Mr.Leaf เล่าเรื่องใบตองตึง

ชัดเจนกับการทำตลาดในรูปแบบ "สินค้าจากทุนทางวัฒนธรรม" ของหัตถกรรมใบตองตึงของนครลำปางในชื่อแบรนด์ 'มิสเตอร์ลีฟ'
สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน
ชัดเจนกับการทำตลาดในรูปแบบ "สินค้าจากทุนทางวัฒนธรรม" ของหัตถกรรมใบตองตึงของนครลำปางในชื่อแบรนด์ "มิสเตอร์ลีฟ" (Mr.Leaf) บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนภาคเหนือที่มีความผูกพันกับใบไม้ชนิดนี้ ซึ่งใช้มุงเป็นหลังคากระท่อม ห่อข้าวเหนียวและอาหารแห้ง
จุดขายของ Mr.Leaf นอกจากความเป็นธรรมชาติ ความสวยของลายเส้นใบไม้และการเป็นสินค้าทำมือแล้ว ยังแฝงด้วยอารมณ์ จินตนาการและกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่น ทำให้เกิดความแตกต่างของสินค้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการจากตลาด
:: ใบไม้สร้างค่า
ปรเมศร์ สายอุปราช มองเห็นโอกาสของสินค้าพื้นเมืองในตลาดต่างประเทศ กับช่องทางการค้าผ่านโลกออนไลน์ ขณะเดียวกันก็มองเห็นโจทย์เรื่องของวัสดุที่เน้นความเป็น "กรีน" หลังจากมีโอกาสเข้าร่วมคอร์สสั้นๆ เกี่ยวกับเส้นใยธรรมชาติที่มีผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นเป็นวิทยากรเมื่อ 7 ปีก่อน และพยายามศึกษาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันวิทยากรญี่ปุ่นก็เสาะหาวัสดุประเภทรักษ์สิ่งแวดล้อมไปใช้ในประเทศ ก่อนมาลงตัวที่ "ใบไม้" ของเหลือทิ้งตามธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ตอบโจทย์ 3R คือ Reduce ลดใช้วัสดุแบบเดิม Re-Use นำเศษใบไม้มาประยุกต์ใช้ และ Recycle นำขยะตามธรรมชาติที่ต้องกวาดทิ้งหรือก่อไฟเผามาใช้ใหม่
ปรเมศร์มองเห็นใบตองตึงที่แห้งเหี่ยว ร่วงโรยจากต้น รอการเก็บไปเผาทิ้ง จุดประกายให้เกิดแนวคิดนำใบตองตึงไปทำเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เนื่องจากโครงสร้างของเส้นใยมีความเหนียวมาก เห็นจากอายุของหลังคาใบตองตึงที่นานถึง 5 ปี
“ระยะเวลา 2 ปีสำหรับการลองผิดลองถูก คิดหาวิธีแก้ปัญหาใบแตก หัก กรอบเกินไป ไม่สามารถใช้งาน จึงต้องหาวิธีเตรียมวัสดุใหม่ กระทั่งพบกระบวนการเตรียมใบตองตึงเป็นวัสดุสำหรับสินค้าต่างๆ สามารถปรับความเหนียวของใบไม้ เนื้อสัมผัสและอื่นๆ เช่น นำใบตองตึงไปรีดทับผ้ากาว เคลือบพลาสติก นอกจากโชว์ความสวยของลายเส้นใบไม้ ยังนำไปทำเป็นสินค้าที่หลากหลาย"
ความพยายามนี้ทำให้เขาสามารถนำใบตองตึงไปต่อยอดสร้างชิ้นงานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมกับยื่นจดอนุสิทธิบัตรกระบวนการผลิตวัสดุ
“เราเน้นสินค้าตกแต่งบ้านเป็นหลัก อาทิ โคมไฟใบไม้ นาฬิกาใบไม้ หมอนอิง หรือ wall leaf สำหรับตกแต่งผนังบ้าน ขณะเดียวกันก็มีของใช้ เช่น กล่องใส่ของ กระเป๋าสตางค์ ซองพาสปอร์ต นอกจากนี้ยังทดลองตลาดทำเป็นเสื้อกั๊กอีกด้วย” ปรเมศร์ กล่าวและว่า ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าธรรมชาติ แปลกใหม่มีสไตล์และไม่เหมือนใคร
:: สร้างรายได้-โกอินเตอร์
ปรเมศร์เตรียมส่งใบตองตึงไปยัง Material Library ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบหรือ TCDC เพื่อเป็น 1 ในวัสดุที่น่าสนใจที่ต้องส่งไปตรวจใน 50 ประเทศทั่วโลก คาดว่าจะรู้ผลในปี 2557 เนื่องจากลูกค้ายุโรปกลุ่มแฟชั่นดีไซเนอร์สนใจใบตองตึงเป็นวัสดุสำหรับทำเสื้อผ้าแฟชั่น ทำให้ Mr.Leaf มีแผนที่จะส่งออกใบตองตึงในลักษณะของวัตถุดิบไปยังยุโรปอีกด้วย
ปรเมศร์มุ่งการทำตลาดเน้นการออกงานแฟร์ ลูกค้าหลักของ Mr.Leaf จึงเป็นชาวต่างชาติคือ สหรัฐอเมริกา ยุโรปและญี่ปุ่น ใน 2 รูปแบบคือ ซื้อสินค้าที่ออกแบบและจำหน่ายอยู่แล้ว 40% ของรายได้ และสั่งทำตามแบบของลูกค้านั้นๆ 60% ของรายได้ทั้งหมด
“จุดแข็งเรื่องวัสดุของเราที่ไม่มีใครเหมือน ทำให้เราไม่กลัวคู่แข่งหรือการเลียนแบบ อย่างไรก็ดี เราขยับมาเพิ่มในเรื่องของงานออกแบบ เพื่อให้สินค้ามีความโดดเด่น จากนั้นก็พัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ซึ่งในปี 2557 จะเล่นสีแบบทูโทน ใช้ใบไม้อ่อนแก่ หรือเสริมด้วยผ้าบาติก ซึ่งก็ต้องดูเทรนด์แฟชั่นและกระแสโลกไปด้วย”
อย่างไรก็ดี วิกฤติเศรษฐกิจโลกปัจจุบันทำให้ตลาดส่งออกเริ่มนิ่ง ปรเมศร์ชี้ว่า สภาพเศรษฐกิจไม่ดีจึงต้องพยายามรักษาฐานลูกค้าเก่า ผ่านการสร้างสรรค์สินค้าดีไซน์ใหม่ๆ และเพิ่มลูกค้าใหม่ในประเทศ โดยการออกงานแฟร์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ต้องรักษาคุณภาพ และพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล




