ทีโอทีเผยผู้ชนะเน็ตประชารัฐ23ก.พ.

นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการภาครัฐและภาคเอกชน บมจ.ทีโอที ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล กล่าวว่า วานนี้ (10 ก.พ.) ทีโอทีจัดให้เอกชนที่สนใจร่วมประมูลโครงการอินเทอร์เน็ตประชารัฐที่ได้ซื้อซองประกวดราคาไปแล้วประมาณ 20 ซองใน 5 สัญญา เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา และยื่นซองภายในวันที่ 10 ก.พ. 

ทีโอทีได้เปิดซองทันทีเมื่อหมดระยะเวลายื่นซอง พบว่ามีบริษัทที่สนใจเข้ามายื่นซองจำนวน 22 บริษัท รวม 31 ซอง บริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดในแต่ละรายการได้แก่ บมจ.ฟอร์ทคอร์ปอเรชั่น, บริษัท โกลบอล เมช จำกัด, บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น, บริษัท ไนน์เน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี, บมจ.เอสวีโอเอ โดยภาพรวมมีเสนอราคาสูสีกันและประหยัดงบประมาณจากงบประมาณกลางที่วางไว้ 20% โดยนับจากนี้อีก 10 วัน

คณะกรรมการจะนำคุณสมบัติของทุกรายไปตรวจสอบหากผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดตกคุณสมบัติก็จะเลื่อนผู้เสนอราคารองลงมาและผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคเป็นผู้ชนะการประมูลแทน โดยวันที่ 23 ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้ชนะแต่ละสัญญาได้

โดย 5 ประเภทอุปกรณ์ วงเงินรวมประมาณ 4,308 ล้านบาท ดังนี้ 1. สายเคเบิลใยแก้วนำแสง วงเงินงบประมาณในการจัดหา 2,064,903,718.48 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

2. อุปกรณ์ข่ายสาย ODN วงเงินงบประมาณในการจัดหา 310,298,930 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

3. อุปกรณ์ Optical Line Terminal (OLT), ONU, Enclosure และ Rack วงเงินงบประมาณในการจัดหา 1,395,797,184.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

4. อุปกรณ์ Switch จำนวน 1,215 ชุด วงเงินงบประมาณในการจัดหา 286,380,150 บาท

5. อุปกรณ์กระจายสัญญาณแบบไร้สาย (Wireless Access Point) POE Injector และระบบควบคุมเครือข่ายไร้สาย (Wireless Controller) จำนวน 24,700 ตัว วงเงินงบประมาณ 251,075,500.- บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ส่วนรายละเอียดของผู้เสนอราคาต่ำสุดในแต่ละสัญญา ดังนี้ 1. สัญญาเคเบิลใยแก้วนำแสง Optical Fiber Cabel มีผู้ขอซื้อแบบ 24 ราย มีผู้ยื่น 5 ราย

ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด คือ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น ทั้ง 5 รายการ ได้แก่ 1. สายเคเบิลใยแก้วนำแสง ARSS Armoured ขนาด 12 Cores จำนวน 108,292 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 1,583,813,816.80 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 14,625.40 บาท/KM (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 1,246,787,454.40 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

2. สายเคเบิลใยแก้วนำแสง ARSS Armoured ขนาด 24 Cores จำนวน 22,608 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 442,193,715.36 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 19,559.17 บาท/ KM (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 375,195,585.60 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

3. สายเคเบิลใยแก้วนำแสง ADSS ขนาด 12 Cores จำนวน 324 กิโลเมตรวงเงินงบประมาณ 4,307,845.68 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 13,295.82 บาท/KM (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 3,778,812 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

4. สายเคเบิลใยแก้วนำแสง ADSS ขนาด 24 Cores จำนวน 96 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 1,750,040.64 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 18,229.59 บาท/KM (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 1,612,704 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

5. สายกระจายใยแก้วนำแสง (Drop Wire) แบบกลม (Round Type) ขนาด 2 Cores จำนวน 10,000 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 32,838,300 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 3,283.83 บาท/KM (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 28,783,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ส่วนสัญญาที่ 2 อุปกรณ์ข่ายสาย ODN มีผู้ขอซื้อแบบ 20 ราย มีผู้ยื่นแบบ 9 ราย มี ผู้เสนอราคาต่ำสุด 3 รายการ ได้แก่ 1. อุปกรณ์ Aerial Outdoor Splitter (ตู้พัก SDP) จำนวน 76,216 ตัว วงเงินงบประมาณ 244,653,360 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 3,210.- บาท/ตัว (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด ได้แก่ บริษัท โกลบอล เมช จำกัด ราคา 93,376,032.40 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

2. อุปกรณ์ Aerial Straight Joint Closure จำนวน 29,468 ตัววงเงินงบประมาณ 63,061,520.-บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 2,140.- บาท/ตัว (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด ได้แก่ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น ราคา 39,066,611.64 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

3. อุปกรณ์ Fiber Distribution Frame (FDF) จำนวน 805 ตัว วงเงินงบประมาณ 2,584,050.- บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ด้วยราคากลาง 3,210 บาท/ตัว (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด ได้แก่ บริษัท ไนน์เน็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ราคา 1,507,362.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ขณะที่สัญญาที่ 3 อุปกรณ์ Optical Line Terminal (OLT) มีผู้ขอซื้อแบบ 18 ราย มีผู้ยื่นแบบ 5 ราย มีผู้เสนอราคาต่ำสุดทั้ง 4 รายการคือ บมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี ราคา 1, 395,797,185 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นอกจากนี้ยังเสนอราคาต่ำสุดในสัญญาที่ 4 อุปกรณ์ Switch มีผู้ขอซื้อแบบ 22 ราย ที่มีผู้ยื่นแบบ 8 ราย โดยเสนอราคา 286,380,150 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ส่วนสัญญาที่ 5.อุปกรณ์กระจายสัญญาณแบบไร้สาย Wireless Access Point มีผู้ขอซื้อแบบ 20 ราย ยื่นแบบ 4 ราย ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด ได้แก่ บมจ.เอสวีโอเอ ราคา 251,075,500 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)