เปิดโฟกัสกรุ๊ป'เรียงช่อง' ใหม่

กลุ่มทีวีดิจิทัลหนุนร่างฯ ชี้เป็นเงื่อนไขสำคัญประมูล ด้าน"เคเบิล-ดาวเทียม" ค้านชี้กระทบธุรกิจ แข่งขันไม่เป็นธรรม

วานนี้ (24 ก.พ.) สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อย (Focus Group) ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โครงข่ายเคเบิลและทีวีดาวเทียม ต่อร่างประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ. ...

นายพสุ ศรีหิรัญ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานวิชาการและจัดการทรัพยากรกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. เปิดเผยว่าการรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อย ร่างประกาศฯ เรียงช่อง กำหนดหารือ 5 ประเด็น ในกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่ หรือโครงข่ายเคเบิลและทีวีดาวเทียม คือ 1. จัดเรียงช่องทีวีดิจิทัล ที่ลำดับ 1-36 เหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม จากเดิมจัดลำดับช่อง 1-10 ได้เอง 2. จัดลำดับ 37-60 ได้เอง 3. จัดลำดับหลายเลข 61 เป็นต้นไป ตามประกาศฯ จัดหมวดหมู่ช่องรายการ 4. ห้ามดัดแปลงสัญญาณความคมชัดช่องทีวีดิจิทัล หรือ การอัพเกรดช่อง SD เป็น HD และ 5. ห้ามเผยแพร่ซ้ำช่องทีวีดิจิทัลในโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม หรือออกอากาศช่องทีวีดิจิทัล 2 ตำแหน่งช่องในแต่ละโครงข่าย
"ทีวีดิจิทัล"หนุนเบอร์เดียวทุกแพลตฟอร์ม

นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารทีวีดิจิทัล "จีเอ็มเอ็ม แชนแนล" และช่องวัน กล่าวว่า การประกาศหลักเกณฑ์ประมูลช่องทีวีดิจิทัล มีเงื่อนไขให้ผู้ประมูลช่องด้วยมูลค่าสูงสุด ได้สิทธิเลือกลำดับช่อง ดังนั้นการเรียงช่องจึงมีความสำคัญต่อผู้ประมูล และประกาศมัสต์ แคร์รี่ ที่บังคับใช้ให้นำช่องทีวีดิจิทัลไปเผยแพร่ ดังนั้นหากทุกแพลตฟอร์มเรียงช่องเหมือนกัน จะช่วยลดความสับสนของผู้ชม

นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารทีวีดิจิทัล "เนชั่นทีวี" กล่าวว่า ในยุคทีวีดิจิทัลการจัดเรียงช่องเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม เป็นความชอบธรรมที่ต้องดำเนินการเหมือนกัน ทั้งโครงข่ายภาคพื้นดิน เคเบิลและดาวเทียม เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค ซึ่งเงินประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่อง จะถูกนำไปสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรทัศน์
นายณัฐชัย อักษรดิษฐ นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯเห็นด้วยกับการประกาศเรียงช่องเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม โดยมองประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพราะเห็นว่าการจัดเรียงต่างกัน ทำให้ประชาชนสับสน และเห็นว่ามีผู้ได้ประโยชน์ เพียงไม่กี่ราย
"เคเบิล-ดาวเทียม"ค้านเรียงช่อง

นายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเรียงช่องทีวีดิจิทัล 1-36 โดยเห็นว่าเทคโนโลยีปัจจุบันผู้บริโภคสามารถจัดเรียงช่องที่สนใจได้เอง ดังนั้นเห็นว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากประกาศเรียงช่องใหม่

นายมานพ โตการค้า ประธานชมรมผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม กล่าวว่า ก่อนการประมูลทีวีดิจิทัล มีการใช้ประกาศเรียงช่องเดิม ที่กำหนดให้หมายเลข 1-10 โครงข่ายเป็นผู้จัดเรียงได้เอง เพื่อสร้างความแตกต่างด้านการแข่งขัน ซึ่งเป็นประกาศฯ ที่ผู้ประมูลทีวีดิจิทัลรู้ล่วงหน้า อีกทั้งโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมไม่คัดค้านการจัดเรียงช่องทีวีดิจิทัลไว้ที่ลำดับ 11-46 ปัจจุบันผู้ชมจดจำและรับรู้ว่า เลขช่องที่อยู่บนโครงข่ายเคเบิลและดาวเทียม จะแตกต่างจากโครงข่ายภาคพื้นดิน จึงเห็นว่าการจัดเรียงช่องใหม่ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญยิ่ง (8888) จำกัด ผู้บริหารเคเบิลทีวี "เจริญเคเบิลทีวี". กล่าวว่าประกาศเรียงช่องใหม่ ให้ความสำคัญกับการแข่งขันเชิงธุรกิจ คือ ทีวีดิจิทัล, ทีวีดาวเทียม และช่องเคเบิลทีวี ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มต้องการได้ตำแหน่งเลขช่องลำดับต้น เพื่อหวังแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมทีวี ซึ่ง กสทช.จะต้องทำหน้าที่กำกับการแข่งขันให้เสรี และเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการทุกประเภท

นายพสุ กล่าวสรุปเวทีการรับฟังความคิดเห็นว่า จะรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อเสนอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) พิจารณาร่างประกาศเรียงช่องใหม่ จากนั้นจะเสนอ กสทช. พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ หาก กสทช. เห็นว่ามีการปรับแก้ร่างประกาศฯ ซึ่งมีสาระสำคัญที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง อาจพิจารณาให้นำร่างประกาศฯเรียงช่องกลับมาเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) อีกครั้ง