“ไปรษณีย์ไทย” กัดฟัน สู้ศึก "โลจิสติกส์" เปิดแผนปี 65 ย้ำเบอร์ 1 แชร์เกิน 57%

“ไปรษณีย์ไทย” กัดฟัน สู้ศึก "โลจิสติกส์" เปิดแผนปี 65 ย้ำเบอร์ 1 แชร์เกิน 57%

ไปรษณีย์ไทย ปาดเหงื่อตลาดขนส่งสุดร้อนแรง คู่แข่งโหมสงครามราคา หวังก้อนเค้กตลาดรวม 50,000 ล้านบาท ชี้บริษัทยังรั้งผู้นำกินแชร์ 57% คาดปีที่ผ่านมารายได้ ทะลุ 22,000 ล้านบาท ร่ายแผนปี 65 ชูแคมเปญ “EMS ทุกวัน” พร้อมเพิ่มศักยภาพทุกมิติ อัดงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ความก้าวหน้าของอีคอมเมิร์ซ และช่องทางการค้าออนไลน์เป็นปัจจัยให้ ธุรกิจการขนส่งแบบด่วน (Express Delivery) มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและการขนส่งของชาติถือเป็นพี่ใหญ่ในธุรกิจดังกล่าว โดยมีอีเอ็มเอสเป็นบริการส่งด่วนยอดนิยม และเป็นแรงผลักดันที่สำคัญทั้งในส่วนของธุรกิจค้าปลีก วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และช่วยต่อยอดโอกาสใหม่ ๆ ให้เข้าถึงทุกพื้นที่

โดยในปี 2565 คาดว่ารูปแบบขนส่งด่วนดังกล่าวจะแข่งขันดุเดือดยิ่งขึ้น ทั้งด้วยปัจจัยจากแพลตฟอร์มการค้าใหม่ ๆ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ การพึ่งพาของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งแบบ B2B , B2C และ C2C ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าระหว่างปี 2565 - 2567 ขนาดของตลาดขนส่งด่วนจะมีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยที่ 11.23 % ต่อปี และจะเป็นมาตรฐานที่คุ้นชินของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพาการขนส่งแบบด่วนอย่างมีนัยสำคัญ

เขา กล่าวอีกว่า ในปี 2564 คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 22,000 ล้านบาท โดยบริษัทยังครองส่วนแบ่งรายได้ (มาร์เก็ต แชร์) มากกว่า 57% และมีส่วนแบ่งของจำนวนชิ้นที่ส่งมากกว่า 50% จากมูลค่าตลาดโลจิสติกส์โดยรวมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 ขอยอมรับว่ายังไม่ได้ประเมินผลการดำเนินงานว่าจะอยู่ในอัตราเท่าไร เพราะยังมีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของไปรษณืย์ไทยมาเป็นตัวกดดัน

“ตลาดที่ผ่านมาแข่งขันดุเดือดมากมีการทำสงครามราคาจากคู่แข่งในตลาด และยังมีปัจจัยด้านน้ำมันมาเป็นตัวกดดันด้วย แต่ในแง่ของไปรษณีย์ไทยเราจะพยายามชูจุดเด่นเรื่องการบริการสูงสุด ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และความคุ้นเคยในทุกพื้นที่มาต่อยอด พัฒนาสินค้า บริการที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และพร้อมช่วยสนับสนุนทุกธุรกิจทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยมองว่าจะช่วยรักษาระดับของส่วนแบ่งทางการตลาดให้ไม่น้อยกว่าเดิม”

นายดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 ไปรษณีย์ไทยจึงได้เดินหน้าแคมเปญ “EMS ทุกวัน” พี่ไปรฯ ทุกวัน เพื่อทุกวันที่ดีของคุณ ซึ่งเป็นการยกระดับงานบริการการส่งด่วนให้เข้าถึงได้ง่าย รองรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ทันสมัย มีความเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น (Companionship) และสามารถใช้บริการได้ทุกวัน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งนิวเจน อีคอมเมิร์ช ประชาชนทั่วไป โดยสามารถขับเคลื่อนทุกความต้องการในการขนส่งหลากหลายรูปแบบ เช่น รับฝากส่งสิ่งของถึงบ้าน (pick up service) ส่งของใหญ่หรือของรูปร่างพิเศษ (Logispost) ส่งของดีจากชุมชนที่เว็บไซต์ thailandpostmart ส่งยา/เวชภัณฑ์ ส่งต้นไม้/กล้าพันธุ์ไม้ ส่งของไปต่างประเทศ ส่งสินค้าแบบครบวงจรด้วยบริการคลังสินค้า Fulfillment หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิบริการ FUZE POST ฯลฯ พร้อมกันนี้ยังได้จัดโปรโมชันพิเศษสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้ได้ส่งสิ่งของแบบด่วนในราคาพิเศษ

นอกจากนี้ เพื่อการันตีมาตรฐานบริการ EMS ส่งด่วน ไปรษณีย์ไทยพร้อมย้ำ 4 เรื่องสำคัญที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ได้แก่ นำจ่ายตรงเวลา สถานะสิ่งของถูกต้อง ติดต่อผู้รับ ส่งของสำเร็จ และจะเพิ่ม ประสิทธิภาพของบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น เช่น ทีมแคร์ ดูแลลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ช่วยเหลือติดตามสิ่งของให้อย่างรวดเร็วหากลูกค้ามีปัญหา และพี่ไปรฯ กว่า 20,000 คน ที่พร้อมทำหน้าที่ส่งด่วนทุกวัน เพื่อทุกวันที่ดีของคุณ อีกทั้ง ยังได้เตรียมงบลงทุนำสำหรับปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท