‘BE8’ ปี 65 คิดใหญ่บุก ‘โกลบอล’ ชูโซลูชั่น ‘ทรานส์ฟอร์ม’ ดันยอด

‘BE8’ ปี 65 คิดใหญ่บุก ‘โกลบอล’ ชูโซลูชั่น ‘ทรานส์ฟอร์ม’ ดันยอด

‘อภิเษก เทวินทรภักติ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 หุ้นเทคฯ ตัวเด่น ให้สัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงทิศทางธุรกิจปี 65 กับเป้าหมายสู่ "ผู้นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นครบวงจร" ในระดับโกลบอล โดยหมุดหมายแรก คือ เบอร์ 1 ในระดับอาเซียน

“ปี 65 เรามีแผนอยู่ว่าจะทำอะไร ถ้าแผนที่เราวางไว้เป็นไปตามเป้า เชื่อว่าจะเป็นปีทองของ เบริล 8 พลัส ธุรกิจของเรา คือ เมกะเทรนด์ ของโลกจริงๆ ดิจิทัลต้องถูกนำไปขับเคลื่อนโลกธุรกิจ ปีนี้ผมมองว่าดีมานด์จะเกิดขึ้นมาก เป็นความท้าทายให้บริษัทเร่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้น”

‘อภิเษก เทวินทรภักติ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 หุ้นเทคฯ ตัวเด่น ให้สัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงทิศทางธุรกิจปี 65 กับเป้าหมายสู่ "ผู้นำ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ครบวงจร" ในระดับโกลบอล โดยหมุดหมายแรก คือ เบอร์ 1 ในระดับอาเซียน ประเทศปลายทางที่เข้าไปตั้งสำนักงานแล้ว คือ เวียดนาม และเตรียมบุกต่อเนื่องไปยังกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี 

เขากล่าวว่า เป้าหมายหลักของ เบริล 8 พลัสปีนี้ คือ ขยายไปยังตลาดต่างประเทศ พกเอาประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นที่ไม่ใช่เฉพาะในไทย แต่มีประสบการณ์ดูแลลูกค้านับ 100 ราย กว่า 200 โปรเจคในต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า 30 ราย ใน 11 ประเทศทั่วโลก และการเป็นพาร์ทเนอร์ชิพที่ยาวนานกับ บริษัทเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ยักษ์เทคระดับโกลบอล จึงมั่นใจในศักยภาพของบริษัทที่พร้อมมาก

บุกโลก‘ดิจิทัล’เวียดนาม

“เราไปตั้งออฟฟิศที่เวียดนาม เพราะมองว่าเป็นตลาดใหญ่ มีโอกาสในการเติบโตเรื่องดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นมาก โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนเชียล รีเทล โลจิสติกส์ รวมไปถึงกลุ่ม FMCG โดยจะมุ่งเน้นไปที่โซลูชั่นด้านซีอาร์เอ็ม ดาต้า อนาไลติกส์เป็นหลัก”

นอกจากแผนขยายตลาดไปต่างประเทศแล้ว จะเน้นโฟกัสไปที่กลุ่มกอฟเวอร์เม้นท์เพิ่ม เน้นพัฒนาโปรดักส์เข้าไปนำเสนอ ต่อยอดในเรื่องของดิจิทัลทรานส์ฟอร์มกับซีอาร์เอ็ม อีกแผนหลักที่บริษัทจะมุ่งไป คือการไป Joint Venture หรือร่วมทุนกับบริษัทที่อยู่ในอินดัสทรีต่างๆ ที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาสร้างบิซิเนส โมเดลใหม่ๆ สร้างรายได้ใหม่ๆ รวมไปถึงเทค คอมพานี ด้วย

“เรามองแผนเหล่านี้ว่าจะเป็น exponential growth ของเรา รวมถึงแผนลงทุนในบริษัทที่เราจะสามารถต่อยอดทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นที่ครบวงจรมากขึ้น”

อภิเษก กล่าวว่า เบริล 8 พลัส มีความพร้อมโชว์ศักยภาพสำหรับการเป็น "หุ้น" ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่ลงทุนสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งร่วมทุนกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งให้บริการครบวงจรครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม 

"บริษัทนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 8 พ.ย.64 ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ชื่อย่อ BE8 ซึ่งเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพบริษัทที่วางรากฐานอย่างแข็งแกร่ง จะหนุนเบริล 8 พลัส เป็นหุ้นเทคฯด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ(End-To-End Digital Transformation Expert) ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน จากแผนธุรกิจที่มุ่งสู่ผู้นำขับเคลื่อนการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นแห่งอาเซียน เพื่อสร้างการเติบโตยั่งยืนให้กับธุรกิจ" 

สู่ผู้นำทรานส์ฟอร์มครบวงจร 

เบริล 8 พลัส วางแผนลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่เป็นของบริษัทฯ ขึ้นมาเอง ตลอดจนร่วมทุนทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผนึกกำลังเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ นำเสนอบริการครบวงจรเจาะทุกกลุ่ม ด้วยการให้บริการในระยะเวลาที่เร็วขึ้น มีต้นทุนลดลง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้ลูกค้าในภูมิภาคอาเซียนประสบความสำเร็จการดำเนินงานและก้าวล้ำดิจิทัล ดิสรัปชั่นอยู่เสมอ

เขา ขยายความเพิ่มเติม ถึงแผนขยายตลาดต่างประเทศที่มีเป้าหมายหลักสู่ผู้นำการให้บริการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น และการติดตั้งระบบซีอาร์เอ็ม โดยเริ่มขับเคลื่อนขยายบริการสู่เวียดนาม หลังจากจัดตั้ง บริษัท เบริล 8 พลัส เวียดนาม จำกัด เมื่อปี 2562 ซึ่งเตรียมเพิ่มบุคลากรทั้งคนไทยและต่างชาติจำนวนมากที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี นำเสนอการให้บริการที่ตอบสนองกับลูกค้าทุกอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ กลางและเล็ก เพื่อก้าวสู่ผู้นำการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน 

 ภาพรวมการขยับขององค์กรไทย

อภิเษก ยังได้กล่าวถึง ภาพรวมการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นของไทยด้วยว่า บางอินดัสทรีเกิดขึ้นมานานแล้ว อย่างกลุ่มแบงก์ ที่ทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมานาน 5-10 ปี ขณะที่ กระแสที่ทำให้เกิดการเร่งทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม คือ เรื่องโควิด เป็นเหตุผลหลัก ถ้าไม่ทำก็จะถูกดิสรัป ขณะที่การทรานส์ฟอร์ม จะนำไปสู่การสร้างบิซิเนสโมเดลและรูปแบบรายได้ใหม่ๆ    

"อีกอุตสาหกรรม คือ โลจิสติกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ กลุ่มนี้ชัดเจนว่า เร่งทำ ดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่น เพราะมีดีมานด์เพิ่มมหาศาล จุดที่ทำ คือ การ enhance customer experience ในหลายจุด การให้บริการออมนิแชนนัล ดึงโซเชียลต่างๆ มาประกอบในการทำงานมากขึ้น ส่วนกลุ่มหลักที่เห็นมากสุด คือ กลุ่มไฟแนนซ์เซอร์วิส รวมถึงบริการประกันด้วย โดยเฉพาะการทำอินชัวเทค มองว่า มีโอกาสเยอะมาก อนาคตการขายประกันจะผ่านบ็อท มีเอไอ เข้ามาเกี่ยวข้องมาก" 

ปี 65 นี้ การทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นจะเหมือนเป็น Journey นำมาประยุกต์กับธุรกิจหรือลูกค้าแต่ละองค์กร ปรับกระบวนการที่เหมาะสมกับการทำงาน หรือการทำเชนจ์ แมเนจเม้นท์ ตัวที่จะพลิกเกมการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น คือ การนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาผสมผสานกัน

มูลค่าตลาดสุดท้าทาย“แสนล.บาท” 

"สำหรับมูลค่าของดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น อาจไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ถ้าดูตัวเลขการจับจ่ายที่เกี่ยวข้องจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ คลาวด์ เซอร์วิส อินฟราฯ แพลตฟอร์ม เช่น แอสอะเซอร์วิสต่างๆ มูลค่าตลาดน่าจะอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท อีกส่วนเป็นเรื่องของที่ปรึกษาบริการ น่าจะอยู่ที่ราว 5-6 หมื่นล้านบาท รวมกันปี 64 จะมูลค่าจะอยู่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์อีก 5 ปีจากนี้ทั้งสองส่วน มูลค่าจะอยู่ในระดับแสนล้านบาท" 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงคาดการณ์รายได้ปี 65 นี้ เขากล่าวว่า ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตทุกปีราว 25-35% ดังนั้นปีนี้ถ้าไม่มีอะไรที่เข้ามาดิสรัปแรง จนทำให้บางโปรเจคหยุดชะงักก็เชื่อว่า เบริล 8 พลัส น่าจะมีรายได้เติบโตในระดับที่เคยเป็นมา คือ 25-35%