ซูเปอร์ฟองน้ำจากใยนุ่น ผลงาน มจธ.คว้ารางวัลโลก

ซูเปอร์ฟองน้ำจากใยนุ่น ผลงาน มจธ.คว้ารางวัลโลก

ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำมันและแผ่นเช็ดเครื่องสำอางจากเส้นใยนุ่น ผลงานประดิษฐ์จากนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มจธ. ที่มองเห็นคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของเส้นใยนุ่นที่สามารถดูดซับน้ำมันและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

 ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำมันและแผ่นเช็ดเครื่องสำอางจากเส้นใยนุ่น ผลงานประดิษฐ์จากนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่มองเห็นคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของเส้นใยนุ่นที่สามารถดูดซับน้ำมันและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จึงสนใจพัฒนาให้เกิดประโยชน์และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเส้นใยธรรมชาติชนิดนี้ ทั้งยังได้รับรางวัลในงานประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์โลก ครั้งที่ 3 (WiC 2017) ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี

ชุติพนธ์ ลิ้มนิวัติกุล กล่าวว่า เส้นใยนุ่นมีสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ หรือแว็กซ์ ซึ่งจะป้องกันน้ำทำให้เส้นใยนุ่นไม่เปียกน้ำ และมีคุณสมบัติป้องกันแมลง ไรฝุ่นและเชื้อรา ทีมวิจัยนำเส้นใยนุ่นมาลอกแว็กซ์ และเคลือบสาร 2 ชนิด คือ สารทึบน้ำ และสารลดแรงตึงผิว จะได้เส้นใยนุ่นที่มีคุณสมบัติไม่เปียกน้ำแต่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำมัน จึงออกแบบสำหรับการใช้งาน 2 ลักษณะ คือ แผ่นทำความสะอาดภาชนะ เครื่องครัว และใช้ดูดซับน้ำมันจากอาหารทอด

เส้นใยพิเศษที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำมัน 20 กรัม สามารถดูดซับน้ำมันได้ 50 เท่าของน้ำหนักเส้นใย จึงกำจัดคราบน้ำมันบนภาชนะโดยไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจาน ดังนั้น การทำความสะอาดเครื่องครัวจะใช้น้ำน้อยลง ด้วยเวลาที่สั้น แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือหากใช้ดูดซับน้ำมันจากอาหารทอด จะทำให้อาหารทอดคายความร้อนได้ช้า น้ำมันจะออกมาจากอาหารได้มาก อาหารจะไม่อมน้ำมันและคงความกรอบ ส่วนน้ำมันถูกดูดซึมบนเส้นใยนั้นสามารถบีบออกได้ง่าย สามารถใช้ซ้ำได้มากกว่า 10 ครั้ง เทียบกับการดูดซับน้ำมันได้ถึง 10 ลิตร น้ำมันเหล่านี้สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลได้

ธิดารัตน์ บุญศรี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ที่ปรึกษาทั้ง 2 ผลงาน กล่าวว่า เส้นใยนุ่นเป็นไฟเบอร์ที่เป็นท่อสั้น และผนังบาง จึงสร้างความสมดุลระหว่างความนุ่ม และความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการทำความสะอาดผิวที่บอบบาง โดยจะเก็บกักความชื้นและคายตัวได้ดี จึงลดปริมาณการใช้คลีนซิ่ง โทนเนอร์และยาฆ่าเชื้อโรค อีกทั้งสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ โดยล้างทำความสะอาดด้วยการต้มในน้ำเดือด แล้วนำมาผึ่งในสภาพอากาศปกติเพียง 30 นาที เส้นใยจะแห้ง ซึ่งแผ่นเส้นใยนุ่นที่ใช้แล้วสามารถย่อยสลายได้ภายใน 60 วันกลายเป็นสารอินทรียวัตถุหรือปุ๋ยในดิน

นอกจากการทำโปรเจคของนักศึกษาแล้ว ภาควิชาต้องการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่นำไปสู่การตอบโจทย์ของสังคมได้จริง ประกอบด้วย 3 กลุ่ม กลุ่มอาจารย์ที่สอนนักศึกษาและทำวิจัยเพื่อให้ได้องค์ความรู้ใหม่ ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการจะได้ผลงานวิจัยที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำไปผลิตได้จริง และได้ทรัพยากรบุคคลที่จะเข้าไปทำงานกับบริษัท และกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมเรียนรู้การทำวิจัยที่ตอบโจทย์จริงของสังคมและมีคุณค่าผลิตได้จริง

“การทำโปรเจคลักษณะนี้นักศึกษาได้ใช้ความรู้แบบบูรณาการทำให้ได้คิดและมองครบทุกด้าน เนื่องจากผลงานนี้ไม่ใช่เป็นงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว ต้องเกี่ยวกับงานชุมชน และเกษตรกรรมด้วย และสามารถพัฒนาต่อยอดเพื่อการแก้ปัญหาระดับโลก เช่น เส้นใยนุ่นดูดซับน้ำมันที่รั่วไหลในทะเล หรือผ้าอ้อมเด็กที่ย่อยสลายได้” ธิดารัตน์ กล่าว