'เอแอลที' ประเมิน นิวนอร์มอลดันยอดใช้แบนด์วิธเน็ตเอเชียพุ่ง 40%

'เอแอลที' ประเมิน นิวนอร์มอลดันยอดใช้แบนด์วิธเน็ตเอเชียพุ่ง 40%

กลุ่ม ‘เอแอลที’ รายใหญ่ทุ่มพันล. รับอานิสงส์ นิวนอร์มอล

โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายสื่อสัญญาณความเร็วสูง (DWDM) ต่อยอดจากโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสงของกลุ่มบริษัท ALT และพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นระยะทางรวมกันกว่า 12,000 กิโลเมตร ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

“บริษัทฯ มีจุดการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งหลังจากการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี 2561 เป็นต้นมา ได้มีลูกค้าที่เป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำและบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในภูมิภาคกว่า 20 รายมาใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 คิดเป็นแบนด์วิธ รวม 260 Gbit/s ในปี 2562 มีแบนด์วิดท์รวม 470 Gbit/s และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2563 ซึ่งขณะนี้มีการใช้งานแบนด์วิธรวมแล้วกว่า 1 Tbit/s (1,000 Gbit/s)” นายสมชาย กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการที่จุดภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนอินเทอร์เน็ต (Digital Hub) จึงทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม นิยมมาใช้ไทยเป็นจุดแลกเปลี่ยน หรือเป็นทางผ่านไปยังประเทศมาเลเซียสิงคโปร์ และบริษัทฯถือว่า มีความได้เปรียบคู่แข่งเนื่องจากกลุ่มบริษัท ALT ได้ลงทุนสร้างโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงไว้หลากหลายเส้นทาง แต่ละเส้นทางมีความปลอดภัยสูง และมีจุดเชื่อมต่อจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯสามารถออกแบบโครงข่ายได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะการล็อกดาวน์

สำหรับกลุ่มบริษัท เอแอลที ปัจจุบันประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการสร้างสถานีฐาน ติดตั้ง และซ่อมแซมอุปกรณ์โทรคมนาคม 2.ธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มโทรคมนาคม ได้แก่ สายเคเบิลใยแก้วนำแสง, ตู้โทรคมนาคม, สถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่, สายอากาศ และอุปกรณ์โทรคมนาคมอื่น ๆ 3.ธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม