เอไอดันค่าจ้างแรงงานเทคพุ่ง! Google จ่ายวิศวกรแตะ 12 ล้านบาท/ปี แลกผลงานระดับท็อป

เอไอดันค่าจ้างแรงงานเทคพุ่ง! Google จ่ายวิศวกรแตะ 12 ล้านบาท/ปี แลกผลงานระดับท็อป

สงครามแย่งคนเก่ง AI ร้อนแรง ค่าตอบแทนวิศวกร Google แตะ 12 ล้านต่อปี แต่แรงงานต้องพิสูจน์ผลงานทุกปี ในระบบที่คัดแต่ผู้เล่นระดับท็อป

KEY

POINTS

  • การแข่งขันในสมรภูมิเอไอทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงดูดบุคลากรทักษะสูง
  • Google เสนอค่าตอบแทนให้ตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์สูงสุดถึงปีละ 12.4 ล้านบาท เพื่อจ้าง และรักษาบุคลากรระดับหัวกะทิ
  • ค่าตอบแทนที่สูงมาพร้อมกับความคาดหวัง และแรงกดดันมหาศาล โดยพนักงานต้องทำผลงานในระดับท็อปอย่างสม่ำเสมอภายใต้ระบบการประเมินที่เข้มข้น
  • แม้จะมีรายได้สูง แต่พนักงานต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในอาชีพ และความมั่นคงต่ำ เนื่องจากบริษัทสามารถเลิกจ้างได้ตลอดเวลาหากผลงานไม่เข้าเกณฑ์

เมื่อการแข่งขันด้านเอไอร้อนแรงขึ้นทุกวัน บริษัทเทคโนโลยีก็ยิ่งทุ่มทุนหนักขึ้นเพื่อชิงตัวคนเก่ง โดยใช้ “ค่าตอบแทน” เป็นเครื่องมือหลักในการดึงดูด และรักษาคนเก่งเอาไว้ Google เป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ยังคงเดินหน้าเทเงินจำนวนมหาศาลเพื่อดึงดูดแรงงานทักษะสูง โดยเฉพาะในสายงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิจัย และวิเคราะห์ข้อมูล 

Business Insider อ้างอิงข้อมูลจากแบบฟอร์มขอวีซ่าทำงานของแรงงานต่างชาติที่บริษัทต้องยื่นต่อกระทรวงแรงงานสหรัฐ ในรายงานเปิดเผยว่า พนักงานในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Google มีรายได้สูงสุดถึง 340,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 12.4 ล้านบาท) ยังไม่รวมโบนัส และหุ้นบริษัทที่เป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนโดยรวม

แม้ค่าตอบแทนเหล่านี้ดูเป็นจำนวนที่สูง หากแต่เสียงสะท้อนจากพนักงาน Google หลายคนในเอกสารภายในปี 2023 ระบุว่า พวกเขายังคงรู้สึกว่า “ค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม” แม้จะมีรายได้สูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมก็ตาม พนักงานจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่า “ยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็น” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับแรงกดดัน และเป้าหมายที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี

‘AI Talent War’ การแข่งขันที่เดิมพันด้วยมนุษย์ในฐานะทุน

การแข่งขันระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในเพื่อแย่งชิงบุคลากรเอไอไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่สะท้อนความต้องการด้านทักษะเฉพาะทางเท่านั้น หากยังเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างในระบบเศรษฐกิจการผลิต

บุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ เขียนโค้ดขั้นสูง หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึม กลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาลในสายตาของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เพราะพวกเขาคือ “ทุนมนุษย์” (human capital) ที่สามารถผลิตซอฟต์แวร์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งไม่เพียงแค่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังอาจกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม และภูมิรัฐศาสตร์เทคโนโลยีโดยรวม

ภายใต้บริบทเช่นนี้ ตัวเลขเงินเดือนที่เพิ่มสูงจึงไม่ใช่แค่ผลตอบแทนจากทักษะ แต่คือ ราคาของ “การเป็นเจ้าของเวลา ความคิด และสมรรถนะ” ของแรงงานที่หายาก และมีบทบาทกำหนดอนาคตขององค์กร

ในขณะเดียวกัน เงินเดือนที่สูงลิ่วก็กลายเป็นดาบสองคม เพราะมันมาพร้อมกับระบบการควบคุมที่ซับซ้อน และละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น แรงงานเทคโนโลยีถูกดึงเข้าสู่ระบบ performance review ที่เข้มข้น ถูกประเมินผลงานถี่ขึ้น และถูกคาดหวังให้เป็น “ผู้เล่นระดับท็อป” ตลอดเวลา

ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา Google ได้เปลี่ยนเกณฑ์การประเมินพนักงานใหม่ โดยระบุชัดว่า “ผลงานสูง” คือ ปัจจัยหลักในการเลื่อนขั้น และได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนแนวโน้มเดียวกันใน Meta และ Microsoft ที่ต่างทยอยปลดพนักงานที่ไม่สามารถทำผลงานตามเกณฑ์ได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระบบการประเมินผลกลายเป็น “กลไกควบคุม” ในยุคที่บริษัทไม่ต้องการเพียงแค่แรงงานที่เก่ง แต่ต้องการแรงงานที่แข่งขัน และพิสูจน์ตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น Google ยังเคยใช้ข้อตกลงไม่แข่งขัน (non-compete agreement) กับพนักงานในหน่วย DeepMind ที่สหราชอาณาจักร เพื่อป้องกันไม่ให้บุคลากรเอไอย้ายไปยังบริษัทคู่แข่ง ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่าในสนามแข่งขันนี้ แรงงานไม่ใช่เพียงผู้รับจ้าง แต่กลายเป็น ทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ ที่ต้องแย่งชิง ควบคุม และกักกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม

รายได้โดยประมาณ (ต่อปี) ของตำแหน่งสำคัญที่ Google

สายวิศวกรรม

  • วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer): 4.0 – 12.5 ล้านบาท
  • วิศวกรอาวุโส (Senior Software Engineer): 6.9 – 9.4 ล้านบาท
  • วิศวกรวิจัย (Research Engineer): 5.6 – 9.8 ล้านบาท
  • วิศวกรความปลอดภัย (Security Engineer): 3.6 – 8.6 ล้านบาท
  • ผู้ออกแบบวงจรชิป (Silicon Engineer): 5.4 – 9.3 ล้านบาท

สายข้อมูลและเอไอ

  • นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist): 4.9 – 9.6 ล้านบาท
  • นักวิจัยเอไอ (Research Scientist): 5.7 – 11.2 ล้านบาท

สายบริหารจัดการ

  • ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ (Product Manager): 5.0 – 10.3 ล้านบาท
  • ผู้จัดการโครงการเทคนิค (Technical Program Manager): 4.2 – 10 ล้านบาท

สายที่ปรึกษาและออกแบบ

  • ที่ปรึกษาด้านโซลูชัน (Solutions Consultant): 3.7 – 10.4 ล้านบาท
  • นักออกแบบ UX (UX Designer): 4.6 – 8.5 ล้านบาท

รายได้สูง ความมั่นคงต่ำ - ภาวะย้อนแย้งของแรงงานเทคโนโลยี

ความย้อนแย้งของโลกเทคโนโลยีคือ แม้ค่าตอบแทนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ความมั่นคงของแรงงานกลับไม่แน่นอน บริษัทสามารถเลิกจ้างครั้งใหญ่ได้ในพริบตา และแรงกดดันด้าน performance ก็กลายเป็นเงื่อนไขถาวรที่แรงงานต้องแบกรับ

รายได้ของวิศวกรซอฟต์แวร์ระดับสูงอาจสูงถึง 12 ล้านต่อปี แต่ต้องแลกกับชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน การแข่งขันภายในสูง และความคาดหวังระดับ “เหนือมนุษย์”

ในที่สุดแล้ว เงินเดือนจึงเป็นได้ทั้งเครื่องมือล่อใจ และสายโซ่ที่พันธนาการแรงงานไว้กับระบบที่ต้องชนะตลอดเวลา เพราะในโลกของเอไอผู้ที่หยุดนิ่งย่อมถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

Google ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ ต่อข้อมูลเหล่านี้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ บริษัทกำลังเดินหมากใหม่เพื่อรักษาคนเก่ง และกดดันคนที่ตามไม่ทัน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์