‘เอคเซนเชอร์’ เปิด ‘ฟยอร์ดเทรนด์’ 5 แนวโน้มสะเทือนโลกธุรกิจ 2565

‘เอคเซนเชอร์’ เปิด ‘ฟยอร์ดเทรนด์’  5 แนวโน้มสะเทือนโลกธุรกิจ 2565

ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาสังคมมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ไปถึงระดับโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับงาน วัฒนธรรมการบริโภค เทคโนโลยี รวมถึงกระแสโลก

ดาวิน สมานนท์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานบริการทางการเงิน เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า พฤติกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยท้าทายสำหรับธุรกิจ ขณะเดียวกันสร้างผลกระทบทำให้ธุรกิจต้องคิดทบทวนแนวทางการออกแบบ การสร้างนวัตกรรม และการเติบโต

“เราไม่ควรมองข้ามเรื่องระดับของความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป หรือบทบาทของธุรกิจที่ต้องปรับตัวตาม การตัดสินใจต่างๆ ของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ อาจจะส่งผลต่อโลกและโครงสร้างในหลายด้านมากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้”

รับมือกระแสโลกเปลี่ยน

รายงาน “ฟยอร์ดเทรนด์ (Fjord Trends 2022” คาดการณ์กระแสพฤติกรรมมนุษย์และ 5 เทรนด์หลักที่จะส่งผลต่อสังคม วัฒนธรรม และธุรกิจ ประกอบด้วย

เป็นอย่างที่ตัวเองเป็น (Come as you are): การที่ผู้คนรู้สึกสามารถควบคุมชีวิตตัวเอง (sense of agency) ได้มากขึ้นในช่วงสองปีที่โควิดแพร่ระบาดนั้น ส่งผลกระทบต่อวิธีการทำงาน การมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและการบริโภคทั้งสิ้น

นอกจากนั้น ผู้คนก็เริ่มตั้งคำถามถึงความสำนึกถึงตัวตน สิ่งที่สำคัญกับชีวิตและความเป็นปัจเจกนิยมมากขึ้นด้วยมุมมอง “me over we” ซึ่งสำคัญต่อองค์กรในแง่ของการบริหารและจูงใจพนักงาน รวมถึงการเสริมสร้างค่านิยมให้แก่พนักงานใหม่ และแนวทางการสานสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

หมดยุคเหลือเฟือ? (The end of abundance thinking?): ในช่วงปีที่ผ่านมาหลายคนต้องเผชิญกับสภาพชั้นสินค้าว่างเปล่า บิลค่าไฟเพิ่ม อีกทั้งบริการที่เคยใช้ในแต่ละวันก็ขาดหายไป ด้านการขาดแคลนของปัจจัยหลายๆ อย่าง แม้จะเป็นปัญหาระยะสั้นชั่วคราว แต่จะส่งผลที่ต่อเนื่อง นำไปสู่การเปลี่ยนแนวคิด

จากการ “คิดเผื่อ” ที่อยู่บนฐานของการที่ทุกอย่างมีให้ใช้อย่างเหลือเฟือ สะดวก และรวดเร็ว เปลี่ยนไปเป็นถึงความตระหนักเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

'เมตาเวิร์ส’ พรมแดนใหม่

พรมแดนใหม่ (The next frontier): การแตกตัวทางวัฒนธรรมขนานใหญ่นั้นกำลังรอเวลาที่จะเกิดขึ้น เมตาเวิร์สจะกลายเป็นพรมแดนใหม่ของอินเทอร์เน็ตที่หลอมรวมเลเยอร์ต่างๆ ของข้อมูล อินเทอร์เฟซ และพื้นที่ที่ผู้คนสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเข้าไว้ด้วยกัน

ขณะเดียวกัน กลายเป็นพื้นที่ใหม่ในการสร้างรายได้ การสร้างงานในรูปแบบใหม่ และการสร้างโอกาสที่ไม่สิ้นสุดให้กับแบรนด์ ด้วย ผู้คนคาดหวังให้ธุรกิจสร้างสรรค์และนำพาพวกเขาไปสู่สิ่งใหม่ ซึ่งโลกจะไม่หยุดที่หน้าจอและหูฟังเท่านั้น แต่ยังเปิดประตูไปสู่ประสบการณ์และสถานที่ต่างๆ ในโลกจริงที่มีปฏิสัมพันธ์กับโลกดิจิทัล

ตอบเร็ว ตอบจริง (This much is true): ทุกวันนี้ ผู้คนคาดหวังที่จะได้รับคำตอบต่างๆ จากการกดปุ่มแค่ครั้งเดียวหรือสั่งงานด้วยเสียงผ่านระบบ voice assistant ด้วยวิธีการที่แสนง่ายและได้คำตอบในทันที หมายความว่าผู้คนจะซักถามมากขึ้น

สำหรับแบรนด์สินค้าแล้ว หมายถึงขอบเขตของคำถามจากลูกค้าและช่องทางการสอบถาม ก็จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การออกแบบวิธีการตอบคำถามจึงเป็นความท้าทาย และเป็นส่วนสำคัญในการทำให้เกิดความเชื่อมั่นที่พร้อมเสริมสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในอนาคตด้วย

โอกาสท่ามกลางความท้าทาย

ใส่ใจมากขึ้น (Handle with care): การดูแลใส่ใจทุกด้านเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างเด่นชัดในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเอง ดูแลผู้อื่น การบริการดูแลสุขภาพ และช่องทางที่ให้บริการทั้งทางดิจิทัลและโลกออฟไลน์

โดยสภาวะเช่นนี้ เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับนายจ้างและแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญทางการแพทย์หรือการดูแลสุขภาพ 

อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบในการดูแลตนเองและผู้อื่นจะยังคงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในชีวิต นักออกแบบและองค์กรธุรกิจจึงต้องคำนึงเหมือนกันว่าจะการสร้างพื้นที่สำหรับฝึกการดูแลเรื่องต่างๆ ในภาคปฏิบัติได้อย่างไร

“เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนมุมมองเรื่องความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ใหม่หมด แบรนด์จะเผชิญกับความรับผิดชอบสำคัญ 2 เรื่อง คือ การใส่ใจดูแลโลกในวันนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของการสร้างอนาคตในทางที่ดีต่อโลก ธุรกิจ และสังคม”

โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่ความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องผลกระทบของความสัมพันธ์และแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงแปลงปัจจัยดังกล่าวให้เป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงได้