โรงนมสีเขียว

โรงนมสีเขียว

เพื่อโลกและเรา ‘แดรี่ โฮม’ เดินหน้าธุรกิจสีเขียว บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ ทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ลดความผิดโคนมที่ผายลม-เรอเป็นก๊าซเรือนกระจก

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

เพื่อโลกและเรา ‘แดรี่ โฮม’ เดินหน้าธุรกิจสีเขียว บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ ทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ลดความผิดโคนมที่ผายลม-เรอเป็นก๊าซเรือนกระจก

ในยุคที่กลายคนมองเรื่องยอดขาย-กำไรเป็นหลัก พฤติ เกิดชูชื่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดรี่โฮม จำกัด กลับมองในมิติของสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยคอนเซปท์ของธุรกิจสีเขียวเพื่อความยั่งยืนในปี 2542 และริเริ่มโครงการต้นแบบผลิตนมอินทรีย์ตั้งแต่ปี 2547 โดยใช้ระบบฟาร์มสมาชิกที่มีอยู่ 13 ราย ล้วนแต่เป็นฟาร์มโคนมอินทรีย์ทั้งสิ้น

มองมากกว่าธุรกิจ

พฤฒิมองว่า แดรี่โฮมเป็นธุรกิจที่ปล่อยคาร์บอนเยอะ เนื่องจากเป็นธุรกิจเกี่ยวกับโค ซึ่งทั้งโคเนื้อและโคนมนั้นปล่อยก๊าซมีเทนจากการย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้องผ่านการเรอและผายลม จึงคิดหาโซลูชั่นที่จะตอบแทนผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ

“เราสนใจคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ด้วยอยากทราบว่า ธุรกิจเราเองปล่อยคาร์บอนไปเท่าไหร่ และจะดลการปล่อยคาร์บอนได้อย่างไรบ้าง จึงขอการสนับสนุนจากโครงการ iTAP ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.”

โครงการ “พิชิตฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์นมสดพาสเจอไรส์และโยเกิร์ตแดรี่โฮม” จึงเกิดขึ้น โดยจะประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการผลิตของฟาร์มโคนมและกระบวนการผลิตในโรงงาน ตลอดจนขั้นตอนการบรรจุและขนส่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อขอรับรองผลวิเคราะห์ค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และขึ้นทะเบียนติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง จากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เข้ามาดูแลโครงการนี้ กล่าวว่า ส่วนมาก องค์กรที่คิดจะทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มักเป็นบริษัทใหญ่ที่มีเรื่องของการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่ต้องการมาตรฐานหรือการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม

“แดรี่โฮมถือเป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีความกระตือรือร้น ในขณะที่หลายบริษัทถอดใจ เนื่องจาก การทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จึงเป็นการตรวจวัดประเมินการปลดปล่อยคาร์บอนตลอดห่วงโซ่กระบวนการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบ การผลิต บรรจุภัณฑ์การขนส่ง การจำหน่ายและกระจายสินค้า ของเสียในกระบวนการผลิต เป็นต้น ต้องเก็บข้อมูลละเอียดมาก” ดร.รัตนาวรรณกล่าวก่อนชี้ว่า แดรี่โฮมโชคดีที่ข้อมูลทั้งหมดเป็นฐานข้อมูลเดียวกับมาตรฐานสินค้าอินทรีย์ ที่บริษัททำอยู่ และเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลย้อนหลัง 7 ปี

การพิจารณาคาร์บอนฟุตพริ้นท์ครั้งนี้ มีการเชิญอาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาเป็นผู้ตรวจสอบ และได้รับการรับรองจากองค์การก๊าซเรือนกระจกแล้ว

พฤฒิชี้ว่า มาตรฐานยุโรป นม 1 ลิตร มีการปล่อยคาร์บอนที่มากกว่า 2 กิโลกรัม ส่วนของไทยอยู่ที่ 2.3-2.7 กิโลกรัมต่อลิตร ในขณะที่แดรี่โฮมปล่อยอยู่ที่ 2 กิโลกรัมต่อนม 1 ลิตร และเราจะทำให้ตัวเลขนี้ลดลงเรื่อย ๆ

เปิดตลาดสีเขียว

ต้นทุนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แดรี่โฮมอยู่ในระดับพรีเมียมด้วยราคาที่สูงกว่าท้องตลาด กรรมการผู้จัดการแดรี่โฮมชี้ว่า ปกตินมอินทรีย์ก็จะมีราคาสูงกว่านมในท้องตลาด กลุ่มเป้าหมายจึงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มมีฐานะ มีความรู้ หรือคนที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพของนมเป็นพิเศษ ดังนั้น สินค้าที่ราคาแพง ต้องตอบโจทย์ความต้องการและความพิเศษ เราจึงเดินหน้าทำมาตรฐานรับรองทั้งเรื่องของเกษตรอินทรีย์และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ถือเป็นความจริงใจในการให้ข้อมูลทุกมิติ

นอกจากนี้ แดรี่โฮมยังพัฒนาพลาสติกชีวภาพสำหรับบรรจุโยเกิร์ต จึงต้องมีคุณสมบัติทนความเย็นและชื้นในตู้เย็น ทนต่อความเป็นกรด และต้องย่อยสลายอย่างรวดเร็ว กลายเป็นบรรจุภัณฑ์โยเกิร์ตอินทรีย์ที่แตกสลายทางชีวภาพได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งทนต่อแรงกระแทกได้ดีเทียบเท่าบรรจุภัณฑ์เดิมที่ทำจากพลาสติกปิโตรเคมี

“สิ่งที่เราทำแม้เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เรายังรับไหวและจะไม่ผลักภาระให้กับผู้ซื้อ แม้จะมีฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือใช้บรรจุภัณฑ์สีเขียว เราก็จะขายในราคาเดิม” เขาย้ำในแนวคิด

ปัจจุบัน แดรี่โฮมมีสินค้าทั้งหมด 39 ชนิด แบ่งออกเป็น 3 ไลน์สินค้าคือ นม โยเกิร์ต และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ในขณะที่อีก 3 ไลน์สินค้าที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ฟาร์มเท่านั้น คือ ไอศกรีม 44 รส เบเกอรี่ และเนย

เมื่อถามถึงประชาคมอาเซียน พฤฒิกล่าวว่า เขาพร้อมที่จะไปหากมีช่องทางจำหน่าย เช่น ห้างสรรพสินค้าที่วางอยู่ขยายสาขาไปเปิด แต่จะไม่ทำตลาดเอง เพราะมองว่า ธุรกิจเล็กเกินกว่าที่จะทำเอง แต่ละวันใช้นมเพียง 5 ตันเท่านั้น ถือเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก

“อย่างไรก็ดี ประชาคมอาเซียนก็เป็นผลดีในการเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มีกำลังซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา และหากมีความต้องการนมระดับพรีเมียม แดรี่โฮมก็จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ และเชื่อว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อประชาคมอาเซียนเปิด” เขาย้ำ