บิ๊กดาต้า ตัวจักร ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ยุควิกฤติ

บิ๊กดาต้า ตัวจักร ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ยุควิกฤติ

บิ๊กดาต้า มีความสำคัญต่อทุกองค์กรธุรกิจ เป็นเครื่องมือช่วยหาอินไซต์ของผู้บริโภคที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีความแม่นยำสูง

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อ และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใด ได้เข้ามาสร้างจุดเปลี่ยนทั้งกับวิถีชีวิตของผู้คน สภาพสังคม และเศรษฐกิจ

ภูกิจ ดิศธรานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและบริหารจัดการข้อมูลออนไลน์แบบเรียลไทม์ เปิดมุมมองว่า ปริมาณข้อมูลดิจิทัลที่เกิดขึ้นมหาศาล หรือที่เรียกว่า บิ๊กดาต้า ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องมีทั้งกระบวนการจัดการและเครื่องมือที่เข้ามาช่วย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงตามวัตถุประสงค์

ปัจจุบัน บิ๊กดาต้ามีความสำคัญต่อทุกองค์กรธุรกิจ เนื่องจากสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกแผนก รวมถึงสามารถนำมาใช้ในการปกป้องแบรนด์เวลาเกิดปัญหาต่างๆ ในโลกออนไลน์ได้ 

นอกจากนี้ ทำให้ทราบว่าแบรนด์มีการทำอะไรที่ผิดพลาดบ้างจากการวิเคราะห์ข้อมูลในบิ๊กดาต้า สามารถสื่อสารหรือเข้าไปแก้ไขในจุดนั้น หรือการนำมาปรับใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการลูกค้า เพื่อแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าไม่พอใจได้เช่นกัน

เพิ่มการเข้าถึง ‘อินไซต์ผู้บริโภค’

เขากล่าวว่า ปัจจุบันหลายองค์กรพยายามนำเอาบิ๊กดาต้ามาใช้ โดยเฉพาะ “ดาต้าเรียลไทม์” เพื่อใช้สร้างแคมเปญต่างๆ ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น หรือนำไปใช้ป้องกันเวลาที่มีความเสียหายต่อแบรนด์บนโลกออนไลน์

สำหรับประโยชน์ที่ชัดเจนของการนำบิ๊กดาต้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันคือ การเป็นเครื่องมือในการช่วยหา “อินไซต์ของผู้บริโภค” ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง ด้วยการจะสร้างสรรค์คอนเทนท์ได้ดี จำเป็นจะต้องมีฐานข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งการใช้บิ๊กดาต้าจะเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์ ​

“ส่วนสำคัญของการสื่อสารในแต่ละแพลตฟอร์ม คือการตีโจทย์คอนเทนท์ให้แตกและใช้คาแรคเตอร์ให้ถูก ถ้ามีบิ๊กดาต้ามาเสริม จะทำให้ได้ข้อมูลถูกต้องแม่นยำขึ้น โลกอนาคตที่แข่งขันกันที่ความเร็วของการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล ใครมีดาต้าที่เรียลไทม์ ใช้ได้จริง ณ​ เวลานั้น ก็จะชนะผู้แข่งในธุรกิจเดียวกัน” ​

ภูกิจ เผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 การจัดการบิ๊กดาต้ากลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธุรกิจเติบโต ต่อไปแบรนด์จะสามารถเลือกการสื่อสารและการทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Customize) ได้มากขึ้น สื่อสารไปถึงผู้บริโภคได้โดยตรง แน่นอนว่าการใช้เครื่องมือสื่อโซเชียลออนไลน์จะเข้มข้นขึ้น ซึ่งบิ๊กดาต้าแบบเรียลไทม์ก็จะมาตอบโจทย์ในเรื่องนี้ด้วย

“ทุกคนจะลงมาเล่นในสนามการแข่งขันนี้เพื่อดึงความสนใจจากผู้บริโภค ผู้ที่สามารถบริหารจัดการข้อมูลได้สำเร็จ จะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เกิดผลบวกในวงกว้างแบบก้าวกระโดด แม้แต่แบรนด์เกิดใหม่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน”

กู้วิกฤติด้วย 'ข้อมูลเรียลไทม์'

เขากล่าวว่า โควิดที่ทำให้ทุกคนถูกจำกัดพื้นที่และหันมาเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ ทำให้ข้อความและกิจกรรมต่างๆ บนออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขณะเดียวกันทุกแบรนด์หันมาโฟกัสช่องทางออนไลน์แบบ 100%

โดยมีการประเมินว่าในปีนี้ปริมาณข้อมูลการสื่อสารบนโลกออนไลน์จะมีมากขึ้นถึง 6,000 ล้านข้อความ จากปีที่ผ่านมามีปริมาณ 5,000 ล้านข้อความ เพิ่มขึ้นจากช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้ที่มีเพียง 500 ล้านข้อความเท่านั้น ดังนั้นหากแบรนด์สินค้าหรือบริการจะทำการสื่อสารบนโลกออนไลน์ในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่ต้องการ

“โอกาสทางการตลาดนับว่าเปิดกว้างอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ยังต้องกักตัวอยู่กับบ้าน ใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่แต่ในที่พัก บ้านจึงเป็นทั้งที่อยู่อาศัย เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่ที่ทำงาน และเมื่อผู้คนส่วนใหญ่อยู่ภายในบ้าน ช่องทางหลักในการสื่อสารหรือทำกิจกรรมต่างๆ จึงต้องใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียประเภทต่างๆ”

อย่างไรก็ดี การสื่อสารในโลกออนไลน์ที่มีความรวดเร็ว และมีปริมาณข้อมูลมหาศาล ย่อมมีโอกาสที่การสื่อสารจะผิดพลาด ผิดวัตถุประสงค์ ถูกตีความผิด หรือแม้แต่การสื่อสารจากฐานข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้ 

ไม่ว่าจะตั้งใจหรือเกิดจากความผิดพลาดของข้อมูลก็ตาม ผลกระทบจากความผิดพลาดดังกล่าวย่อมนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อมีการสร้างข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์เกิดขึ้นมาจำนวนมาก เรื่องนี้บิ๊กดาต้าจะมีส่วนช่วยได้อย่างมาก