มติเอกฉันท์ “สรณ” นั่งประธานบอร์ด กสทช.

มติเอกฉันท์ “สรณ” นั่งประธานบอร์ด กสทช.

บอร์ดใหม่กสทช 5 คนลงคะแนนโหวตเลือก “หมอสรณ” นั่งประธานบอร์ดคนใหม่ ด้วยมติ 4:1 คาดภายในสัปดาห์นี้เตรียมส่งอย่างเป็นทางการลงประกาศในราชกิจจาฯก่อนดีเดย์นัดประชุมครั้งแรกปลายเดือน สางต่อ 3 ภารกิจสำคัญรอคลี่คลาย

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าที่คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.ชุดใหม่ที่ประกอบด้วย พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการกสทช. สายงานกิจการภูมิภาค เสนอชื่อด้านกิจการกระจายเสียง นางพิรงรอง รามสูต อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอชื่อด้านกิจการโทรทัศน์ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์​ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เสนอชื่อด้านคุ้มครองผู้บริโภค นายต่อพงศ์ ​เสลานนท์ ที่ปรึกษาประจำรองประธาน กสทช. ถูกเสนอชื่อด้านส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ นายศุภัช ศุภชลาศัย ผู้อำนวยการสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอชื่อด้านเศรษฐศาสตร์ ได้มีการประชุมในวาระเลือก ประธานบอร์ดกสทช. คนใหม่ 

โดยผลปรากฎว่า นพ.สรณ ได้ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดคนใหม่ด้วยคะแนน 4 ต่อ 1 โดย ทั้งนี้ ในลำดับต่อไปจะส่งรายชื่อดังกล่าวลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นประธานบอร์ดจะเป็นผู้กำหนดวันประชุมบอร์ดนัดแรกซึ่งคาดว่าจะได้ฤกษ์เข้าสำนักงานกสทช.ในช่วงปลายเดือนม.ค.หรือสัปดาห์แรกของเดือนก.พ.นี้
 

ทั้งนี้ การเลือกบอร์ดกสทช.ชุดใหม่ เสร็จสิ้นหลังจากที่วุฒิสภาถกวาระลับนานกว่า 6 ชั่วโมงไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาการตรวจสอบประวัติ 7 ว่าที่บอร์ดกสทช.ก่อนลงมติ เห็นชอบเพียง 5 คนดังกล่าวอีก 2 คนถูกตีตก ได้แก่นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ และนายธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ สำหรับตำแหน่งอีก 2 คนที่เหลือนั้น จะเร่งดำเนินการสรรหาเพื่อให้ครบถ้วนโดยเร็ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่ที่กรรมการสรรหาว่าจะเปิดรับสมัครใหม่หรือเลือกรายชื่อที่เคยเข้าสมัครมาแสดงวิสัยทัศน์อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาแล้วจะพบว่าบอร์ดกสทช.ชุดใหม่มีภารกิจแร่งด่วนที่กำลังรอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.ชุดใหม่มาตัดสินใจและต้องได้ข้อสรุปเร็วที่สุดอย่างน้อยภายในไตรมาสแรกของปี 2565 ประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ 1. การประมูลดาวเทียม ว่าจะเดินหน้าประมูลต่อหรือไม่อย่างไร เพราะทางสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) จะปล่อยให้วงโคจรหลุดหากประเทศไทยไม่มีการใช้งาน ขณะที่กสทช.เองต้องมีหน้าที่รักษาวงโคจรตามกฎหมาย
 

2. เรื่องประมูลคลื่นวิทยุกระจายเสียง ที่เริ่มมีการกำหนดออกมาว่าจะประมูลให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 4 เม.ย.2565 และ 3. เรื่องการกำกับดูแลเรื่องการควบรวมกิจการ หากบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ศึกษาธุรกิจกันและเกิดการควบรวมตามที่ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าจะดำเนินการเสร็จภายในเดือน มี.ค.2565 

โดยในช่วงแรกประด็นดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะบอร์ดกสทช.ชุดรักษาการออกมาชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับดีลนี้ เพราะเป็นบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในใบอนุญาต แต่สุดท้ายแล้วเมื่อบริษัทแม่ควบรวมกัน บริษัทลูกทั้ง บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) และบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (ดีทีเอ็น) และ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) นั้น เป็นหน้าที่ของกสทช.ต้องกำกับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้