AIS ชู “Sustainable Connectivity” เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดคาร์บอน สร้างนิเวศยั่งยืนของประเทศ

AIS ชู “Sustainable Connectivity” เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดคาร์บอน สร้างนิเวศยั่งยืนของประเทศ

AIS ย้ำบทบาทโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลคือหัวใจการพัฒนาประเทศ เปิดวิสัยทัศน์ 3 แกน “Sustainable–Ecosystem–Partnership” พร้อมเดินหน้าลดคาร์บอน ขยายโครงการลดเหลื่อมล้ำดิจิทัล ผลักดัน Digital Wellness และยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ ควบคู่การสร้างเครือข่ายที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับทุกอุตสาหกรรม

KEY

POINTS

  • AIS ชูแนวคิด “Sustainable Connectivity” หรือการเชื่อมต่อที่ยั่งยืน เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งสำหรับทุกภาคอุตสาหกรรม
  • โดยมีแกนหลักในการพัฒนา 3 ด้าน คือ ความยั่งยืน (Sustainable), ระบบนิเวศ (Ecosystem) และความร่วมมือ (Partnership)
  • มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการยกระดับโครงข่ายให้มีเสถียรภาพและปลอดภัย เพื่อรองรับการเติบโตของบริการดิจิทัลต่างๆ 
  • ดำเนินการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างจริงจัง ผ่านการใช้เทคโนโลยี AI บริหารจัดการพลังงาน, เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน ภายใต้แนวคิด “More Bit Less Watt” 
  • สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนด้วยการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล โดยนำเทคโนโลยีเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลเพื่อสร้างอาชีพและโอกาสทางเศรษฐกิจ พร้อมส่งเสริมทักษะความปลอดภัยไซเบอร์

นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) กล่าวบนเวทีสัมมนาของกรุงเทพธุรกิจ Sustainability Forum 2026: Shift Forward: Overcoming Challenges ในหัวข้อ Intelligent Technology on the Path to Sustainability Goals ถึงบทบาทของเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลว่า ทุกวันนี้กลายเป็น “ตัวเร่ง” ทางเศรษฐกิจและสังคมระดับประเทศ โดยชี้ว่าเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมืออีกต่อไป แต่เป็น “Enabler” ที่เชื่อมตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การดำเนินงาน ไปจนถึงการสร้างความยั่งยืนในภาคส่วนต่างๆ และต้องถูกร้อยเข้ากับยุทธศาสตร์ของแต่ละอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ

เขาระบุว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะผู้ใช้เทคโนโลยีภายในและในฐานะโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้เซกเตอร์อื่นลดคาร์บอน โดยอ้างอิงงานวิจัยของ GSMA ซึ่งยืนยันว่าบริการดิจิทัล เช่น สมาร์ทโฮม สมาร์ทบิลดิ้ง ระบบ พลังงานอัจฉริยะ หรือการทำงานผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้อย่างเป็นรูปธรรม AIS จึงต้องพัฒนาศักยภาพเครือข่ายให้แข็งแรงเพื่อรองรับบริการเหล่านี้อย่างยั่งยืน

AIS ชู “Sustainable Connectivity” เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดคาร์บอน สร้างนิเวศยั่งยืนของประเทศ

นายวสิษฐ์กล่าวว่า วิสัยทัศน์การพัฒนาของ AIS วางแกนหลักไว้ 3 คำ คือ “Sustainable – Ecosystem – Partnership” สอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติที่ระบุว่าความยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือ ไม่สามารถขับเคลื่อนโดยองค์กรใดองค์กรหนึ่ง AIS จึงตั้งใจเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลครบวงจร พร้อมวางรากฐาน “Sustainable Connectivity” ให้กับทุกภาคอุตสาหกรรม

สำหรับแกนการพัฒนาอย่างยั่งยืน แบ่งออกเป็น 3 มิติ ได้แก่

  • การใช้บริการดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
  • การลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล
  • การลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

โดยทั้งหมดต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน โดยบริการโมบายและบรอดแบนด์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงการติดต่อสื่อสาร แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ บ้าน อาคาร ระบบเซนเซอร์ กล้อง CCTV ไปจนถึงแอปพลิเคชันด้านการเงินและบริการดิจิทัลต่างๆ

AIS ชู “Sustainable Connectivity” เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดคาร์บอน สร้างนิเวศยั่งยืนของประเทศ

เขา เน้นว่าเมื่อเศรษฐกิจดิจิทัลพึ่งพาโครงข่ายมากขึ้น AIS ต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้มั่นคง พร้อมเร่งพัฒนานวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรระดับสากล ควบคู่การเพิ่มความปลอดภัยไซเบอร์ ทั้งการบล็อกสแปม SMS หลอกลวง ปิดกั้น URL อันตราย รวมถึงปฏิบัติการเชิงรุกกับตำรวจเพื่อตรวจจับกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณเครือข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งมักติดตั้งบนรถและเคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ต่างๆ โดย AIS ได้ร่วมลงพื้นที่จับกุมหลายครั้งเพื่อปกป้องผู้ใช้งาน

ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ นายวสิษฐ์ ระบุว่า AIS เดินหน้าโครงการนำเทคโนโลยีเข้าพื้นที่ห่างไกลร่วมกับหน่วยงานรัฐ เช่น สวพศ เพื่อช่วยให้ประชาชนบนพื้นที่สูงเข้าถึงการสื่อสารและสร้างอาชีพ เช่น ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนจากปลูกพืชเชิงเดี่ยวสู่พืชมูลค่าสูงอย่างกาแฟ พร้อมเปิดช่องทางขายผ่านออนไลน์จนเกิดผู้ประกอบการและอินฟลูเอนเซอร์ชุมชนหลายราย อย่างไรก็ตาม ในฤดูฝนยังมีปัญหาการขนส่ง จึงอยู่ระหว่างพัฒนาโซลูชันโดรนช่วยลำเลียงสินค้าในช่วงที่การเดินทางลำบาก

AIS ชู “Sustainable Connectivity” เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดคาร์บอน สร้างนิเวศยั่งยืนของประเทศ

พร้อมกันนี้ AIS ยังพัฒนาห้องสมุดดิจิทัลทั่วประเทศ ทำการศึกษาผลกระทบทางสังคมจากเทคโนโลยีในแต่ละพื้นที่ และผลักดันโครงการ “Digital Wellness” ร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างทักษะความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าเรียนกว่า 996,510 คน และตั้งเป้าดันสู่ 1 ล้านคนภายในปีนี้ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ให้ประชาชน

ในด้านการลดคาร์บอนภายในองค์กร เขาระบุว่าแม้ทราฟฟิกดาต้าจะเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในช่วงไม่กี่ปี แต่ AIS ยังลดการปล่อยคาร์บอนได้ต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป้าหมายอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก เช่น การเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 37% โดย AIS ลดคาร์บอนไปแล้วกว่า 25,000 ตัน พร้อมยกระดับประสิทธิภาพพลังงานด้วย 2 แนวทาง คือ การใช้ AI บริหารโหลดแบบเรียลไทม์ และการอัปเกรดอุปกรณ์ให้ทันสมัย ใช้พลังงานต่ำลง

เรายังได้ปรับแนวคิดการออกแบบเครือข่ายจาก “Zero Idle” มาเป็น “More Bit Less Watt” คือแม้ใช้งานเพิ่ม แต่พลังงานต้องลดลงต่อเนื่อง

 

เขายังชี้ว่าแนวโน้มใช้คลาวด์ช่วยลดการตั้งเซิร์ฟเวอร์กระจัดกระจาย ทำให้ลดการใช้ไฟโดยรวมได้ และ AIS ยังดำเนินโครงการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับพันธมิตรกว่า 250 องค์กร เก็บ E-waste แล้วกว่า 1.2 ล้านชิ้น พร้อมตั้งจุดรับกว่า 3,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตลอดวงจรชีวิต

AIS ชู “Sustainable Connectivity” เคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล–ลดคาร์บอน สร้างนิเวศยั่งยืนของประเทศ

ตอนท้าย นายวสิษฐ์ย้ำว่าเป้าหมายหลักของ AIS ในปีนี้ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ ยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ การขยายการเรียนรู้ด้านดิจิทัลสู่ 3 ล้านคนในอนาคต และการลดการใช้พลังงานอีก 25% ซึ่งทั้งหมดต้องบรรลุผ่านความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ

ทุกเซ็กเตอร์ล้วนเป็น Enabler ของกันและกัน เมื่อทุกภาคส่วนร่วมมืออย่างจริงจัง ประเทศไทยจะเดินหน้าสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง