'ฟิล์ม' นั่งแท่นผู้บริหารบริษัทฟินเทค

'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ตั้งเพย์ออล รับกระแสฟินเทค อัดงบลงทุนเพิ่ม 100 ล้านบาทเสริมแกร่งบริการแอพพลิเคชั่น-การตลาด ตั้งเป้าสิ้นปียอดโหลดแอพทะลุ2แสน
นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เตรียมใช้งบประมาณการลงทุน 100 ล้านบาทยกระดับการให้บริการโมบายเพย์เมนท์บนแอพพลิเคชั่น “เพย์ออล(PAYALL)”
โดยในแผนจะใช้งบราว 60 ล้านบาทพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวแอพพลิเคชั่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และอีก 40 ล้านบาท สำหรับการตลาดทั้งรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์และอโบพเดอะไลน์เพื่อสร้างชื่อทำให้เป็นที่รู้จัก เกิดการใช้งานในวงกว้าง
ทั้งนี้ รับกระแสฟินเทคที่กำลังมาแรงทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย บริษัทเองมุ่งพัฒนาไม่หยุด เพื่อก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำตลาด ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคดิจิทัล
ส่วนของการบริการขณะนี้ครอบคลุมทั้งการเป็นอีมาร์เก็ตเพลสมีร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า สินค้ากว่า 1 แสนรายการ ข้อเสนอพิเศษ(ดีล) ชำระค่าสินค้าและบริการตามร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ ค่าสาธารณูปโภค ค่าตั๋วเครื่องบิน
รวมถึงสินค้าจากเหล่าศิลปินดารา ล่าสุดยังได้เชื่อมระบบไปกับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซชั้นนำลาซาด้า ทุกวันนี้บริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดของบริษัทคือ ชำระค่าตั๋วเครื่องบินและช้อปปิ้ง
นอกจากนี้ เร็วๆ นี้เตรียมเสริมบริการใหม่ ดูดวงกับหมอลักษณ์ฟันธง ขายประกัน เกม และบริการบัตรเดบิตเพย์ออล
สำหรับโมเดลรายได้ประกอบด้วย จากค่าธรรมเนียมการจ่ายเงิน(5 บาทต่อบิล) และส่วนแบ่งรายได้จากผู้นำสินค้ามาวางจำหน่าย
รวมถึงค่าสมาชิกรายปี ปีละ 3,200 บาท ผู้ที่สมัครส่วนนี้จะสามารถสร้างรายได้โดยการรับส่วนลดและสะสมแต้มจากการซื้อสินค้า นำแต้มมาแลกเป็นรายได้ โดยแต้มสะสมจะเกิดได้จากทั้งการซื้อสินค้าและการแนะนำสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่ม
เพย์ออล ดำเนินธุรกิจบริการทางการเงินผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ควบคู่ไปกับระบบการบริหารงานเครือข่ายรูปแบบเอ็มแอลซี(มัลติ เลเวล คอนซูมเอร์)
ปัจจุบัน ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมีอยู่ราว 1 แสนครั้ง มีเงินหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในระบบกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน แนวโน้มคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าทุกเดือน
บริษัทตั้งเป้าว่า สิ้นปี 2559 จะมียอดดาวน์โหลดไม่น้อยกว่า 2 แสนครั้ง และเพิ่มไปแตะ 1 ล้านครั้งภายใน 2 ปี ขณะที่รายได้ สิ้นปี 2559 ตั้งเป้าไว้ที่ 300-400 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 300%
ขณะนี้ สัดส่วนลูกค้าเป็นแบบใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วไป 60% สมาชิกรายปี 40% แบ่งตามพื้นที่มาจากกทม. 60% ต่างจังหวัด 40%
ที่ผ่านมา หลังเปิดให้บริการมาแล้ว 1 ปี ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด บริษัทสามารถคืนทุนได้ภายใน 7 เดือน จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เตรียมเพิ่มไปเป็น 50 ล้านบาทเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น
“จุดแข็งของเรามาจากการให้บริการแอพที่มีคุณภาพ มีความเสถียร มีระบบไอทีหลังบ้านที่ดีรองรับซึ่งมั่นจันได้ว่าระบบจะไม่ล่ม สำคัญสินค้าที่นำเข้ามาเป็นสินค้าที่แมสจริงๆ”
พร้อมกับเผยว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการขยายพื้นสำนักงานเพิ่มอีก 6 เท่า จากเดิม 500 ตรม.ไปเป็น 3,000 ตรม. ย่านรัชดาภิเษก โดยจะเพิ่มทั้งส่วนของต้อนรับ ห้องประชุม ทั้งมีการปรับระบบงาน นำซอฟต์แวร์มาช่วยบริหารจัดการแทนคนด้วย







