’หัวเว่ย’ ย้ำพันธกิจลงทุนไทย ปักธงหนุน 5 จี - ดิจิทัลโซลูชัน

’หัวเว่ย’ ย้ำพันธกิจลงทุนไทย ปักธงหนุน 5 จี - ดิจิทัลโซลูชัน

“หัวเว่ย” เชื่อมั่นตลาดไทย เดินหน้าลงทุนหนุนใช้ 5จี คลาวด์ ดิจิทัลพาวเวอร์ ดิจิทัลไทยแลนด์ พร้อมต่อยอดการทำงานร่วมพันธมิตรภาครัฐ - เอกชน หวังสร้างการเติบโตธุรกิจ พร้อมผลักดันการเติบโตประเทศไทย

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยในปี 2565 นี้ยังคงมุ่งลงทุนเพื่อพัฒนาตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคธุรกิจ พันธมิตร และลูกค้าในประเทศไทย ภายใต้พันธกิจ “เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย (Grow in Thailand, Contribute to Thailand)”

สำหรับแนวทางการลงทุนจะโฟกัส 4 แกนหลักคือ ผลักดันการเติบโตอีโคซิสเต็ม 5จี, สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลบนคลาวด์, กระตุ้นการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีชีวิตคาร์บอนต่ำด้วยดิจิทัล พาวเวอร์, และเสริมศักยภาพผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลพร้อมพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านนวัตกรรมสนับสนุนดิจิทัลไทยแลนด์

“หัวเว่ยยังคงมีความเชื่อมั่นและมีแผนเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เกิดการปรับใช้เทคโนโลยีไอซีที ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น สร้างการเติบโตธุรกิจ พร้อมๆ ไปกับผลักดันการเติบโตของประเทศไทย”

โดยวางตำแหน่งเป็นไอซีทีพาร์ทเนอร์ที่เข้าไปช่วยสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า ตอบโจทย์ความต้องการดิจิทัลไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เป็นผู้นำเชิงรุกด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แม้ว่าเส้นทางดิจิทัลนั้นยังอีกยาวไกล แต่เชื่อว่าหากทำงานร่วมกันจะสามารถสร้างความสำเร็จตามที่วางเป้าหมายได้ในอนาคต ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมจะมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจโดยภาพรวม

เดินหน้าผลักดันการใช้งาน 5จี

เขากล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ย และเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุด ตลอด 23 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งหัวเว่ย ประเทศไทยในปี 2542 หัวเว่ยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ลูกค้าและพันธมิตร และมีโอกาสร่วมพัฒนา 2จี, 3จี, 4จี และ 5จี ในประเทศไทย

ในฐานะซัพพลายเออร์ด้าน 5จี ระดับท็อป 1 ในไทย หัวเว่ยจะเดินหน้าผลักดันการใช้งาน 5จี อย่างต่อเนื่องในหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นโทรคมนาคม เฮลท์แคร์ การเกษตร ฯลฯ และขณะนี้ไทยนับเป็นผู้นำการปรับใช้ 5จี ระดับภูมิภาคอาเซียน

สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, Time Consulting และหัวเว่ยคาดการณ์ว่า ภายในปี 2578 มูลค่าเศรษฐกิจที่รองรับเทคโนโลยี 5จี จะสูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของมูลค่าจีดีพีทั้งหมด

หัวเว่ยจึงวางแผนขยายการใช้งาน 5จี ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และในปีนี้หวังว่า 5จี จะครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากร อัตราการเข้าถึง 5จี จะเพิ่มเป็น 20% จาก 10% ในปัจจุบัน

ที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และภูมิใจอย่างยิ่งที่มีส่วนสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการใช้ 5จี ในภูมิภาคอาเซียน ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดใช้สถานีฐาน 5จี มากกว่า 20,000 แห่ง จำนวนประชากรที่เข้าถึง 5จี ครอบคลุมสูงถึง 70% และมีผู้ใช้ 5จี ถึง 4.3 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ใช้ในประเทศอาเซียนอื่นๆ ถึง 2.5 เท่า

'คลาวด์' รากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล

เขากล่าวว่า การประมวลผลบนคลาวด์กลายเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล หัวเว่ย คลาวด์ ได้เพิ่มการลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี ที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าในท้องถิ่นมากกว่า 300 ใน 15 อุตสาหกรรม

ตามรายงานของ Deloitte อัตราส่วนการใช้งานคลาวด์เป็นดัชนีชี้วัดสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล จากปี 2564 ถึงปี 2565 การเติบโตด้านการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ของบริษัทในไทยเพิ่มจาก 59% เป็น 78% และหัวเว่ยคลาวด์ เป็นผู้ให้บริการคลาวด์เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่มีศูนย์เก็บข้อมูลในพื้นที่ถึง 3 แห่ง

หัวเว่ย คลาวด์ วางแผนเปิดตัวบริการด้านซอฟต์แวร์คลาวด์ (SaaS) ใหม่กว่า 80 รายการ เพื่อสนับสนุนธนาคาร, เอสเอ็มอี, และผู้ให้บริการโอทีทีในการนำระบบคลาวด์มาใช้เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

ขณะที่ การผลักดันหน่วยธุรกิจใหม่อย่าง ดิจิทัลพาวเวอร์ มุ่งกระตุ้นการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในด้านพลังงานในทศวรรษหน้า โดยความเปลี่ยนแปลงความต้องการด้านพลังงานของประเทศไทยจะทำให้จีดีพีเติบโตขึ้นประมาณ 1% และปี 2565 ก็นับเป็นปีสำคัญ เพราะเป็นปีเริ่มต้นของการประกาศแผนงานความเป็นกลางทางคาร์บอน ปี 2593 ของประเทศไทย

หัวเว่ยให้คำมั่นที่จะสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นผู้นำนโยบายคาร์บอนต่ำในภูมิภาคอาเซียน มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยผลิตภัณฑ์และโซลูชันดิจิทัล พาวเวอร์ ประสบการณ์กว่า 30 ปีในอุตสาหกรรมพลังงาน พนักงานด้านวิจัยและพัฒนาเฉพาะด้านกว่า 6,000 คน รวมถึงการจัดสรรเงินทุน 20% จากรายได้ทั้งหมดสำหรับด้านการวิจัยและพัฒนา

เติมเต็มทุกมิติ 'ดิจิทัลอีโคโนมี'

ผู้บริหารหัวเว่ยเปิดมุมมองว่า ดิจิทัลอีโคโนมีเป็นตัวจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษกิจ ดังนั้นพันธกิจของหัวเว่ยมุ่งเข้าไปเติมเต็มส่วนนี้ในทุกมิติอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันสานต่อการทำงานร่วมกับพันธมิตร รวมถึงขยายความร่วมมือทำงานกับพันธมิตรใหม่ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

“สิ่งที่เป็นรากฐานของการสร้างสรรค์นวัตกรรมคือ การพัฒนาอีโคซิสเต็มด้านนวัตกรรมและการพัฒนาศักยภาพผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลรุ่นใหม่”

ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีธุรกิจยูนิคอร์นใหม่ 2 แห่ง ซึ่งต่างมีมูลค่าบริษัทรวม 1 พันล้านดอลลาร์ หัวเว่ยเองในฐานะผู้นำเชิงรุกในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในศูนย์เรียนรู้อีโคซิสเต็มเชิงนวัตกรรม 5จี (5จี Ecosystem Innovation Center) เพิ่มจำนวนพันธมิตรจาก 70 รายเป็น 120 รายในปีนี้ ด้านการพัฒนาเครือข่ายพันธมิตรของหัวเว่ยคลาวด์จะเติบโตอย่างรวดเร็วและคาดว่าจำนวนพันธมิตรจะเพิ่มขึ้นจาก 300 เป็น 500 ราย

หัวเว่ยเชื่อมั่นในพลังของเทคโนโลยี ความพากเพียร และการทำงานร่วมกัน มั่นใจอย่างยิ่งว่าหากทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง จะสามารถบรรลุเป้าหมายการนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร เพื่อประเทศไทยที่เชื่อมต่อกันอย่างอัจฉริยะและคาร์บอนต่ำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์