'โธธ-โอบีว็อค'พกทุนล้านดอลล์ยึดตลาด'โซเชียลอนาไลติกส์'

โธธ โซเซียล และ โอบีว็อค เผยภาพรวมตลาดการวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกโซเชียลมีเดียในไทย มีแนวโน้มขยายตัวได้ไม่หยุด 520 ล้านบาทในปี2562
“กล้า ตั้งสุวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โธธ โซเซียล จำกัด ให้ข้อมูลว่าปีที่ผ่านมา งบประมาณการลงทุนในตลาดดังกล่าวมีสัดส่วน 3% ของการใช้จ่ายโฆษณาบนช่องทางดิจิทัลทั้งหมด ทุกวันนี้การเติบโตเชิงจำนวนผู้ใช้ขยายตัวไม่มากแล้ว ทว่ากลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังช่วยเพิ่มยอดได้เป็นรูปธรรม
“ข้อมูลโซเซียลสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการประสบความสำเร็จธุรกิจภายใต้ภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น”
กล้า เชื่อว่า โซเซียลมีเดียเป็นสื่อที่มีอิทธิพลสูงสุดเมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในไทยที่มีอัตราการเข้าถึงโซเซียลมากกว่า 50%
ปัจจุบัน แอพพลิเคชั่นยอดฮิต เช่น ไลน์มียอดผู้ใช้งานเกิน 33 ล้านคน ทั้งเฉลี่ยต่อคนต่อวันมีการใช้งานค่อนข้างสูง เฟซบุ๊คมีผู้ใช้มากถึง 44 ล้านคน เกินครึ่งจำนวนประชากรในไทย เติบโตประมาณ 7% ต่อปี
ที่น่าสนใจ แม้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเกิดกับคนทุกวัย ทว่ากลุ่มสูงวัยเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานเฟซบุ๊คมากที่สุด สัดส่วนถึง 25% จากเดิมคนกลุ่มนี้บริโภคสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์เป็นหลัก
ดังนั้น ธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและช่องทางการสื่อสารแก่ลูกค้า ให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการวัดประสิทธิภาพสื่อหรือความคุ้มทุนในการลงทุน
“โซเชียลเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก ซึ่งภาคธุรกิจสามารถนำไปใช้กำหนดกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้”
ผนึกโอบีว็อคยึดที่1
ผู้บริหารโธธโซเชียล เผยว่า ได้ควบรวมกิจการกับ บริษัท วันบิต แมทเทอร์ จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอบีว็อค (OBVOC) ด้วยเล็งเห็นโอกาสเติบโตธุรกิจอย่างก้าวกระโดด มีแนวคิดที่สอดคล้องกัน และเชื่อว่าการผนึกกำลังครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาสินค้า ทำให้การบริการทำได้อย่างครบวงจร
ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความสามารถการพัฒนาเครื่องมือการบริหารจัดการ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยจุดแข็งสำคัญของโธธ คือ มีเครื่องมือที่สามารถรวบรวมข้อมูลบนโลกโซเชียลแม้แต่กับภาษาท้องถิ่นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความซับซ้อน ส่วนโอบีว็อคมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงด้านการวิเคราะห์ข้อมูล
อย่างไรก็ดี แง่การดำเนินงานและทำตลาดจะยังคงแยกกันอยู่ ทว่าจะมีการเสนอแพ็คเกจ ซีเนอร์ยีกันด้านผลิตภัณฑ์ และค่อยๆ เชื่อมโยงกันมากขึ้นตามลำดับ
ล่าสุด ยังได้รับเงินลงทุนก้อนใหม่จำนวน 1 ล้านดอลลาร์จาก บริษัท เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด (N-Vest Venture) ผู้จัดการกองทุนของธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเอ็น-เวสต์เข้ามาถือหุ้น 10%
เมื่อรวมทั้ง 2 บริษัทส่งผลให้มีลูกค้าในประเทศไทยเกิน 100 ราย รายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ขณะเดียวกันครองอันดับ 1 ตลาดโซเชียลมีเดียอนาไลติกส์ ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะเติบโต 30-40% มีรายได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท มั่นใจด้วยว่าจะสามารถยึดเบอร์ 1 ตลาดไทยได้ต่อเนื่อง
ลุยต่ออาเซียน
กล้า บอกว่า คู่แข่งที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันมีอยู่ 2 ราย ที่น่ากลัวคือรายที่มาจากต่างประเทศ แต่ทั้งนี้เชื่อว่ามีจุดแข็งที่เหนือกว่าด้านความสามารถในการเข้าใจภาษาท้องถิ่น รวมถึงบริการที่ตอบโจทย์ได้แบบครบวงจร กลยุทธ์ที่สำคัญจะชี้ให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลมีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง
สำหรับการโฟกัส เน้นธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป โดยโอกาสมีทั้งธุรกิจการเงินการธนาคาร รถยนต์ ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์ และไอที
นอกจากนี้ มีแผนขยายฐานธุรกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศคือไทย เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เชื่อว่ามีโอกาสการเติบโตมีสูงมาก แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน
กระบวนการขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาความพร้อม แต่เบื้องต้นภายในสิ้นปี 2560 นี้คาดว่าจะสามารถออกไปได้ 2 ประเทศแน่นอน
สู้ด้วยข้อมูล
“พเนิน อัศววิภาส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันบิต แมทเทอร์ จำกัด เสริมว่า โอบีว็อคมีความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการตามโจทย์หรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้า เช่น การวัดผลแบรนด์ของลูกค้าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การรับฟังความเห็นของผู้บริโภคหลังจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการวัดผลการออกแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ
“บริการของเราจะช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึงการตัดสินใจบนฐานของข้อมูล (Data-Driven Decision) อย่างทันท่วงที
ที่ผ่านมา ซีอีโอและผู้บริหารต้องการข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อประเมินสถานการณ์ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ภาพรวมของธุรกิจ ฝ่ายการตลาดต้องการติดตาม และประเมินผลประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดว่าคุ้มกับงบประมาณที่จ่ายไปหรือไม่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารองค์กรฯ ต้องเฝ้าระวังภาพลักษณ์เชิงลบเพื่อวางแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที ฝ่ายผลิตภัณฑ์ต้องทราบฟีดแบ็กของกลุ่มเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องตามความต้องการของลูกค้า
ในฐานะนักลงทุน “ศรัณย์ สุตันติวรคุณ” หุ้นส่วนบริหาร บริษัท เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยใช้โซเซียลมีเดียอย่างมาก ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของบุคคล ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องเตรียมความพร้อม และปรับตัวให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลง เพื่อหาโอกาสจากสิ่งที่เกิดขึ้น
โธธโซเชียล และ โอบีว็อคเป็นบริษัทที่มีศักยภาพ การร่วมมือทั้งสองบริษัท จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการให้บริการการจัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูล ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ที่เห็นความสำคัญของข้อมูลจากโลกโซเซียล คาดว่า จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของโซเซียลมีเดีย จะช่วยหนุนรายได้ของทั้งสองบริษัทเติบโตไปพร้อมกัน
เบื้องต้นทั้งสองบริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ระดับหลักร้อยล้านบาท แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ในอนาคต แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่เชื่อมั่นว่าความต้องการการใช้ข้อมูลเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจยังจะเติบโตในอัตราเร่งไปอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5 ปี




