‘การ์ทเนอร์’ คาดปีนี้รายได้ 5G ทั่วโลกโต 39%

การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์รายได้จากการเปิดให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ทั่วโลกว่า จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 39% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเพิ่มจาก 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563 ที่ผ่านมา

ไมเคิล โพโรสกี้ นักวิเคราะห์อาวุโส การ์ทเนอร์ กล่าวว่า ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร (CSPs) ในตลาดใหญ่ๆ ที่เร่งเปิดให้บริการ 5G ในปีก่อนและปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จาก 5G อยู่ที่ 39% ของรายได้จากเครือข่ายไร้สายทั้งหมดที่เปิดให้บริการในปีนี้ 

โดยการแพร่ระบาดโควิด-19 กระตุ้นความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่มีความเร็วสูงสำหรับใช้ทำงานจากที่บ้านและการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่กินแบนด์วิธสูง อาทิ การชมสตรีมวิดีโอ เล่นเกมออนไลน์ และใช้แอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดีย

การ์ทเนอร์ระบุว่า เครือข่าย 5จี เติบโตรวดเร็วที่สุดในกลุ่มตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สาย และเป็นโอกาสการลงทุนเดียวที่สร้างการเติบโตสำคัญแก่ผู้ให้บริการ

ทั้งนี้ เนื่องจากแนวโน้มการลงทุนในเครือข่ายไร้สายรุ่นก่อนๆ กำลังลดลงรวดเร็วทุกภูมิภาครวมถึงการใช้จ่ายในเซลล์เครือข่ายขนาดเล็กที่ไม่ใช่ 5จี ตามที่ผู้ให้บริการสื่อสารหันไปใช้เซลล์เครือข่ายขนาดเล็กของ 5จี แทนที่

สำหรับคาดการณ์รายได้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สายทั่วโลก 5จี จากปี 2563 ที่มีรายได้ 13,768 ล้านดอลลาร์ ปี 2564 จะเพิ่มเป็น 19,128.9 ล้านดอลลาร์ และ ปี 2565 รายได้ 23,254.6 ล้านดอลลาร์, ขณะที่ LTE และ 4G ช่วงเวลาเดียวกันดังกล่าวจะเพิ่มจาก 17,127.8 ล้านดอลลาร์ ไปเป็น 14,569.1 ล้านดอลลาร์ และ 12,114.0 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ส่วน 3G และ 2G จะมีรายได้ 3,159.6 ล้านดอลลาร์ จากนั้นเพิ่มเป็น 1,948.2 ล้านดอลลาร์ และ 1,095.2 ล้านดอลลาร์ เซลล์เครือข่ายขนาดเล็กที่ไม่ใช่ 5G (Small Cells Non-5G) จะมีรายได้ 6,588.5 ล้านดอลลาร์ จากนั้นเพิ่มเป็น 7,117.9 ล้านดอลลาร์ และ 7,113.9 ล้านดอลลาร์ ด้าน เครือข่ายหลัก จะมีรายได้ 5,714.6 ล้านดอลลาร์ จากนั้นเพิ่มเป็น 6,056.2 ล้านดอลลาร์ และ 6,273.3 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ข้อมูลระบุว่า ในระดับภูมิภาคผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในแถบอเมริกาเหนือตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มจากบริการ 5G จากเดิม 2.9 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อน เป็น 4.3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ส่วนหนึ่งจากการนำคลื่นความถี่แบบไดนามิกมาปรับใช้ร่วมกันและเพิ่มสถานีฐานรับ-ส่งสัญญาณคลื่นแบบ mmWave 

ขณะที่ผู้ให้บริการในยุโรปตะวันตกกลับให้ความสำคัญกับการออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานหลักให้ทันสมัยเพื่อรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพาและปรับบริการให้เข้ากับกระบวนการกำกับดูแล ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จาก 5G เพิ่มเป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ จาก 794 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว 

โดยประเทศจีนยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำเบอร์ 1 ของโลก ด้วยรายได้จากเครือข่าย 5G สูงแตะ 9.1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มจาก 7.4 พันล้านดอลลาร์จากปี 2563

การ์ทเนอร์คาดการณ์ด้วยว่า ในอีก 3 ปี หรือ ภายในปี 2567 สัญญาณ 5G จะครอบคลุมพื้นที่เมืองหลักทั่วโลกถึง 60% จากปีก่อนที่มีเพียง 10% ของผู้ให้บริการสื่อสารที่เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์