กับ AI
ขณะที่ผู้ที่ใช้ AI ในการวางแผนการเดินทางจำนวน 86% คำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลขณะใช้งานเครื่องมือนี้ มีผู้ใช้เพียง 14% เท่านั้นที่มั่นใจว่าการแจ้งข้อมูลให้กับ AI นั้นปลอดภัยจริงๆ
กลุ่มคนรุ่นใหม่ (อายุ 18-34 ปี) กังวลเรื่องความปลอดภัยของบริการ AI สูงกว่า โดยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 52% ระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับ AI ส่วนกลุ่มคนรุ่นเก่า (55 ปีขึ้นไป) ระมัดระวังน้อยลงเล็กน้อยในการใช้ AI
มีเพียง 42% เท่านั้นที่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และ 44% ไม่กังวลเรื่องภัยคุกคามด้านความปลอดภัยมากนัก แต่ก็เลือกที่จะให้ข้อมูลอย่างระมัดระวัง
โจรไซเบอร์ล็อกเป้า 'วันหยุด'
ปัจจุบันอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อทำให้การโจมตีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและตรวจจับได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูกาลชอปปิงและการท่องเที่ยวที่คึกคัก
- การโจมตีโรงแรม: กลุ่มผู้ก่อภัยคุกคามที่ชื่อว่า RevengeHotels กำลังใช้โค้ดอันตรายที่สร้างโดย AI เพื่อโจมตีภาคโรงแรมและการท่องเที่ยว มีเป้าหมายเฉพาะคือการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของแขกจากระบบของโรงแรม
- การหลอกลวงแบบฟิชชิงขั้นสูง: AI ช่วยให้การหลอกลวงต่างๆ ดูเหมือนจริงมากขึ้น และยากที่ผู้ใช้ทั่วไปจะสังเกตเห็น เช่น อีเมลฟิชชิงที่มีข้อเสนอเที่ยวบินฟรีปลอม หรือข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง
- ปริมาณที่เพิ่มขึ้น: การชอปปิงและการเดินทางออนไลน์ที่มากขึ้นหมายถึงเป้าหมายที่มากขึ้น และอาชญากรรมไซเบอร์จะเพิ่มในช่วงเทศกาลวันหยุด







