แคสเปอร์สกี้ชี้ ‘แอคหลุม’ ภัยแฝงชาวโซเชียลอาเซียน

ผู้ใช้มากกว่า 3 ใน 10 ยอมรับว่ามีโปรไฟล์โซเชียลมีเดียที่ไม่ใช้ชื่อจริง
ผู้เข้าสำรวจมากกว่าหนึ่งในสี่ 34% ยังใช้บัญชีนิรนามเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับใครบางคนหรือข่าวออนไลน์โดยไม่ใช้ตัวตนจริง แม้ว่าผู้ใช้ 30% จะใช้บัญชีโซเชียลมีเดียที่ไม่ระบุชื่อสำหรับกิจกรรมที่ไม่เป็นอันตรายในการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับศิลปินที่ชื่นชอบและความสนใจต่างๆ แต่ก็ยังพบว่าผู้ใช้ 22% มีส่วนร่วมในการสะกดรอยทางออนไลน์ด้วย
ทั้งนี้ มีผู้ใช้เพียงส่วนน้อย (3%) ที่ระบุว่าใช้บัญชีไม่ระบุตัวตนเพื่อเบี่ยงเบนอีเมลสแปมจากบัญชีจริง หลีกเลี่ยงการโดนเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหาย (หรือ doxing) รวมถึงการใช้บัญชีนิรนามเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น การเล่นเกม และการป้องกันไม่ให้หน่วยงานภายนอกเข้าถึงบัญชีอีเมลจริงของตน
ประเด็นสำคัญของการค้นพบนี้ คือ ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงชื่อเสียงที่สร้างขึ้นทางออนไลน์ และความสำคัญต่อชีวิตจริงของตนมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 49% จะตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของแบรนด์หรือบริษัทก่อนที่จะซื้อสินค้าหรือบริการ
ส่วนประเด็นที่น่าสังเกตสำหรับธุรกิจคือ ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่ง (51%) เน้นย้ำถึงความสำคัญของชื่อเสียงทางออนไลน์ของบริษัท เกือบ 5 ใน 10 คน (48%) ยืนยันว่าตนได้หลีกเลี่ยงบริษัทที่มีเรื่องอื้อฉาวหรือได้รับข่าวเชิงลบทางออนไลน์
นอกจากนี้ 38% เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทหรือแบรนด์ที่เข้าไปพัวพันกับวิกฤติบางอย่างทางออนไลน์ เกือบครึ่งหนึ่ง (41%) เผยว่าชื่อเสียงของผู้รับรองแบรนด์มีผลต่อมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ เมื่อถามถึงความโปร่งใสของแบรนด์บนเพจออนไลน์ ผู้ใช้ 50% คิดว่าบริษัทต่างๆ ไม่ควรลบความคิดเห็นเชิงลบในบัญชีโซเชียลมีเดีย
ชื่อเสียงดิจิทัล=ชื่อเสียงส่วนตัว
ปัจจุบันผู้บริโภคเชื่อมั่นบริษัทต่างๆ โดยยึดจากชื่อเสียงทางออนไลน์ เหมือนกับที่พฤติกรรมของบุคคลบนโซเชียลมีเดียถูกนำมาใช้ในการกำหนดคะแนนเครดิต เพื่อคัดกรองความสามารถในการจ้างงาน และการอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอวีซ่า
“จากผลกระทบในโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้ เราต้องเรียนรู้การปรับสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพื่อให้สามารถรักษาชื่อเสียงดิจิทัลที่สำคัญยิ่งขึ้นของเราได้”
แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับการปกป้องและปลอดภัยดังนี้ จำไว้ว่าชื่อเสียงดิจิทัลเชื่อมโยงกับชื่อเสียงส่วนตัว ทุกสิ่งที่โพสต์บนอินเทอร์เน็ตจะยังคงอยู่ ควรระมัดระวังเรื่องการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะในโปรไฟล์โซเชียล อย่าเปิดเผยมากเกินไป แบ่งปันเฉพาะข้อมูลพื้นฐานและจำเป็นจริงๆ
นอกจากนี้ ให้ลบบัญชีและข้อมูลที่ไม่ใช้แต่ยังคงมีอยู่ เพราะอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ ด้านการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลให้ดูนโยบายความเป็นส่วนตัวซึ่งอาจระบุไว้อย่างเปิดเผยว่าข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังบริษัทเธิร์ดปาร์ตี้ใดบ้าง อย่าให้ข้อมูลแอพมากเกินความจำเป็น และที่ขาดไม่ได้ควรมีผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยที่ช่วยคัดกรองและสกัดภัยคุกคาม







