ธุรกิจบนเรียวปาก

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

ลิปสติกแบรนด์ไทยชูความหลากหลายของเฉดสี สะท้อนอารมณ์และบุคลิกในแต่ละวันของผู้หญิง พร้อมบรรจุภัณฑ์แปลกตาด้วยโทนขาวดำ ร่วมชิงส่วนแบ่งในตลาดระดับกลางที่ดีกรีการแข่งขันเข้มข้น โดยจ้าวแห่งตลาดคือ นีเวีย สหพัฒนพิบูลและคิวท์เพรส

ตลาดลิปสติกแบ่งเป็น 3 ระดับโดยตลาดระดับกลางซึ่งขายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อต่างๆ กินส่วนแบ่งตลาด 50% ของตลาดลิปสติกโดยรวม ส่วนที่เหลือ 30% เป็นของตลาดลิปสติกระดับล่าง ซึ่งขายผ่านร้านค้าทั่วไปแถบต่างจังหวัดและอีก 20% เป็นของตลาดลิปสติกระดับบนที่ขายผ่านเคาน์เตอร์เครื่องสำอางมูลค่ารวมของทุกตลาดประมาณกว่า 400 ล้านบาทในปัจจุบัน

:: เมื่อปากไม่ขาดสีสัน

Passion Ville ลิปสติกแบรนด์ไทยเปิดตัวเมื่อปี 2553 โดย "ภูรดา จริงจิต" อดีตแอร์โฮสเตสที่สร้างธุรกิจจากความชอบส่วนตัวในเรื่องการแต่งหน้า ประกอบกับการเดินทางไปหลายประเทศ ทำให้เห็นเมคอัพมากมายหลายแบรนด์ รวมถึงเห็นช่องว่างของลิปสติกที่ยังมีอีกหลายเฉดสีที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนผลิต

“เรามีทีมพัฒนาสูตรและเนื้อสัมผัสซึ่งครอบคลุม 3 แบบคือ เนื้อมอยสเจอร์ เนื้อครีมและสีด้าน โดยนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาผลิตในไทย ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสีย และใช้วิตามินซีแทนสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองและปากดำคล้ำ จากเดิมที่คิดจะผลิตในต่างประเทศและนำเข้ามาแต่จะต้องเสียภาษีนำเข้ากว่า 30% ซึ่งจะทำให้ต้นทุนและราคาขายสูง” ภูรดา กล่าวและว่า

“ผู้หญิงเลือกใช้ลิปสติกในโทนสีที่แตกต่างกันตามโทนการเมคอัพ บางครั้งสีผิวก็ทำให้ลิปสติกสีเดียวกันให้อารมณ์ต่างกัน การพัฒนาเฉดสีที่ละเอียดอ่อนจะตอบโจทย์สาวๆ ได้ดี ในขณะที่ปิดช่องว่างของสีที่ต้องการแต่ยังไม่มีแบรนด์ไหนทำออกมา”

เธอวางตำแหน่งให้ Passion Ville เป็นแบรนด์สตรีทที่มีทั้งความโมเดิร์นและเทรนดี้ พร้อมสีสันกว่า 26 สี ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ การไล่เฉดสีอย่างละเอียด อาทิ สีครีมก็จะมี 4 เฉด ทั้งยังออกแบบให้บรรจุภัณฑ์มีความโดดเด่นด้วยสีขาวดำ ถูกใจกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ระดับนิสิตนักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน และที่สำคัญคือ ราคาลิปสติกอยู่ที่ 380 บาทต่อแท่ง เป็นราคาระดับ C+ ถึง B ที่ทุกคนสามารถจ่ายได้

“เราเปิดตัวแบรนด์ผ่านตลาดออนไลน์ เพื่อให้เกิดไวรัลมาร์เก็ต ผ่านบิวตี้บล็อกเกอร์ และกลุ่มเซเลปออนไลน์ที่มีจำนวนคนติดตามสูง มุ่งไปที่กลุ่มคนที่สามารถสร้างแรงจูงใจได้ดี พร้อมกับมีตัวแทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้า” เจ้าของแบรนด์ Passion Ville ชี้

ในช่วงแรกตั้งเป้ายอดขายที่ 1 พันแท่งต่อเดือน แต่ผลตอบรับกลับดีมาก ยอดขายเพิ่มเร็วจนปัจจุบันอยู่ที่ 2 พันแท่งต่อเดือน เกิดปัญหาผลิตไม่ทัน บางสีหมดสต็อกนานเพราะต้องรอผลิต 2 เดือน ส่งผลให้ลูกค้าอาจจะไปเลือกซื้อสีแบบนี้ในแบรนด์อื่นแทน

“เราต้องแก้ปัญหาโดยตรวจสต็อกบ่อยๆ เมื่อสีไหนเหลือไม่มากก็ต้องสั่งผลิตเผื่อไว้ แต่บางสีก็ไม่ทัน หมดเร็วมากเพราะลูกค้าเพิ่มจำนวนต่อเนื่องจากการบอกปากต่อปาก”

:: ไวรัลสร้างแบรนด์

สำหรับ 26 สีของลิปสติก Passion Ville นั้น ภูรดาชี้ว่า ยังไม่พอ เพราะมีแผนที่จะเพิ่มเป็น 50 เฉดสีภายในปีนี้ โดยการเลือกสีนั้นจะอิงตามเทรนด์สีของแต่ละปี ดูเทศกาลหรือช่วงเวลาพิเศษ เช่น วันวาเลนไทน์ก็จะมีสีชมพู 2 เฉด ช่วงเปิดเทอมก็จะมีสีที่เหมาะกับเด็กสาว รวมถึงการออกแบบสีลิปสติกตามรันเวย์ เช่น ช่วงซัมเมอร์นี้เป็นเทรนด์สีส้ม ก็จะผลิต 5 เฉดให้เลือก

นอกจากนี้ การพัฒนาสินค้าจะทำอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายปีนี้จะเพิ่งไลน์สินค้าใหม่ คือ ลิปกรอส ลิปสเตนและที่ปัดแก้ม

เธอตั้งเป้าจะขยายไลน์เครื่องสำอางครบวงจรภายในปี 2558 พร้อมตั้งเป้าการเติบโต 20% ทุกปี โดยในปีนี้จะทำการตลาดแบบออฟไลน์เพิ่ม โดยมุ่งไปที่สื่อนิตยสารทั้งด้านความงาม และนิตยสารแนวสตรีทที่ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์

“5 เดือนสำหรับลิปสติกแบรนด์ไทยนี้ โตเร็วมากกว่าที่คิด แต่เราจะพัฒนาต่อเนื่องเพื่อก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ บนพื้นฐานที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้หญิง รวมทั้งการศึกษาตลาดว่ายังขาดอะไร เพื่อที่จะสร้างสิ่งใหม่ตอบโจทย์สิ่งที่ตลาดต้องการแต่ยังไม่มีใครทำ” เจ้าของแบรนด์ย้ำ

** ติดตามคลิปผ่าน iSnap หรือhttp://youtu.be/Khh3QybiCs4