เปิด 10 ข้อสงสัย ร่างกฎหมาย "ดิจิทัล แพลตฟอร์ม" ล้อมคอกภัยไซเบอร์

เปิด 10 ข้อสงสัย ร่างกฎหมาย "ดิจิทัล แพลตฟอร์ม" ล้อมคอกภัยไซเบอร์

ETDA หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ อัพเดทร่างกฏหมาย "ดิจิทัล แพลตฟอร์ม" ที่ "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" รมว.ดีอีเอส กำลังเร่งเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ภายในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ และ นี่คือ "10 ข้อสงสัย ร่างกฏหมาย ดิจิทัลแพลตฟอร์ม" !!!

เปิด 10 ข้อสงสัย ร่างกฎหมาย \"ดิจิทัล แพลตฟอร์ม\" ล้อมคอกภัยไซเบอร์ (ร่าง) พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. .… ซึ่ง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง และได้ปรับแก้ตามข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยหลังผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) ไปแล้ว ปัจจุบัน ร่างนี้ อยู่ในขั้นนำเสนอให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พิจารณา (ดาวน์โหลดร่างล่าสุดได้ท้ายบทความ) ซึ่งยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอนก่อนประกาศใช้

1. กฎหมายฉบับนี้กำหนดหน้าที่อะไรบ้าง

ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ นี้ มุ่งเน้นไปที่การควบคุมดูแลผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยกำหนดหน้าที่ในการประกอบธุรกิจ ในเรื่องหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

1) หน้าที่ในการแจ้งให้ ETDA ทราบก่อนการประกอบธุรกิจ

2) หน้าที่เพิ่มเติม สำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีลักษณะหรือประเภทตามที่ ETDA ประกาศกำหนด ในการแจ้งข้อมูลที่จำเป็นให้ผู้ใช้บริการทราบอย่างชัดเจนก่อนหรือขณะใช้บริการ

3) หน้าที่เพิ่มเติม สำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลขนาดใหญ่หรือที่มีลักษณะเฉพาะ ตามประกาศของ ETDA โดยความเห็นชอบของ คธอ.

 

2. กฎหมายฉบับนี้กำหนดหน้าที่ให้ใครบ้าง

ขอบเขตนิยามของ “บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล” หมายความว่า

1. การให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลในลักษณะที่เป็นสื่อกลางที่

2. มีพื้นที่ให้ผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลและผู้บริโภคเชื่อมต่อกัน โดยการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์

ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มแต่เพียงผู้เดียว(E-tailer) จะไม่อยู่ภายใต้การกำกับของกฎหมายนี้ เช่น Brand.com อย่างไรก็ตามถ้าหากมีการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจโดยให้บุคคลภายนอกสามารถเป็นผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มได้ ก็จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนี้

3. ใครได้ประโยชน์อะไรบ้าง จากการมีกฎหมายฉบับนี้

ผู้ประกอบธุรกิจ:

-มีความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจและปฏิบัติตามกฎหมาย

-บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีลักษณะหรือประเภทของการให้บริการที่เหมือนกัน อยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน

-การประกอบธุรกิจและการดำเนินธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด

-ผู้ใช้บริการเกิดความเชื่อมั่นในการใช้บริการบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลของผู้ประกอบธุรกิจมากขึ้น

ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (ผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป) :

-มีมาตรการที่ดีในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บริการ

-ได้รับทราบข้อมูลที่จำเป็น เพื่อความเป็นธรรมในการใช้งาน

-มีความเชื่อมั่นในการใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล

-ได้รับบริการจากบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีมาตรฐาน โปร่งใส และเป็นธรรม

-กรณีที่เกิดปัญหา ผู้ใช้บริการมีข้อมูลเพียงพอในการติดต่อกับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้แจ้งให้ ETDA ทราบ
 

หน่วยงานภาครัฐ:

-มีตัวแทนของผู้ประกอบธุรกิจต่างประเทศในการติดต่อประสานงานหรือขอข้อมูล

-เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจของหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับรูปแบบและการดำเนินธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล มีเวทีในการหารือกับ Stakeholders เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีร่วมกัน

-เมื่อประชาชนมีความเชื่อมั่นในการใช้บริการบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งผลให้เป็นการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโต

-มีกลไกที่ใช้ดูแลเพื่อลดความเสี่ยงในการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล

หน่วยงานภาครัฐ:

-มีตัวแทนของผู้ประกอบธุรกิจต่างประเทศในการติดต่อประสานงานหรือขอข้อมูล

-เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจของหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับรูปแบบและการดำเนินธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล มีเวทีในการหารือกับ Stakeholders เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีร่วมกัน

-เมื่อประชาชนมีความเชื่อมั่นในการใช้บริการบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งผลให้เป็นการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโต

-มีกลไกที่ใช้ดูแลเพื่อลดความเสี่ยงในการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล

4. มีข้อมูลที่หน่วยงานอื่นหมดแล้ว จะลดภาระให้ผู้ประกอบธุรกิจอย่างไร

ในร่างพระราชกฤษฎีกาฯ นี้ มีการกำหนดกลไกการทำงานร่วมกันของหน่วยภาครัฐในการเชื่องโยงข้อมูลระหว่างกัน เพื่อที่จะลดภาระของผู้ประกอบธุรกิจในการส่งข้อมูลซ้ำ ๆ ให้กับ ETDA จึงทำให้ผู้ประกอบธุรกิจไม่จำเป็นที่จะต้องส่งข้อมูลที่เคยส่งให้กับหน่วยงานอื่นมาแล้วให้กับ ETDA ซ้ำอีก โดยข้อมูลที่เชื่อมโยงกันนั้นเป็นข้อมูลที่ผู้ประกอบุรกิจจะต้องให้ ETDA ตามแบบฟอร์ม หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งให้ทราบอยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการลดภาระในการดำเนินการของผู้ประกอบธุรกิจ จึงกำหนดให้หน่วยงานที่มีข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน

5. ความเท่าเทียมกันในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างผู้ประกอบธุรกิจไทยกับต่างประเทศ

ผู้ประกอบธุรกิจไม่ว่าจะอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ หากมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการผู้บริโภคในไทย จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกันตามที่กฎหมายนี้กำหนด โดยมีกลไกและมาตรการต่าง ๆ เสริมในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายนี้ให้เกิดความเท่าเทียมกัน เช่น การกำหนดให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อยู่นอกราชอาณาจักรต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนในไทย และกลไกการขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายเกี่ยวข้อง ไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจจะอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ

6.เหตุผลในการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ต่างประเทศแต่งตั้งตัวแทนในไทย

เพื่อให้มีช่องทางทางในการติดต่อประสานงานกับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างประเทศ ในการปฏิบัติตามกฎหมายนี้ โดยอ้างอิงการกำหนดในเรื่องการแต่งตั้งตัวแทนมาจากมาตรา 37 (5) แห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเป็นการกำหนดให้แต่งตั้งตัวแทนในไทยที่ได้รับมอบอำนาจให้กระทำการแทนโดยไม่จำกัดความรับผิดเกี่ยวกับการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลตามกฎหมายนี้

7. ตัวอย่างมาตรการเพื่อประชาชน

มีทะเบียนการรับแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องหมายรับรองการแจ้งให้ทราบ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ถึงสถานะของบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลว่าได้มีการแจ้งให้ ETDA ทราบแล้วหรือยัง ประกอบกับเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถรับรู้ถึงความเสี่ยง และมีความระมัดระวังในการตัดสินใจเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล

8. กฎหมายฉบับนี้จะไม่ไปทับซ้อนกับกฎหมายอื่นอย่างไร

ในกรณีที่มีบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลใดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลอื่นอยู่แล้ว ETDA สามารถอาศัยกลไกตามกฎหมายนี้ในการออกประกาศยกเว้นหน้าที่ในการแจ้งให้ทราบของบริการดังกล่าวได้ โดย ETDA จะใช้กลไกในการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลบริการดังกล่าวแทน

ส่วนในกรณีมีกฎหมายอื่น กำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลไว้อยู่แล้ว ETDA มีหน้าที่ในการส่งเสริมหรือสนับสนุน ให้หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลปัญหาเฉพาะและผู้ประกอบธุรกิจ ปรึกษาหารือร่วมกัน ในการออกแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) หรือแนวทางการกำกับดูแลตนเองที่เหมาะสม (Self-regulate) เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีและเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

9. กฎหมายนี้ครอบคลุมถึงปัญหาสำคัญ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ และสามารถแก้ไขได้อย่างไร

ในกรณีที่บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลมีความเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นในด้านเทคโนโลยีหรือรูปแบบของการประกอบธุรกิจ กฎหมายได้กำหนดในเรื่องการออกหลักเกณฑ์เฉพาะสำหรับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่ หรือที่มีลักษณะเฉพาะ เพื่อเป็นกลไกในการรองรับความจำเป็นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จากการที่รูปแบบและการดำเนินธุรกิจของบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลมีความเปลี่ยนแปลงไป เช่น Super app

10. กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด? และผู้ประกอบธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจไปก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง

เมื่อพ้น 180 วันนับแต่วันที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ผู้ประกอบุรกิจยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับนี้กำหนด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ นี้มีผลใช้บังคับ (มีระยะเวลาในการเตรียมความพร้อม 180 + 30 = 210 วัน) และหากผู้ประกอบธุรกิจต้องการที่จะประกอบธุรกิจต่อไป ก็จำเป็นที่จะต้องแจ้งให้สำนักงานทราบภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว

ที่มา : ETDA