‘คมสันต์ ลี’ จอมทัพ ‘แฟลช กรุ๊ป’ ‘ยูนิคอร์นไทย’ ผู้กล้าปฎิวัติ ‘โลจิสติกส์’

‘คมสันต์ ลี’ จอมทัพ ‘แฟลช กรุ๊ป’ ‘ยูนิคอร์นไทย’ ผู้กล้าปฎิวัติ ‘โลจิสติกส์’

"แฟลช เอ็กซ์เพรส” ยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวแรก ที่หาญกล้าเปลี่ยนโฉมหน้าของ "อุตสาหกรรมขนส่ง-โลจิสติกส์" อย่างก้าวกระโดด เส้นทางสู่ความสำเร็จของ คมสันต์ ลี ซีอีโอ ไม่ได้ปูพรมแดงให้เดินง่าย แต่ละย่างก้าวเต็มไปด้วยกับดัก และบททดสอบ

‘คมสันต์ ลี’ จอมทัพ ‘แฟลช กรุ๊ป’ ‘ยูนิคอร์นไทย’ ผู้กล้าปฎิวัติ ‘โลจิสติกส์’

“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ได้มาจากผมคนเดียว แต่คือพนักงานของเราทุกคนที่มี "ความเชื่อ เดียวกัน" ความตั้งใจของแฟลช คือ ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย และในอนาคตเราจะเป็นยูนิคอร์นไทยที่ยืนได้อย่างมั่นคงในอาเซียน" 

วรรคทองของ "ซีอีโอ แฟลช เอ็กซ์เพรส” ยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวแรก ที่หาญกล้าเปลี่ยนโฉมหน้าของ "อุตสาหกรรมขนส่ง-โลจิสติกส์" อย่างก้าวกระโดด ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซในไทย ที่อยู่ในช่วงร้อนแรงมูลค่าตลาดเติบโตมากกว่า 2.7 ล้านล้านบาท  เส้นทางสู่ความสำเร็จนี้ ไม่ได้ปูพรมแดงให้เดินง่าย แต่ละย่างก้าวเต็มไปด้วยกับดัก และบททดสอบ 

“ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ” คมสันต์ ลี หนุ่มจากยอดดอยแห่งเมืองเชียงราย ชายหนุ่มธรรมดาที่ไม่ได้เป็นทายาทนักธุรกิจพันล้าน ไม่มีสายป่านหรือต้นทุนทางสังคมใดให้ยึดเกาะ ไม่มีทางลัดให้เดินเร็ว ล้มลุกคลุกคลานระหว่างทางมาตลอด แต่ไม่ยอมแพ้ มั่นใจในความมานะพยายามของตัวเอง อดทนจนเดินไปสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดได้อย่าง “ไม่ธรรมดา” และ “น่าจดจำ”

วางรากฐานธุรกิจและเศรษฐกิจ

“คมสันต์ ลี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด เล่าย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนก่อตั้ง บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส ว่า ตอนนั้นมีเจ้าใหญ่ในตลาดอยู่สองเจ้าหลัก ทั้งสองเจ้าต่างมีสาขาครอบคลุมกระจายอยู่ทั่วประเทศ มีฐานลูกค้าจำนวนมาก และดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลายาวนาน คนอื่นอาจจะคิดว่า หากเข้ามาแข่งขันในตลาดอาจไม่สามารถทำได้ หรือต้องใช้เงินทุนมหาศาลมาก

"แต่ผมมองเห็นโอกาสจากที่เคยทำธุรกิจ Freight Forwarder หรือการได้มีโอกาสเห็นตลาดขนส่งในต่างประเทศแล้ว นำเอาจุดแข็งเข้ามาเสริมจุดอ่อนในอดีต ที่ตลาดขนส่งในประเทศไทยยังไม่มี ที่สำคัญผมมีความเชื่อมั่นว่าผมสามารถทำได้ และอยากเข้ามาปฏิรูปวงการขนส่งของไทยให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และในวันนี้ก็สามารถทำได้สำเร็จซึ่งตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมากมายกว่าจะมียืนตรงจุดนี้

อันดับแรกเลย ผมบอกตัวเองเสมอว่า อย่าเพิ่งคิดว่าทำไมได้ ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ ผมได้ลองทำทุกอย่าง มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว แต่ความล้มเหลวไม่เคยทำให้ผมหยุดพัฒนาต่อเนื่อง ความล้มเหลวทำให้ผมเติบโตมากขึ้น ถ้าไม่มีความล้มเหลวเป็นครู ผมคงเดินทางมาไม่ถึงจุดนี้

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและผมใช้มาตลอด คือ ความอดทนและต่อเนื่อง ความอดทน หมายถึงว่า ต้องมีความพยายามมากพอที่จะสามารถลำบากได้ คำว่าลำบากไม่ใช่แค่ความลำบากเชิงร่างกาย แต่เป็นความลำบากของจิตใจด้วย ลำบากในเชิงของความกดดันด้วย ต้องรับมันไหว เพราะมันจะเป็นรากฐานที่ดีที่สุดเพื่อให้เราได้เติบโตต่อไป"

โควิดดันซื้อขายออนไลน์โตมหาศาล"

คมสันต์ เล่าว่า ภาพรวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในช่วงที่ผ่านมาขยายตัวอย่างมาก ยิ่งช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด กินเวลาเกือบ 2 ปี  ย่อมทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์ขยายตัวตามไปด้วย หลายคนอาจจะมองว่า ธุรกิจโลจิสติกส์อย่าง แฟลช เอ็กซ์เพรส คคงได้รับอานิสงส์ไปด้วยโดยปริยาย แต่ในความจริงแล้ว แม้โดยภาพรวมจะขยายตัวได้อย่างมากก็จริง แต่ในด้านของต้นทุนการบริหารงาน บริหารคน หรือการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยเพื่อให้ได้งานบริการที่ดีกับปริมาณความต้องการใช้งานของลูกค้าก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
 

"ดังนั้นผมจึงเลือกวิธีการที่ดีที่สุด คือ เราใช้พนักงานของเราเป็นสาขาของแฟลช โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเชื่อมต่อเรา กับผู้ใช้บริการ เพียงแค่ดาวน์โหลด Flash Express Application ลูกค้าผู้ใช้บริการก็สามารถ booking ผ่าน App เพื่อเรียกพนักงานเข้าไปรับสินค้าหรือพัสดุได้ถึงหน้าบ้าน เขาไม่จำเป็นต้องเดินทางออกมาที่สาขา

โควิดทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโตได้อย่างดี แต่ก็ในด้านเชิงปริมาณหากมองที่ Bottom line แล้ว เราจำเป็นต้องบริหารต้นทุนที่มหาศาลมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาแฟลชเองได้ลงทุนไปแล้วมากกว่า 7,000 ล้านบาท และผมก็มองว่าโควิดนี้เองทำให้ผู้บริโภคมีวินัยการใช้เงินมากขึ้นด้วย”

สร้างความแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่

คมสันต์ บอกว่า ความสำเร็จของแฟลช เอ็กซ์เพรส เกิดจากการใช้กลยุทธ์ที่มีความแตกต่างจากผู้ให้บริการแบบดั้งเดิม คือ 1. แฟลช ลงทุนจ้างพนักงานเองทั้งหมด ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพงานทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

2. แฟลชเป็นคนริเริ่มทำบริการรับฟรีถึงที่ ตั้งแต่ชิ้นแรก และให้บริการ 365 วัน แบบไม่มีวันหยุด 3. แฟลช ใช้ เทคโนโลยีในการทำงาน มีนักพัฒนาชั้นนำระดับโลกกว่า 200 คน ที่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่ใช้ในอีคอมเมิร์ซให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทย จึงทำให้ระบบหลังบ้านล้ำสมัย และเหนือกว่าคู่แข่งแน่นอน 4. ลงทุนซื้อเครื่องคัดแยกสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่า 900 ล้านบาท ที่สามารถคัดแยกสินค้า 100,000 ชิ้น ภายใน 60 นาที และ 5. ยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมทำงาน 24 ชั่วโมง

"นอกจากกลยุทธ์ทั้ง 5 ข้อแล้วในแง่ของการให้บริการที่ทำให้ แฟลช สามารถเติบโต และโดดเด่นในอุตสาหกรรมนี้ คือ ค่านิยมที่เรายึดถือร่วมกัน และทำมันอยู่เสมอเช่นกัน นั่น คือ 1. ความเชื่อ ที่ผลักดันให้ผมและทีมงานไขว่คว้าโอกาสมาได้ และสำเร็จมาถึงจุดนี้ 2. การมองหา partner ทางธุรกิจที่ดี ที่ตอบโจทย์ จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว 3. เราควรใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน 4. อาศัยความเป็น ทีมเวิร์ค การทำงานคนเดียวไม่สามารถสำเร็จได้ แต่ต้องมีทีมที่ดี 5. ความพึงพอใจของลูกค้าคือสิ่งสำคัญสำหรับเรา" 

พร้อมขับเคลื่อนปัจจุบันสู่อนาคต

คมสันต์ เล่าต่อว่า ตั้งแต่วันแรกที่ แฟลช เอ็กซ์เพรส เข้ามาทำตลาด จุดมุ่งหมาย คือ ต้องการเข้ามาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ผู้บริโภคคนไทย และทำรูปแบบธุรกิจในแนวคิดการเป็นมากกว่าผู้ให้บริการด้านขนส่ง จะเห็นได้ว่า แฟลชเป็นผู้ให้บริการขนส่งแบบครบวงจรรายเดียว และรายแรกของไทยที่มีธุรกิจในเครือหลากหลายสามารถตอบโจทย์อีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร ทั้ง Flash Logistics ที่ให้บริการส่งสินค้าชิ้นใหญ่, Flash fulfillment การบริหารจัดการระบบขนส่งแบบครบวงจรรูปแบบ คลัง-แพค-ส่ง, Flash money ,Flash Pay บริการด้านการเงิน และFlash Tech บริการด้านเทคโนโลยี เรายังเป็นผู้ให้บริการขนส่งพัสดุสัญชาติไทยรายแรกที่ริเริ่มแนวคิด “รับฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรกไม่มีขั้นต่ำ และเปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด” และมีราคาค่าบริการที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญการพัฒนาและคิดค้นเทคโนโลยี มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คน ที่มาจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลกสามารถคิด และพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้ามาใช้ในระบบขนส่ง รวมถึงสินค้าและบริการใหม่ๆ สอดรับต่อการใช้ชีวิตของคนไทยในอนาคต และรองรับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ตลาดขนส่งพัสดุในประเทศไทย และต่างประเทศ 

"เรากำลังเดินตามแผนที่วางไว้ในการขยายธุรกิจไปสู่ AEC รวมถึงการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับองค์กรอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกลยุทธ์ในการหาพันธมิตรผมต้องบอกว่าทุกๆครั้งก่อนที่ผมจะไปพบ หรือ พูดคุยธุรกิจกับใครนั้น ผมต้องศึกษาตัวเขาและธุรกิจของเขาให้เข้าใจดีก่อน จากนั้น ผมจะถามตัวเองว่า ศักยภาพที่เรามีอยู่ จะสามารถนำไปช่วยหรือสนับสนุนธุรกิจของเขาได้ในแง่มุมใดบ้าง" 

เขาเชื่อว่า การร่วมทุน หรือการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ คือ การขยายโอกาสทางการค้า การสร้างมูลค่าทางการตลาดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้แลกเปลี่ยนในเรื่องแนวคิดการทำธุรกิจ การนำนวัตกรรมของแต่ละองค์กรเข้ามาเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการให้บริการแก่ลูกค้าได้ดีและหลากหลายมากยิ่งขึ้น

สิ่งสำคัญมากอีกประการที่ “คมสันต์” ย้ำและให้ความสำคัญ คือ ความไว้ใจ และจริงใจต่อกัน จะสามารถนำไปสู่ความร่วมมือที่ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ก้าวกระโดดได้อย่างแท้จริง รวมทั้งนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความรู้ไปจนถึงการพัฒนาทักษะในแง่มุมใหม่ๆ ให้เกิดการต่อยอดทางความคิดและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีก็เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจของกันและกันให้เติบโตได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

สตาร์ทอัพรุ่นน้องต้องอย่ายอมแพ้

คมสันต์ ยังได้แชร์มุมมองต่อ "สตาร์ทอัพ" รุ่นน้องที่เพิ่งเริ่มต้นด้วยว่า "อยากจะฝากทุกคนที่กำลังเดินในเส้นทางที่ผมเดินผ่านมา หรือว่าที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ประสบความสำเร็จมากกว่าผมด้วยซ้ำว่า โอกาสของทุกคนเท่าเทียมกันขอแค่ลงมือทำ เพราะถ้าโอกาสของคนไม่เท่าเทียมกัน ผมไม่มีโอกาสมาถึงจุดนี้ได้ ผมด้อยโอกาสกว่าทุกๆ คนด้วยซ้ำไป ผมมาจากที่ที่ห่างไกลจากคำว่าความสำเร็จ ไกลกว่าทุกๆ คน แต่วันนี้ผมเดินมาถึงจุดนี้ได้ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ทำได้"

สิ่งแรกที่เขาย้ำ คือ  อย่าเพิ่งคิดว่าทำไม่ได้ ยังไม่ได้เริ่มทำก็คิดว่าทำไม่ได้แล้ว สุดท้ายก็เลยไม่ได้ทำ พอไม่ได้ทำ ก็เลยเป็นไปไม่ได้ 

"ผมลองทำทุกอย่าง ทั้งสำเร็จและล้มเหลว แต่ความล้มเหลวไม่เคยทำให้ผมหยุดจะพัฒนาต่อเนื่อง ความล้มเหลวทำให้ผมเติบโตมากขึ้น เก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านั้นมากขึ้น ถ้าไม่มีความล้มเหลวเป็นครู วันนี้ก็คงไม่มีทางเดินมาถึงวันนี้ได้ ความทะเยอทะยานที่อยากจะรู้เป็นสิ่งสำคัญมาก ผมไม่เคยหยุดเรียนรู้เลย ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เรียนเอกธุรกิจระหว่างประเทศ สาขาการจัดการ แต่ก็ไปเรียนกฎหมายและบัญชีเพิ่มเติม สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาแข็งแรงขึ้น รู้หลายมิติของธุรกิจมากขึ้น

ผมเป็นคนมีไอเดีย และคิดตลอดเวลา ที่สำคัญผมพร้อมลงมือทำในสิ่งใหม่ๆ ผมชอบคุยและศึกษานิสัยของคน นำเอาความคิดของพวกเขามาแมชกับความคิดของผม ผมเชื่อว่าคนเราสามารถเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ผมอาจจะเก่งและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนึง แต่กลับกันในบางเรื่องผมอาจจะรู้ไม่เท่าคนที่ผมคุยด้วย เพราะฉะนั้นผมคิดว่าเคล็ดลับความสำเร็จของผมคงเป็นเรื่องนี้ เพราะการที่ได้ไปเจอ รู้จัก พูดคุยกับหลายๆคนทำให้ผมเห็นโอกาส และสามารถนำมาใช้ในการทำงาน และผมมีคำนิยาม คือ กล้าคิด กล้าลอง กล้าทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นผลสรุปจะออกมาเป็นแบบไหน ผมต้องทำมันอย่างเต็มที่และดีที่สุดเสมอ”