คนทำงานวิ่งไม่ทันคลื่น 'AI' ซีอีโอเร่งลงทุน แต่ลืม 'Upskill' พนักงาน

เอคเซนเชอร์ (Accenture) เผยว่า AI เปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่าทักษะพนักงานจะตามทัน

จากการสำรวจ “Pulse of Change 2025” โดยมีผู้บริหารระดับสูง (C-suite) จำนวน 3,000 คน และพนักงานที่ไม่ใช่ระดับ C-suite อีก 3,000 คน จากองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลก ทั้งหมด 22 อุตสาหกรรม ใน 18 ประเทศ พบว่า พนักงานถึง 2 ใน 3 รู้สึกไม่พร้อมสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของผู้บริหารระดับสูง

ขณะที่ผู้นําระดับสูงกำลังเร่งลงทุนด้าน AI เพื่อปรับเปลี่ยนองค์กร อีกทางหนึ่ง มี AI Readiness Gap หรือ ช่องว่างความพร้อมด้าน AI เกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน

โดย 67% เล็งเห็นว่า AI จะเป็นตัวเร่งรายได้ให้เติบโต แต่กลับไม่สามารถฝึกอบรม และเตรียมพนักงานให้พร้อมสำหรับอนาคตขององค์กรที่ต้องทำงานโดยขับเคลื่อนด้วย AI

ทักษะบุคลากร อุปสรรคใหญ่

ข้อมูลระบุว่า ผู้นําองค์กรส่วนใหญ่ (85%) มีแผนจะเพิ่มการลงทุนด้าน AI ในปี 2568 อย่างจริงจัง ทว่ามีองค์กรเพียง 34% เท่านั้นที่มีแผนจะเพิ่มทักษะ (Upskill) และปรับทักษะ (Reskill) ให้พนักงานพร้อมสำหรับการทำงานด้วย AI

การที่ผู้นำองค์กรให้ความสำคัญกับการนำ AI เข้ามาใช้ มากกว่าการเพิ่มทักษะของพนักงาน จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีขององค์กร กับความพร้อมของบุคลากร

แม้ว่าพนักงานกว่าครึ่ง (53%) จะเชื่อว่าองค์กรของตนมีความพร้อมในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ทว่าความมั่นใจของพวกเขากลับลดลงเมื่อพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความเชื่อมั่นของผู้บริหาร พนักงาน 2 ใน 3 เห็นตรงกันว่า การเปลี่ยนแปลงในโลก AI นั้น เร็วเกินกว่าขีดความสามารถขององค์กรในการเร่งฝึก และเตรียมพร้อมกำลังคน

นับเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งในการปรับวิสัยทัศน์ด้าน AI ของผู้บริหาร ให้สอดคล้องกับความพร้อมของพนักงาน เนื่องจากช่องว่างด้านการเพิ่มทักษะ และการฝึกอบรม อาจกลายเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสำเร็จของการนํา AI มาใช้ในหลายองค์กรได้

ผู้บริหารพร้อม แต่พนักงานไม่พร้อม

เอคเซนเชอร์รายงานว่า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 86% ของผู้บริหารระดับสูงมีแผนจะเพิ่มการลงทุนด้าน AI แต่มีเพียง 41% เท่านั้นที่วางแผนเพิ่มหรือปรับทักษะของพนักงานให้เท่าทัน

ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงตระหนักถึงผลกระทบของเทคโนโลยี โดย 58% ระบุว่าประสิทธิภาพการทํางานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในส่วนงานด้านไอที/เทคโนโลยี ตามด้วยด้านปฏิบัติการ (43%) และการวิจัย และพัฒนา (41%)

อย่างไรก็ตาม เกือบ 3 ใน 4 ของพนักงาน รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของ AI นั้นเร็วเกินกว่าขีดความสามารถขององค์กรในการฝึกอบรมพนักงานให้เท่าทัน

ที่น่าเป็นห่วงคือ ช่องว่างความพร้อมด้าน AI ที่เด่นชัด มีพนักงานประมาณครึ่งหนึ่ง (48%) ที่บอกว่า มีความเข้าใจระดับปานกลางเกี่ยวกับการสร้างมูลค่าจาก Gen AI นอกจากนี้ 46% ยังได้เน้นย้ำว่า บริษัทควรมีแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ

ปัจจุบัน คนทำงานในเอเชียแปซิฟิกมีความสนใจใฝ่รู้ ทั้งยังมีการใช้ AI มากขึ้น โดย 55% กล่าวว่า ถ้าต้องการความช่วยเหลือ จะใช้ AI ก่อนที่จะถามเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมทีม แต่ยังคงไม่ได้เตรียมความพร้อมมากนักสําหรับอนาคตที่ผู้บริหารกำลังวางแผนให้องค์กรขับเคลื่อนด้วย AI

ตัวอย่างการใช้ AI ที่ชัดเจนคือ งานวิเคราะห์ข้อมูล รองลงมาคือ การเรียนรู้ และการพัฒนาตนเอง และงานด้านวิจัย

พบด้วยว่า AI มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพ และการพัฒนาของพนักงานอย่างเห็นได้ชัด โดย 57% รายงานว่า AI ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้หรือพัฒนาทักษะ และ 51% กล่าวว่า AI ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยมีข้อมูลสนับสนุน

ที่น่าสนใจ พนักงานแสวงหาโอกาสการเรียนรู้นอกที่ทำงานอย่างมาก เพื่อจะได้เพิ่มพูนทักษะ และความเข้าใจด้าน AI พวกเขาเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลภายนอก โดย 57% เรียนรู้ผ่านหลักสูตรหรือติวเตอร์ออนไลน์ และ 52% เรียนรู้จากบล็อก และโซเชียลมีเดีย

ความกังวล/ความพร้อมของพนักงาน

• พนักงานมากกว่าครึ่งต้องเผชิญกับงบประมาณที่จำกัดขึ้น
• 47% ต้องรับภาระงานหรือแรงกดดันมากขึ้น
• 2 ใน 3 ของพนักงาน รู้สึกว่า AI เปลี่ยนไปเร็วกว่าขีดความสามารถในการฝึกอบรมพนักงานขององค์กร
• 3 ใน 4 ของผู้บริหาร มีความกังวลเช่นเดียวกัน
• พนักงานรู้สึกมีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าผู้บริหารทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
• พนักงานสงสัยเรื่องประโยชน์ของ AI ในด้านต่างๆ มากกว่าผู้บริหาร

'เทคโนโลยี' อย่างเดียว 'ไม่ใช่คำตอบ'

อะนูป ซากู ซีอีโอ เอคเซนเชอร์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วครั้งแล้วครั้งเล่า และการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน

เห็นได้ว่าเกิดแรงขับเคลื่อนที่รุนแรงแบบมีนัยสำคัญทั่วทั้งภูมิภาคจากการลงทุนด้าน AI แต่สิ่งนี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการสร้างผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญได้

เนื่องจากผู้บริหารหลายคนยังคงลงทุนน้อยเกินไปในการฝึกอบรมพนักงาน ทำให้เกิดช่องว่างด้านความพร้อม ซึ่งจะไปจํากัดศักยภาพที่แท้จริงของ AI

เมื่อพนักงานแสดงให้เห็นว่าพร้อมปรับตัว เป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นแค่สัญญาณ แต่เป็นโอกาสในการสร้างทักษะที่จําเป็นในการใช้ประโยชน์จาก AI ให้เต็มที่

 

ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย เผยว่า การลงทุนใน AI และ AI Transformation เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก การขาดแคลนบุคลากรเป็นอุปสรรคสําคัญต่อการนำ AI มาใช้ในองค์กร จึงต้องลงทุนเชิงรุกในการเพิ่มทักษะ และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

หัวใจสำคัญคือ วัฒนธรรมที่ให้ความสําคัญกับคนเป็นอันดับหนึ่ง พนักงานได้รับการสนับสนุนให้นำ AI เข้ามาใช้ ไม่ใช่ให้กลัว

ด้านผู้บริหารจึงต้องประสานบทบาทของมนุษย์ และ AI สร้างความเชื่อมั่นไว้ใจ ลดการต่อต้าน และสร้างอนาคตที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของมนุษย์ ไม่ใช่เข้ามาแทนที่

'4 แนวทาง' ขับเคลื่อนอนาคต AI

สำหรับ แนวทางการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ที่สำคัญมีอยู่ด้วยกัน 4 ส่วนคือ 

1. เสริมสร้างความพร้อมขององค์กรด้วยการสื่อสารที่ชัดเจน
2. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อรองรับ AI Integration
3. เสริมสร้างความเชื่อมั่นใน AI Agent
4. ปรับวิสัยทัศน์ของผู้นําให้สอดคล้องกับประสบการณ์ของพนักงาน

ผู้นําต้องสื่อสารเชิงรุกถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ลงทุนฝึกอบรมให้ตรงจุด ทำให้เกิดความสบายใจระหว่างการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์ และ AI (Human-AI Collaboration) วันนี้แม้มุมมองต่อศักยภาพของ AI จะเป็นในแง่ดีมากขึ้น แต่พนักงานก็ยังมีความสงสัย และระแวดระวังในการใช้ AI มากกว่าผู้บริหาร

ผู้บริหารจึงควรปรับวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ให้เข้ากับประสบการณ์ของพนักงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงด้าน AI ในองค์กรจะดำเนินไปโดยคำนึงถึงทุกฝ่าย มีการสื่อสารชัดเจน และตอบสนองความต้องการของพนักงานอย่างแท้จริง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์