พลิกโฉมสื่อไทยรอบ 10 ปี! บอร์ดกสทช.เตรียมเคาะโรดแมป ‘ทีวีดิจิทัล’ ยุคใหม่

จับตาบอร์ดกสทช. เคาะ Roadmap DigitalTVใหม่ หลังโฟกัสกรุ๊ป เปิดทาง “National Streaming Platform” วางกรอบการกำกับดูแลโอทีที เปลี่ยนโฉมสื่อไทยในรอบ 10 ปี
KEY
POINTS
- บอร์ด กสทช. เตรียมพิจารณาอนุมัติโรดแมปกิจการโทรทัศน์ (พ.ศ. 2569–2573) เพื่อกำหนดทิศทางทีวีดิจิทัลยุคใหม่ก่อนใบอนุญาตจะหมดอายุในปี 2572
- ผลักดันการสร้างแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับชาติ (National Streaming Platform)
- ผลักดันการรับชมทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
- วางกรอบการกำกับดูแลผู้ให้บริการ OTT (เช่น YouTube, Netflix) โดยเน้นการคุ้มครองผู้บริโภค และพัฒนาระบบเตือนภัยฉุกเฉิน (EWS) ผ่านทุกช่องทาง
- กำหนดมาตรฐานสื่อสำหรับผู้พิการและการออกแบบที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Inclusive Design)
บอร์ดกสทช. เตรียมเคาะ Roadmap DigitalTVใหม่ หลังโฟกัสกรุ๊ป เปิดทาง “National Streaming Platform” ออกแนวกำกับดูแลโอทีที เปลี่ยนโฉมสื่อไทยในรอบ 10 ปี
แหล่งข่าวจาก สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด กสทช. วันที่ 9 และ 11 ธันวาคมนี้ ถูกจับตาว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมสื่อไทยในรอบ 10 ปี เมื่อมีวาระสำคัญกำหนดทิศทางทีวีดิจิทัลก่อนใบอนุญาตหมดอายุปี 2572
รวมถึงการผลักดันแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับชาติ (National Streaming Platform) การกำกับ OTT การสร้างระบบเตือนภัยฉุกเฉินผ่านทีวี และมาตรฐานสื่อสำหรับผู้พิการ ซึ่งทั้งหมดจะถูกวางกรอบไว้ใน Roadmap กิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2569–2573 ที่ถูกมองว่าจะยกระดับการรับชมทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตให้เป็น “สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน”
แหล่งข่าวใน สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) เผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสทช.) วันที่ 9 และ 11 ธันวาคม มีวาระสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ที่อาจเปลี่ยนโครงสร้างสื่อไทยทั้งระบบ โดยเฉพาะการพิจารณา ร่าง Roadmap กิจการโทรทัศน์ 2569–2573 ซึ่งเป็นแผนระยะยาวเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการหมดอายุใบอนุญาตโทรทัศน์ภาคพื้นดินในปี พ.ศ. 2572
Roadmap รองรับใบอนุญาตหมดปี 2572
แหล่งข่าวเผยว่า Roadmap ฉบับดังกล่าวครอบคลุม 3 เรื่องหลัก ได้แก่
- การกำกับดูแลอุตสาหกรรมทีวี อาทิ การปรับเกณฑ์ Must Carry ใหม่, การเรียงช่องแบบข้ามแพลตฟอร์ม, การจัดสรรคลื่นความถี่ 3500 MHz เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงเกณฑ์ว่าด้วยโครงสร้างโครงข่าย MUX
- การส่งเสริมการแข่งขันและโครงสร้างธุรกิจ เช่น สนับสนุนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับชาติ (National Streaming Platform) และ Audio Streaming Platform รวมถึงมาตรการสนับสนุนผู้ให้บริการโครงข่าย
- การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เช่น ມาตรฐานความปลอดภัยสื่อ และการออกแบบให้ผู้พิการเข้าถึงได้ (Inclusive Design)
แหล่งข่าวระบุว่า Roadmap นี้จะเป็นตัวกำหนด “บทบาทใหม่ของทีวีไทย” ว่าจะยังคงอยู่แบบออกอากาศอย่างเดียว หรือเข้าสู่รูปแบบผสมผสานระหว่างระบบทีวีและสตรีมมิ่ง (Hybrid Broadcast–Streaming)
National Streaming Platform: ดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นสิทธิฝั่งผู้ชม
อีกวาระที่ถูกจับตา คือ แนวทางจัดให้มีช่องทางรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านโครงสร้าง Multi-CDN Platform ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของ National Streaming Platform โดยมีแนวคิดให้ประชาชนสามารถดูทีวีภาคพื้นดินผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องพึ่งเสาอากาศ กล่องรับสัญญาณ หรือจานดาวเทียม และต้องดูได้อย่างเท่าเทียมไม่ว่าผู้ชมใช้อินเทอร์เน็ตของเครือข่ายใด
แหล่งข่าวระบุว่าโครงการดังกล่าวได้ถูกบรรจุใน แผน USO ด้านกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ. 2566–2568 จำนวน 11 โครงการ พร้อมงบสนับสนุนจาก กองทุนวิจัยและพัฒนา กสทช. (กทปส.) เพื่อช่วยผู้ให้บริการโครงข่าย (MUX) ในการติดตั้งอุปกรณ์และ API ที่จำเป็นสำหรับรองรับ สัญญาณระหว่างทีวีและออนไลน์แบบแพลตฟอร์มกลาง
EWS: ทีวีเตือนภัยฉุกเฉินทั่วประเทศ
ในวาระเดียวกัน กสทช. จะพิจารณารายงานและแนวทางพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านโทรทัศน์ (Emergency Warning System: EWS) โดยกำหนดให้ทุกช่องทีวีสามารถ “แจ้งเตือนอัตโนมัติ” ด้วยระบบ Broadcast Override และเชื่อม API กลาง ซึ่งในอนาคตอาจครอบคลุมการแจ้งเตือนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับ National Streaming Platform
แหล่งข่าวระบุว่า EWS จะเป็นระบบ “ข้ามแพลตฟอร์ม” ซึ่งสื่อทั้งแบบออกอากาศ IPTV และออนไลน์มีหน้าที่แจ้งเตือนภัยต่อสาธารณะ ไม่ใช่เพียงการส่งสัญญาณเฉพาะบนหน้าจอทีวี
กำกับ OTT: ไม่ควบคุมมาก แต่คุ้มครองผู้ชม
อีกวาระที่สำคัญคือ ร่างประกาศกำกับการแพร่ภาพและเสียงผ่านอินเทอร์เน็ต (OTT) ควบคู่กับการจัดตั้ง คณะกรรมการร่วมระหว่างหน่วยงานรัฐ ที่มี สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เป็นแกนหลักภายใต้ พ.ร.บ.บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล 2565 โดยหลักการกำกับถูกวางไว้ว่า
“กำกับเท่าที่จำเป็น เพื่อความโปร่งใส ความเป็นธรรม การแข่งขัน และการคุ้มครองผู้บริโภค มากกว่าการควบคุมเนื้อหา”
แหล่งข่าวชี้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่แพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง YouTube, TikTok, Netflix, VIU จะต้องเข้าระบบรับผิดชอบด้านผู้บริโภคตามกฎหมายไทยอย่างเป็นรูปธรรม
สื่อเพื่อคนทั้งประเทศ – บังคับรองรับผู้พิการ
Roadmap ยังมีรายละเอียดเรื่องการยกระดับบริการสำหรับผู้พิการ เช่น คำบรรยายแทนเสียงแบบสด (Live Captioning) API สำหรับช่วยผู้พิการเข้าถึงเนื้อหา และข้อกำหนดให้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต้องรองรับการใช้งานของผู้พิการทุกประเภท โดยใช้งบสนับสนุนจากกองทุน กทปส.
จุดเปลี่ยนสื่อไทย 10 ปี
สมาคมทีวีดิจิทัลประเมินว่า หากมติดังกล่าวผ่าน จะเป็น จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมสื่อไทยครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ เพราะทีวีจะไม่ใช่เพียงระบบออกอากาศ แต่ต้องมีการรับชมบนอินเทอร์เน็ตแบบเข้าถึงได้เท่าเทียม และจะเข้าสู่การแข่งขันโดยตรงกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก ซึ่งจะทำให้ “สื่อเป็นบริการเพื่อสาธารณะ ไม่ใช่สินค้าเฉพาะในตลาดเอกชน”







