“เออาร์วี” ส่งดีพเทค โซลูชัน อัพเกรดเกษตรกรไทยสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์

“เออาร์วี” ส่งดีพเทค โซลูชัน อัพเกรดเกษตรกรไทยสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์

"เออาร์วี" เร่งยกระดับเทคโนโลยีเกษตรสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ จับมือ ซัมซุงฯ นำร่องโปรเจ็กต์ ARV x Samsung CSR Collaboration Project ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยี-นวัตกรรมกลุ่มเกษตรกร พร้อมหนุนใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ พร้อมเผยแผนปั้น 3 ดีพเทค ส่งตรงถึงแปลงเกษตรทุกพื้นที่

ทั้งนี้แผนพัฒนา 3 เทคโนโลยีดีพเทคเพื่อลดปัญหาของภาคเกษตรกรไทยในช่วงปลายปี 2564 – 2565 ได้แก่ เทคโนโลยีเพื่อลดการใช้แรงงานมนุษย์ในการทำเกษตรกรรม เทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการพืช แพลตฟอร์มเพื่อการจับคู่เกษตรกร และผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางการเกษตร

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน เออาร์วีมีการพัฒนาหลากโซลูชันเพื่อการเกษตรอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเพื่อการฉีดพ่นปุ๋ยน้ำที่มีความแม่นยำและช่วยเก็บข้อมูลจากพื้นที่ผ่านภาพถ่ายแอปพลิเคชัน “วรุณ (VARUN)” ซึ่งเป็นแอปฯ ใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่และติดตามกิจกรรมบนแปลงเกษตร และ Varuna Service Matching ซึ่งเป็นระบบจับคู่เกษตรกรเเละนักบินโดรนเกษตรเพื่อให้บริการฉีดพ่นแปลงเกษตรทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย 
 

นายธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า เออาร์วีให้ความสำคัญกับธุรกิจในภาคเกษตร ซึ่งเป็นธุรกิจพื้นฐานที่สำคัญของประเทศไทยเป็นอย่างมาก และได้มีการติดตามการทำการเกษตรในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

โดยเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองอย่างมากคืออากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน ต่อเนื่องถึงระบบ AI เพื่อทำการวิเคราะห์และคาดเดาปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนในการปั้นสตาร์ทอัพ (AgTech Startup) และเทคโนโลยีเชิงลึก (DeepTech: ดีพเทค) ด้านการเกษตร โดยนับเป็นมิติใหม่ที่จะช่วยสร้างมูลค่า ความเชื่อมั่นให้กับกับอุตสาหกรรมการเกษตรไทยให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
 

ในปีนี้ บริษัทฯ จึงได้ดำเนินโปรเจกต์ ARV x Samsung CSR Collaboration Project ร่วมกับ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด และการบริหารจัดการแปลงเกษตร ผ่านการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ซึ่งมีจุดเด่นทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การฉีดพ่นปุ๋ยน้ำที่มีความแม่นยำ ทั่วถึง สามารถเก็บข้อมูลจากพื้นที่ผ่านภาพถ่ายเพื่อนำมาวิเคราะห์แผนในการปรับปรุงการเพาะปลูกได้

ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชัน “VARUN” ซึ่งเป็นแอปฯ เพื่อให้เกษตรกรสามารถออกแบบการทำแปลงเกษตรได้ด้วยตัวเอง และติดตามปัญหา การเจริญเติบโตของพืชได้แบบเรียลไทม์ 

นายธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า เออาร์วียังคงมุ่งนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเกษตรกรให้มีศักยภาพในการสร้างประสิทธิภาพผลผลิตและการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายปี 2564 - ปี 2565 ได้วางแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึก หรือ DeepTech เพื่อลดปัญหาให้เกษตรกร 3 รูปแบบ ได้แก่ 


•    เทคโนโลยีเพื่อลดการใช้แรงงานมนุษย์ในการทำเกษตรกรรม เนื่องจากในปัจจุบันแรงงานในกลุ่มดังกล่าวเริ่มมีจำนวนน้อยลง โดยเป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ต่ำโดยตัวอย่างของกลุ่มเทคโนโลยีด้านนี้ อาทิ อากาศยานไร้คนขับ หุ่นยนต์  

•    เทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการพืช จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยเกษตรกรในการวิเคราะห์ ตัดสินใจ ลดการคาดเดา เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด 


•    การจับคู่เกษตรกร และผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางการเกษตร  เช่น แอปฯ จองรถเกี่ยวข้าว เว็บไซต์ด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ฯลฯ โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และปูทางผู้เชี่ยวชาญด้านดังกล่าวให้มีปริมาณมากขึ้น

“ปัจจุบัน เออาร์วีมีการพัฒนาโซลูชันเพื่อการเกษตรอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอากาศไร้คนขับ หรือโดรน เทคโนโลยีที่ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์โดยคนไทย"