Meta เปิดตัวทีม Superintelligence กับแผนลงทุน สร้าง AI ฉลาดที่สุดในโลก

Meta เปิดตัวทีม Superintelligence กับแผนลงทุน สร้าง AI ฉลาดที่สุดในโลก

ซักเคอร์เบิร์ก จัดตั้งทีม Superintelligence สร้างเอไอที่ฉลาดกว่ามนุษย์ พร้อมดึงดาวเด่นจาก OpenAI, Google, Scale ฯลฯ มาร่วมทีม เป้าหมายให้เอไอเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้ใจที่สุด

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมตา ประกาศก่อตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อ “Meta Superintelligence Labs” หรือ MSL เพื่อเร่งพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ระดับ “Superintelligence” หรือเอไอที่มีความสามารถเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน

ซักเคอร์เบิร์ก เชื่อว่า เอไอจะเปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์ เหมือนกับการปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ค้นพบอินเทอร์เน็ต เขาพร้อมที่จะแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่าง Google, OpenAI และ Microsoft เพื่อให้เมตาเป็นผู้นำในการพัฒนาเอไอที่ฉลาดที่สุดในโลก

สำหรับการลงทุน “หลายแสนล้านดอลลาร์” เมตาจะใช้เงินจำนวนนี้สร้าง ชิปคอมพิวเตอร์พิเศษ เพื่อคำนวณเอไอ, ศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์ เหมือนโรงงานคอมพิวเตอร์เพื่อฝึกเอไอ ตลอดจนสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรจากทั่วโลก

ทำความรู้จัก ‘MSL’ ทีมเอไอใหม่ที่เมตาทุ่มเทสุดตัว

เมตาเคยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook, Instagram และ WhatsApp กำลังยกระดับตนเองสู่การเป็นผู้พัฒนา “สมองกลแห่งอนาคต”

MSL ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางใหม่ของเมตา สำหรับการพัฒนาเอไออย่างจริงจัง โดยรวมทีมนักวิจัย และพัฒนาเอไอชั้นนำทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย

  • ทีม Large Language Models (LLMs) พัฒนาโมเดลภาษาใหญ่ เป็นเทคโนโลยีหลักเบื้องหลัง LLaMA ของเมตา
  • ทีม Fundamental AI Research (FAIR) แล็บวิจัยเอไอเชิงลึกที่มุ่งเน้นการขยายขอบเขตความรู้ด้านเอไอ
  • ทีมวิศวกรผลิตภัณฑ์ รับผิดชอบนำเอไอไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเมตา

ซักเคอร์เบิร์ก อธิบายเพิ่มว่า เมตาจะใช้ทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างเอไอที่สามารถช่วยคนได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ตอบแชต แต่จะกลายเป็นผู้ช่วยที่รู้จักเรา คิดวิเคราะห์ให้เราได้ และพัฒนาไปไกลกว่ามนุษย์ในบางมิติ 

เปรียบเสมือนกับ “เอไอส่วนตัว” ที่เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน เข้าใจเรา คิดแทนเราได้ในบางเรื่อง และอาจจะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ฉลาดที่สุดที่เราจะเคยมี ในอนาคตอันใกล้ แอปของเมตาอย่าง Instagram, Facebook, WhatsApp หรือแม้แต่แว่น AR จะถูกฝังเอไอเหล่านี้ไว้เต็มไปหมด และพวกมันจะเรียนรู้จากเราทุกคลิก ทุกข้อความ ทุกภาพ

โครงสร้างใหม่ของ MSL จะรวมทุกสายงานของเมตาที่เกี่ยวกับเอไอ ทั้งงานวิจัย, โมเดล Llama, ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บนแอปต่างๆ ที่มีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน เมตายังบอกอีกว่า กำลังเริ่มวิจัย Next Generation Models ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปีหน้า 

รายชื่อในทีม Meta Superintelligence Labs

อเล็กซานเดอร์ หวัง (Alexandr Wang) อดีตประธานบริหารของ Scale AI ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำทีมใหม่ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเอไอ (Chief AI Officer) โดยเขาจะควบคุมการดำเนินงานทั้งหมดของ MSL หวัง เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการเอไอ และเคยทำให้เมตาลงทุนไปถึง 14.3 พันล้านดอลลาร์

แนท ฟรีดแมน (Nat Friedman) อดีตประธานบริหารของ GitHub และหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในวงการลงทุนด้านเอไอจะร่วมงานเป็นที่ปรึกษาสำคัญ

นอกจากนี้ ภายในทีมยังมี

  • Shuchao Bi : ผู้สร้าง GPT-4o voice mode และ o4-mini จาก OpenAI
  • Jiahui Yu : หัวหน้าทีม perception ที่ OpenAI ผู้ร่วมสร้าง GPT-4.1, o3, o4-mini
  • Jack Rae : หัวหน้าเทคโนโลยี pre-training ของ Gemini 2.5 และเบื้องหลัง Gopher, Chinchilla
  • Pei Sun : จาก Google DeepMind ผู้สร้างโมเดล perception ให้ Waymo และ Gemini
  • Joel Pobar : เคยทำงานกับเมตามากว่า 10 ปี ก่อนย้ายไป Anthropic และกลับมาร่วมทีมใหม่อีกครั้ง
  • ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ : Trapit Bansal, Huiwen Chang, Shengjia Zhao, Ji Lin, Hongyu Ren รวมถึง Johan Schalkwyk อดีต Google Fellow ผู้อยู่เบื้องหลังหลายเทคโนโลยีด้านเสียง

ซักเคอร์เบิร์กยังบอกอีกว่า เขาใช้เวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเดินสายพบปะกับคนเก่งจากแวดวงเอไอ ทั้งในเมตา และจากสตาร์ตอัปหน้าใหม่ โดยบางรายถึงขั้นเชิญมาพูดคุยส่วนตัวที่บ้าน เพื่อดึงตัวเข้าสู่ทีมเอไอใหม่ของเมตาโดยตรง

 

 

อ้างอิง: Bloomberg และ CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์