ปส. เฝ้าระวังรังสีพายุสุริยะ

ปส. เฝ้าระวังรังสีพายุสุริยะ

หลังเกิดกระแสข่าวว่าจะมี “พายุสุริยะ” ในระดับรุนแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้น 16-22 ธ.ค. ปส.เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เฝ้าระวังภัยทางรังสีหลังเกิดกระแสข่าวปรากฏการณ์ “พายุสุริยะ” จากดวงอาทิตย์ในระดับรุนแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้น ย้ำความมั่นใจเชิญชวนประชาชนตรวจสอบปริมาณรังสีในอากาศแบบ Real time จากสถานีเฝ้าระวังรังสีกว่า ๒๐ แห่งทั่วประเทศ ได้ที่เวบไซต์ www.oaep.go.th

ดร.อัจฉรา วงศ์แสงจันทร์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องพายุสุริยะ และให้เฝ้าระวังการเกิดพายุสุริยะจากดวงอาทิตย์ในระดับรุนแรงที่สุด ในระหว่างวันที่ ๑๖ – ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ นั้น เป็นที่ทราบดีว่าการเกิดปรากฏการณ์ “พายุสุริยะ หรือ Solar Storm” คือกระแสของอนุภาคพลังงานสูงที่พัดมาจากดวงอาทิตย์ด้วยปริมาณและความเร็วสูงกว่าระดับปกติ

อนุภาคนี้ มีทั้งอิเล็กตรอนและโปรตอน เป็นตัวการทำให้เกิดแสงเหนือใต้ และพายุแม่เหล็ก ซึ่งในกรณีที่รุนแรงก็อาจส่งผลต่อดาวเทียม ยานอวกาศ และระบบสายส่งบนโลก และการเกิดปรากฏการณ์นี้ จะมีรังสีคอสมิกปริมาณสูง เกิดขึ้นด้วย

ปรากฏการณ์พายุสุริยะ ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลก และดาวเคราะห์ดวง อื่น ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ส่งออกมาคือ สิ่งที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" ซึ่งปรากฏการณ์พายุสุริยะ จะมีปริมาณรังสีคอสมิกออกมามาก ซึ่งยิ่งปริมาณ "รังสีคอสมิก" เข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลกมากเท่าไหร่ จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลก จะมีน้ำก่อตัวมากขึ้น

“ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกต่อปรากฏการณ์ดังกล่าว เนื่องจากรังสีคอสมิกจะถูกดูดกลืนในชั้นบรรยากาศของโลกก่อนที่จะถึงพื้นโลก แต่อาจมีอนุภาคย่อยประเภทต่างๆ ที่รอดมาจนถึงพื้นโลกได้ เช่น อิเล็กตรอน นิวตรอน และโปรตอนบางส่วน ซึ่งปริมาณน้อยมาก และไม่มีผลกระทบเกี่ยวกับการได้รับรังสีของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ปส. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการเฝ้าระวังภัยทางรังสีของประเทศ มีสถานีตรวจวัดรังสีในอากาศ จำนวนกว่า ๑๕ สถานี ติดตั้งครอบคลุมหลายส่วนของประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ตาก ขอนแก่น อุบลราชธานี หนองคาย สกลนคร กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ตราด ระยอง สงขลา ระนอง และภูเก็ต โดยประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบข้อมูลปริมาณรังสีจากสถานีต่างๆ ได้ทางเวบไซต์ www.oaep.go.th”

สถานีตรวจวัดรังสีในอากาศทั้งหมดนี้ จะเฝ้าตรวจระดับรังสีแกมมาแบบเรียลไทม์และส่งข้อมูลแบบออนไลน์ไปที่ศูนย์เฝ้าระวังภัยทางรังสี ณ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งหากค่าระดับรังสีที่วัดได้สูงผิดปกติ ก็จะมีการส่งสัญญาณเตือนมาที่ศูนย์เฝ้าระวังภัยทางรังสีแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและประกาศมาตรการรองรับเพื่อให้ประชาชนและสิ่งแวดล้อมปลอดภัยจากอันตรายของรังสีต่อไป