ซีอีโอ Pay Solution "ป้อม ภาวุธ" ร้องรัฐดึงเอกชนร่วมถกหาทางออก 'คริปโท'

ซีอีโอ Pay Solution "ป้อม ภาวุธ" ร้องรัฐดึงเอกชนร่วมถกหาทางออก 'คริปโท'

ซีอีโอ Pay Solution "ป้อม ภาวุธ" ร้องรัฐดึงเอกชนร่วมถกหาทางออก 'คริปโท' หวั่นขวางนวัตกรรมการเงินยุคใหม่ ระบุพร้อมเข้าชี้แจง ร่วมหารือ หาแนวทางที่เหมาะสมร่วมกัน เช่น เปิดแซนด์บ็อกซ์ทดลองบริการฯ จ่อดันธุรกิจออกต่างประเทศที่พร้อมรองรับ

หลังจาก แบงก์ชาติ กลต. และกระทรวงการคลัง ได้ร่างเกณฑ์ห้ามใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางในการชำระสินค้า บริการ เหตุราคาผันผวน เสี่ยงถูกแฮกข้อมูล ตกเป็นเครื่องมือการฟอกเงิน ประเด็นดังกล่าวกลายเป็น "เรื่องร้อน" ส่งผลให้เริ่มมีผู้ประกอบการที่พร้อมเปิดรับชำระค่าบริการโดยคริปโทเคอร์เรนซี ได้รับผลกระทบ และออกมาแสดงความเห็น โดยอยากให้ภาครัฐดึงเอกชน ผู้ประกอบการเข้าร่วมหารือ หาทางออก และโมเดลที่เหมาะสม 

ล่าสุด ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ซีอีโอ บริษัทเพย์ โซลูชั่น เอเชีย ผู้ให้บริการเพย์เม้นท์ เกตเวย์ ชั้นนำของไทย และเพิ่งได้เปิดตัวบริการรับชำระสินค้า และบริการผ่านเงินสกุลดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว พร้อมระบุว่า www.PaySolutions.asia เป็นบริษัทให้บริการการรับชำระเงินทางออนไลน์ เป็นผู้ให้บริการ Payment Gateway แห่งแรกของไทย (เดิมชื่อ ThaiEpay.com) เปิดมา 18 ปี ตั้งแต่ปี 2003 ช่วยธุรกิจคนไทย หลายหมื่นคน ค้าขายรับเงินทางออนไลน์เป็นเงินหลายพันล้านบาท ผ่านบัตรเครดิต, เงินผ่อน, พร้อมเพย์ หรือ Wallet ต่างๆ 
 

"ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 (7 ปีก่อน) PaySolutions ได้เปิดรับชำระผ่าน Bitcoin โดยเราทำงานร่วมกับเว็บ Exchange เว็บแรกของไทย www.BX.in.th ในการรับ Bitcoin แล้วเปลี่ยนเป็นบาท เราเปิดมาได้ 2 ปีกว่าทางแบงค์ชาติ ก็ได้ติดต่อมาขอให้นำบริการนี้ลง เพราะเนื่องด้วยตอนนั้น Bitcoin ยังไม่มีกฏหมายรองรับแบบทุกวันนี้ ก็น้อบรับและปิดบริการนั้นลงในช่วงปี 2018"  

แต่พอมาในปีนี้ โลกของคริปโทเปลี่ยนไป โลกทั้งโลกกำลังมุ่งเข้าสู่ Web 3.0 และการทำงานแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ Decentralize และผมเองก็เป็นคนนึงที่ทำงานด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมา 20 กว่าปี เห็นโอกาสการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับระบบชำระเงิน จึงได้นำโครงการนำคริปโทใช้ชำระเงินกลับมาทำใหม่  ซึ่งการที่จะออกบริการรับเงินด้วยคริปโทในครั้งนี้ ทีมงาน PaySolutions ค่อนข้างระวัง ความกังวลของหน่วยงานรัฐอยู่มาก ได้แก่

1. ความผันผวนของค่าเงินคริปโท - PaySolutions รับคริปโทเปลี่ยนเป็น Stable Coin สกุลเงินคริปโตที่ความผันผวนน้อยมาก เพราะมันผูกกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นบาท ที่ Exchange ในไทยตามระเบียบกฏหมาย 

2. กลัวเงินฟอกมาจับจ่าย - PaySolutions จำกัดการจ่ายเงินด้วยคริปโทไม่เกิน 2 หมื่นต่อรายการ และกันไว้ให้เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน/ร้านค้า 

3. ถ้าผู้ซื้อท่านไหนมีความน่าสงสัย เราจะขอการยืนยันตัวตน ด้วย Creden eKYC ทันที ถ้าไม่ทำ ก็ไม่ให้ผ่าน 

4. เปิดทดลองให้กับร้านค้าเฉพาะในวงจำกัด ไม่ได้เปิดให้กับร้านค้าใหม่ จะเป็นร้านค้าเดิม ที่ทำการค้าขายอยู่แล้ว มีการยืนยันธุรกิจ (KYM - Know Your Merchant)ตามมาตรฐานของ ปปง. 

ภาวุธ ย้ำว่า "เรายังไม่เปิดในวงกว้าง แต่เป็นการเปิดเพื่อการทดสอบเทคโนโลยีและนวัตกรรม การชำระเงินรูปแบบใหม่" ที่หลายๆ ประเทศเริ่มกันไปไกลแล้ว ดังนั้น การเปิดตัว PaySolutions รับเงินคริปโท อาจจะเป็นตัวเร่งทำให้แบงค์ชาติ รีบออกมาแถลงข่าวถึงการไม่สนับสนุนการนำคริปโทมาใช้

"จริงๆ ผมได้รับการเชิญจากแบงค์ชาตินัดคุยเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เนื่องจากไม่สะดวกจึงเลื่อนมาเป็นสัปดาห์นี้ ก็คงเข้าไปคุยตามที่เราได้เตรียมตัวมา และตั้งใจจะนำเสนอถึงการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการชำระเงิน" 

เขากล่าวว่า "ถ้าครั้งนี้แบงค์ชาติขอให้หยุดบริการ ในฐานะของ “บริษัท PaySolutions” ผู้ได้รับใบอนุญาติจากธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คงต้องปฏิบัติตาม แต่ในฐานะของคนที่อยากพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ “ผมคงไม่หยุด” แต่ผมคงต้องหาประเทศที่มีความพร้อมในการรองรับ และเปิดให้มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ  และก้าวเดินต่อไป ซึ่งมันอาจจะดีก็ได้ การออกไปนอกประเทศ มันจะเป็นการทำให้ธุรกิจเดินออกสู่ Global Market ได้เร็วขึ้น"

ภาวุธ ระบุว่า ส่วนตัวทำงานกับภาครัฐมาเป็นสิบปี ร่วมออกกฏหมายดิจิทัลของประเทศมาหลายฉบับ ชี้และปลุกคนไทยให้ตื่นตัวเทคโนโลยี หรือ การปลุกรัฐให้ตื่นกับการเก็บภาษีของบริษัทต่างประเทศ  ทำงานมาในคณะทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐมามากมาย สอนและอบรบคนรัฐมาก็เป็นพันๆ คน เรื่องเทคโนโลยีและสิ่งใหม่ๆ มามากมาย และทุกวันนี้ยังทำงานอยู่ในวุฒิสภา (มีโอกาสไปสอนพี่ๆ ในวุฒิสภาให้รู้จักคริปโทด้วย) ด้วยเป้าหมายอยากให้ประเทศไทยเติบโตด้วยเทคโนโลยี

"แต่การที่รัฐจะกลัวอะไร กังวลอะไร น่าจะมาคุยกับเอกชนและหาทางออกร่วมกัน ทุกอย่างมันมีปัญหาหมด แต่ถ้าเราค่อยๆ คุย วางแผน มี sand box มีการค่อยๆ ทำไปด้วยกัน เอกชนนำ รัฐเดินไปด้วยกัน มีอะไรสนับสนุนกัน ติดอะไร กังวลอะไร บอกเอกชน มันมีทางออกนับล้าน ที่เราจะแก้ปัญหาได้ ผมว่าไทยเราน่าจะเป็นแนวหน้าด้านเทคโนโลยี Cryptocurrency ของอาเซียนได้เลย ดูจากน้องๆ หลายๆ คนที่พัฒนาผลงานทางด้านนี้" 

เขากล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมีเจตนาที่ดีมากๆ ในการที่จะทำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศ ประเทศวันนี้มันต้องกล้าทำอะไรใหม่ๆ เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ ได้คิด ได้ทำ แล้วคนรุ่นใหญ่คอยสนับสนุนอยู่เค้าไปทิศทางที่เราเห็นร่วมกันว่าดี  "แตกต่างถึงจะเติบโต"