'แว่นแก้ว'หนังสือไม่รู้จบ

ถ้าเด็กพบหนังสือเล่มแรกที่ใช่และชอบ จะนำมาสู่นิสัยรักการอ่านได้ จุดยืนและจุดนับหนึ่งของนานมีบุ๊คส์
ชัดเจนสำหรับจุดยืนของร้านแว่นแก้ว "ร้านหนังสือคุณภาพสำหรับเด็กและเยาวชน" ครั้งแรกของประเทศไทย พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะปลูกฝังพฤติกรรมรักการอ่านให้กับเด็กไทย เตรียมพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 24 นี้ ณ นานมีบุ๊คส์ (สุขุมวิท 31)
ร้านแว่นแก้ว สุขุมวิท31 ใช้พื้นที่ชั้น 1-2 จากอาคารสูง 6 ชั้น สะดุดตาด้วยโมเดลบิ๊กไซส์ไดโนเสาร์ ภายในร้านตกแต่งด้วยสีสันสดใสสะดุดตา สร้างบรรยากาศด้วยชั้นหนังสือรูปตัวการ์ตูนและเสียงสัตว์ที่คัดสรรจากตัวเอกในหนังสือเล่มโปรดของเด็กๆ ที่มีอยู่ในร้าน อัดแน่นด้วยหนังสือจาก 192 สำนักพิมพ์ จำนวนเกือบ 6,000 ปก ซึ่ง 1,200 ปกเป็นภาษาอังกฤษ กว่า 90% เป็นหนังสือสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 18 ปี รวมทั้งของเล่นเพื่อการเรียนรู้ และหนังสือแนวครอบครัวสำหรับพ่อแม่อีก 10%
"หนังสือมีความสนุกสุดยอด เนื้อหาสามารถสร้างแรงบันดาลใจ แต่ปัญหาคือเด็กไม่เปิดอ่าน ฉะนั้น เราจึงนำสิ่งที่อยู่ในหนังสือออกมานำเสนอ มาเล่าเรื่องราวผ่านบรรยากาศการตกแต่งในร้าน ผ่านกระบวนการออกแบบที่กองบรรณาธิการทำงานใกล้ชิดกับอินทีเรียดีไซเนอร์ โดยให้ฝ่ายหนังสือวรรรกรรมเยาวชน ฝ่ายหนังสือนิทานเสริมความรู้และฝ่ายอื่นๆ คัดบทเด็ดของตนเองออกมานำเสนอ จากนั้นก็ถกกันกระทั่งไอเดียตกผลึกก็ได้มาเป็นตัวการ์ตูนตกแต่งในร้าน เช่น โคมไฟหิ่งห้อยมาจากสารานุกรมแมลง โมเดลมังกรพ่นไฟใจดีมาจากชุดนิทานบ้านไร่ เป็นต้น" คิม จงสถิตย์วัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ นานมีบุ๊คส์ กล่าว
นานมีบุ๊คส์ขอพระราชทานนามปากกา “แว่นแก้ว" จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาใช้เป็นชื่อร้านหนังสือแว่นแก้ว ซึ่งแปลงโฉมจาก นานมีบุ๊คส์ช็อป 8 สาขา ขณะนี้ดำเนินการเปลี่ยนเสร็จแล้ว 4 สาขา เริ่มจากสาขาเซ็นทรัลพระราม 3 ตามมาด้วยสาขาที่เชียงใหม่ ขอนแก่นและสุขุมวิท 31
ร้านแว่นแก้วที่สุขุมวิท 31 ถือว่าสมบูรณ์สุดมีลักษณะเป็นแฟลกชิพสโตร์บ่งบอกความเป็นนานมีบุ๊คส์ ภายใต้คอนเซปต์คำว่า B E S T ประกอบด้วย book ความหลากหลายของหนังสือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมเพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำเกี่ยวกับหนังสือที่เหมาะสมตามวัยและความสนใจของเด็ก
เป้าหมายหลักของร้านแว่นแก้วคือ ให้เด็กไทยและเยาวชนรักการอ่านและการเรียนรู้ โดยต้องเข้าถึงหนังสือและนวัตกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเยาวชนอายุ 18 ปี ซึ่งลักษณะของหนังสือก็จะต่างกัน ยกตัวอย่าง กลุ่มยัง-รีดเดอร์ในวัยประถมที่เริ่มอ่านก็ต้องมีภาพประกอบแทรกในหน้า ส่วนหนังสือสำหรับเยาวชน 18 ปีขึ้นไป ถือเป็นวัยที่ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ จะเป็นแนวพัฒนาตนเอง การค้นพบเส้นทางของตัวเองโดยผู้เขียนที่เป็นกูรูด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างประเทศ
education toys ของเล่นเพื่อการเรียนรู้ประเภทแฮนด์ออน หรือของเล่นที่ต่อยอดจากการเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ฝึกให้ขบคิดและจดจำ เช่น ชุดสิ่งประดิษฐ์โซลาร์เซลล์ จิ๊กซอว์ลูกบาศก์โปรงแสงสีแม่สีสำหรับเรียนรู้เรื่องสีและโครงสร้าง ส่วนถัดมาคือ smart learning กิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการและการเรียนรู้ กิจกรรมเล่านิทาน การทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยกำหนดจัดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 น.และ 14.00 น.
ส่วน talent การสร้างบรรยากาศดึงดูดให้เด็กสนใจการอ่านและเรียนรู้ สะท้อนให้เห็นจากบรรยากาศการออกแบบของร้าน เช่น ผจญภัยในอาณาจักรแมลงกับกำแพงแมลง 3 มิติ & ฝูงแมลงยักษ์ รวมถึง Wall of Why? กำแพงกระตุกต่อมสงสัย และโมเดลทีเร็กซ์ขนาดยักษ์กับมังกรพ่นไฟ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับ "โก จีเนียส สคูล" สถาบันพัฒนาศักยภาพความพร้อมด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่ยังคงคอนเซปต์การเรียนรู้แบบแฮนด์-ออน ให้เด็กเรียนสนุกแบบไม่ต้องท่องจำ
"เราเชื่อว่า ถ้าเด็กพบหนังสือเล่มแรกที่ใช่และชอบ จะนำมาสู่นิสัยรักการอ่านได้" จุดยืนของนานมีบุ๊คส์ในมุมของเธอ







