เทคนิคผลิตหนังวิทย์สั้น

เทคนิคผลิตหนังวิทย์สั้น

ต่อไปนี้การดูหนังจะได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน เมื่อวิทยาศาสตร์ถูกนำเสนอในรูปแบบของภาพยนตร์สั้น

ต่อไปนี้การดูหนังจะได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน เมื่อวิทยาศาสตร์ถูกนำเสนอในรูปแบบของสื่อที่มีความทันสมัยและเป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างภาพยนตร์สั้น ที่ไม่ว่าใครก็ชอบดูกันทั้งนั้น

เพื่อส่งเสริมให้มีการผลิตภาพยนตร์สั้นทางวิทยาศาสตร์ และให้คนในสังคมเกิดความตื่นตัวทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จึงร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวม 11 หน่วยงาน จัดโครงการประกวดหนังวิทย์สั้นเพื่อการเรียนรู้ (Short Science Film) หัวข้อ “ศาสตร์แห่งแสง ” ขึ้น

และเมื่อเร็วๆนี้ ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือและเปิดตัวโครงการ พร้อมทั้งกิจกรรมเสวนาในหัวข้อเรื่อง วิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์ เพื่อชี้แนะผู้เข้าประกวดให้เกิดแนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับหัวข้อในการประกวด รวมถึงการผลิตภาพยนตร์สั้นทางวิทยาศาสตร์ ณ ห้องประชุมนิดา สะเพียรชัย อาคาร 15 ปี สสวท. โดยการเสวนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเสวนา คือ ศาสตราจารย์ ดร. สุทัศน์ ยกส้าน ราชบัณฑิต นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการบริษัทพานอรามา เวิลด์ไวด์ จำกัด ดำเนินรายการโดย ดร. อาคีรา ราชเวียง หัวหน้าสาขาเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล

ศาสตราจารย์ ดร. สุทัศน์ ยกส้าน ราชบัณฑิต นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับแสงในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเป็นแนวคิดให้กับนักศึกษาที่เข้าร่วมประกวดหนังวิทย์สั้นในครั้งนี้ว่า “ ถ้าพูดเรื่องแสงนั้นมีเยอะมาก ที่ตาเรามองเห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แสงจากคลื่นวิทยุ มือถือ อินฟาเรด รังสีแกมม่า พวกนี้เป็นแสงที่เรามองไม่เห็น

ซึ่งความสนุกของการเรียนวิทยาศาสตร์อยู่ที่ตามองไม่เห็นนี่แหละ อย่างการใช้แสงเลเซอร์รักษาโรค เกี่ยวกับตาหรืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตา ใช้แสงวิเคราะห์โครงสร้าง DNA เป็นต้น เป็นแนวทางให้รู้ว่าเทคโนโลยีของแสงนั้นไปไกลมาก อยู่ที่คุณจะนำเสนอออกมาในรูปแบบภาพยนตร์สั้นอย่างไร อยากให้คนดูมีทัศนคติอย่างไร ต้องมีแรงจูงใจ มีที่มาที่ไป คนดูดูแล้วจะได้อะไร ”

การผลิตหนังวิทย์สั้นเป็นการใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์ ทำเพื่อฝึกตัวเองด้วยและเพื่อคนอื่นด้วย ฉะนั้นอย่าท้อ เมืองไทยกิจกรรมแบบนี้อาจไม่ได้อยู่ในความสนใจมากนัก เราต้องทำหน้าที่สร้างความสนุกสนานให้คนดู ทำหนังออกมาให้น่าสนใจพร้อมทั้งให้ความรู้ อาจเริ่มจากการอ่านหนังสือเยอะๆ ดูหนังเยอะๆ หลายๆ แบบ จึงจะมีไอเดียที่ดี

ด้าน นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการบริษัทพานอรามา เวิลด์ไวด์ จำกัด ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ส่วนตัวชอบวิชาวิทยาศาสตร์และเคยทำรายการวิทยาศาสตร์มาก่อน แต่เท่าที่สังเกตรายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องท่องเที่ยวหรือสารคดีทั่วไปมากกว่า หนังสั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยจะมีหรือไม่มีเลย เมืองไทยเราไม่ใช่สังคมวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครสนใจวิทยาศาสตร์ จึงพัฒนาได้ยาก เราเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีแต่ไม่ได้สร้างเทคโนโลยีเลย

“ การสร้างหนังวิทยาศาสตร์ให้น่าสนใจ อาจเอาเรื่องใกล้ตัวมาเล่าให้น่าสนใจ เช่น น้ำขึ้นน้ำลง ชาวบ้านก็พอรู้อยู่แล้วคาดเดาได้เมื่อไหร่ขึ้นเมื่อไหร่ลง เขารู้เพราะเป็นเรื่องที่เคยชิน แต่ถ้าเราเอาเรื่องนี้มาอธิบายให้เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเขาก็จะมีความรู้ในเรื่องนี้ที่ถูกต้องชัดเจน ซึ่งการผลิตรายการ อย่างแรกใจต้องรักที่จะทำงานด้านนี้ ต่อมาคือช่างสังเกต เพราะงานวิทยาศาสตร์มันอยู่รอบตัวเรา และอย่างที่สามคือ แนวคิดในการนำเสนอ ทำยังไงให้ดูสนุก ถ้าเราจะเอาคนดูให้อยู่ ให้ติดตามงานของเราตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องเน้นการนำเสนอเป็นหลัก ข้อมูลมากเกินไปก็ไม่มีใครดู ต้องแทรกเรื่องต่างๆโดยที่เขาไม่รู้ตัว นำเข้าเรื่องให้ตื่นตาตื่นใจรู้สึกน่าติดตาม ”

อาจเริ่มจากทุกคนมีแนวคิดอะไรในใจ สนใจเรื่องอะไรให้เสนอออกมา และต้องตอบคำถาม 3 ข้อนี้ด้วยว่า ทำไปเพื่ออะไร วัตถุประสงค์ที่เราจะทำเรื่องนี้เพราะเราจะบอกคนดูว่าอะไร ให้ใครดู คือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อที่จะกำหนดรูปแบบ เทคนิคการนำเสนอ ดูแล้วได้อะไร จากเรื่องที่เราทำ เอาไปคิดต่อในแนวทางไหนได้บ้าง เกิดประโยชน์ต่อคนดูมากน้อยแค่ไหน เสร็จแล้วจึงนำประเด็นต่างๆมาเรียงลำดับเนื้อหาแล้วเขียนโครงเรื่องขึ้นมา เพราะการจะทำภาพยนตร์ทุกครั้งต้องมีโครงเรื่องเสมอ เพื่อเป็นเส้นทางการเดินทางของเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ขั้นตอนการผลิตภาพยนตร์ไม่ออกนอกเส้นทาง งบประมาณไม่รั่วไหล เป็นการทำงานแบบมืออาชีพที่อาศัยการทำงานเป็นทีม จะทำคนเดียวไม่ได้

ฉะนั้น การตั้งทีมขึ้นมาต้องเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันมากๆ รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม บางทีเราเสนอไปแล้ว เพื่อนไม่เอาด้วยก็ต้องยอมรับ ไม่โกรธ เพราะสุดท้ายแล้วผลงานที่ออกมาก็จะเป็นของกลุ่มเรา ถือเป็นการเริ่มต้นทำงานเป็นทีมตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ การประกวดหนังวิทย์สั้นเพื่อการเรียนรู้ (Short Science Film) “ ศาสตร์แห่งแสง ” (Science of Light) กำลังเปิดรับสมัครผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ทีมละ 3-4 คน จนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2557 ตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยแบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบคัดเลือกจะคัดเลือกผู้เข้ารอบจำนวน 20 ทีม ประกาศผลเดือนพฤษภาคม 2557 และรอบตัดสินประกาศผลในเดือนตุลาคม 2557 ผลงานที่ผ่านการคัดเลือกจะได้นำไปเผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาวิทยาศาสตร์ผ่านช่องทางต่างๆ และผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับการพิจารณาเพื่อส่งเข้าประกวดในเทศกาล ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้(Science Film Festival) ครั้งที่ 11

ติดต่อสอบถามที่ สสวท. Call Center: 0 2335 5222 หรือ 0 2392 4021 ต่อ 2406, 2408 และ 3310 e-mail: [email protected] หรือ [email protected] ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/shortsciencefilm www.ipst.ac.th และ www.sciencefilm.ipst.ac.th

รัชนันท์ เพชรจำนงค์ ส่วนประชาสัมพันธ์ สสวท. / รายงาน