'ยอด ชินสุภัคกุล' ซีอีโอป้ายแดง เผยเส้นทางฝันก่อนเป็น 'ไลน์แมน วงใน'

'ยอด ชินสุภัคกุล' ซีอีโอป้ายแดง เผยเส้นทางฝันก่อนเป็น 'ไลน์แมน วงใน'

ยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอป้ายแดง "ไลน์แมน วงใน" (LINE MAN Wongnai) เผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุเส้นทางฝัน วงใน ก่อนปิดดีลควบรวมสู่ "ไลน์แมน วงใน" มูลค่าดีลกว่า 3.3 พันล้าน

ยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอ ไลน์แมน วงใน เผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุเส้นทางฝัน วงใน ก่อนปิดดีลควบรวมสู่ "ไลน์แมน วงใน" แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ต้องการก้าวสู่ความสมบูรณ์ของอีโคซิสเต็มส์มากขึ้น

โพสต์ของเขา ระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2553....

"ผมก่อตั้ง Wongnai ขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนวิศวะจุฬาฯ สามคน — Boy Pattrawoot Suesatayasilp Worawee Sattayavinij Boy Krityakien  เพื่อสร้าง “เว็บรีวิวร้านอาหารแบบ Yelp”

(ตอนเริ่มต้นก็มี Anontawong Rut Marukpitak กับ Puu Zapor ร่วมช่วยด้วยแต่ไม่ได้ทำ full time โดยพี่รุตม์มาทำงาน full time เป็น Head of People ทีหลัง)

ในเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา Wongnai จึงครบรอบ 10 ปีพอดี และจะด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบ ยังเป็นเดือนที่เราประกาศการควบรวมกับ LINE MAN ด้วยเช่นกัน

สิ้นเดือนนี้จะเป็นวันสุดท้ายของ Wongnai และเป็นวันแรกของ LINE MAN Wongnai

ตอนที่เริ่มทำ Wongnai ตอนนั้นอายุ 27 ต้องยอมรับตามตรงว่าทำไปเพราะความอยากรวย อยากประสบความสำเร็จเร็วๆ เท่านั้นเอง

แต่มาถึงวันนี้ อายุ 37 มีลูกสาวสองคน ต้องบอกว่าเป้าหมายของผมเปลี่ยนไปจากเดิมพอสมควร ทำเพื่อตัวเองน้อยลง ตอนนี้ผมอยากสร้างอิมแพคท์ให้ได้มากที่สุด อยากทิ้งอะไรเอาไว้ อยากรู้ว่าถ้าพยายามเต็มที่ เราจะทำได้แค่ไหน

Wongnai ถือกำเนิดขึ้นจากการเป็นเว็บไซต์รีวิวร้านอาหารโดยผู้ใช้งาน แต่เราก็ขยายตัวมายังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับร้านอาหารด้วย เรามีเทศกาล Wongnai Food Festival และ Food Caravan รวมร้านอร่อยกระจายไปทั่วประเทศ มีระบบ POS สำหรับจัดการร้านอาหาร มีแอพสำหรับรับออเดอร์ทั้งจากเดลิเวอรีและลูกค้าไปรับเองที่หน้าร้าน มีระบบการขายดีลเพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้ร้านอาหาร ภารกิจของเราในภาพรวมคือ “Connect People to Good Stuff” — เชื่อมต่อคนเข้าสู่สิ่งดีๆ

เมื่อประมาณสักปี 2559 LINE MAN มาชวนทำธุรกิจเดลิเวอรีร่วมกัน เราเห็นว่าเป็นโอกาสใหม่ในการนำอาหารอร่อยส่งถึงมือผู้บริโภค ที่อาจเคยเข้าไม่ถึงด้วยเหตุผลเรื่องระยะทางหรือการเดินทาง เราจึงจับมือเป็นพันธมิตรกับ LINE MAN ทำให้เป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้งานสามารถสั่งเดลิเวอรีจากร้านสตรีทฟู้ดทั่วกรุงเทพฯ

แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เราก็เริ่มรู้ว่าธุรกิจเดลิเวอรีเป็นสิ่งที่ใหญ่มาก ดังที่ได้เห็นจากปรากฏการณ์เดียวกันในแทบทุกประเทศทั่วโลก เราจึงคุยกับ LINE MAN และทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง เห็นตรงกันว่าการควบรวมกันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคและร้านอาหาร สำหรับผม นี่อาจจะเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ร่วมสร้างสิ่งที่มีอิมแพคท์ระดับนี้ ผมจึงตัดสินใจคว้ามันเอาไว้

LINE MAN Wongnai จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอาหารแบบครบวงจร (end-to-end food ecosystem) เราจะมีบริการสำหรับความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกร้านที่ตรงกับความต้องการที่สุด สั่งเดลิเวอรีไปส่งถึงบ้าน สั่งอาหารแล้วไปรับเองที่ร้าน หรือจองโต๊ะล่วงหน้า ในฝั่งของร้านอาหาร เราจะนำเสนอบริการทั้งสื่อประชาสัมพันธ์ ช่องทางการขายใหม่ๆ และซอฟต์แวร์จัดการร้านอาหาร โดยเชื่อมแพลตฟอร์มของทั้ง LINE MAN และ Wongnai เข้าด้วยกัน

เราเชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของ Wongnai ที่มีฐานข้อมูลร้านอาหารมากที่สุดในไทยกว่า 400,000 ร้าน บวกกับช่องทางของ LINE ที่เข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไทยมากที่สุด และประสบการณ์ด้านเดลิเวอรีของ LINE MAN ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดนี้ในประเทศไทย เราจะสามารถสร้างบริการที่ดีที่สุดต่อทั้งผู้บริโภค ร้านอาหาร คนส่งอาหาร และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในอุตสาหกรรม

ในช่วงเวลาที่สังคมไทยกำลังเป็นห่วงเรื่องธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลและ O2O ที่เป็นของยักษ์ใหญ่จากต่างชาติแทบทั้งหมด เราเชื่อมั่นว่าในฐานะบริษัทที่ก่อตั้งโดยคนไทย บริหารโดยคนไทย มีทีมพัฒนาอยู่ในไทย 100% และสร้างมาเพื่อผู้บริโภคชาวไทย เราอยู่ในจุดที่น่าจะเข้าใจความต้องการของคนไทยมากที่สุด

การจะไปให้ถึงฝันข้างหน้าได้ เราต้องการทีมงานอีกมากเพื่อมาช่วยขับเคลื่อนความฝันนี้ด้วยกัน LINE MAN Wongnai กำลังเปิดรับพนักงานอยู่หลายตำแหน่ง ถ้าใครสนใจมาร่วมสร้างอิมแพคท์ให้กับประเทศนี้ไปกับเรา สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://careers.lmwn.com

สุดท้าย ผมอยากใช้โอกาสนี้ขอบคุณลูกค้า พาร์ทเนอร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดของ LINE MAN (โดยเฉพาะเอ็กซ์ - Xinming Zhao) และ Wongnai ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทุกคนมีส่วนช่วยจริงๆ ขอบคุณ BRV ในที่เชื่อมั่นและเข้ามาลงทุนกับเรา และสุดท้าย ผมมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างหนักในฐานะผู้นำของ LMWN เพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายของเราครับ