'บาร์คคิเท็ค' ดีไซน์เพื่อสัตว์เลี้ยง

'บาร์คคิเท็ค' ดีไซน์เพื่อสัตว์เลี้ยง

จากสถาปนิกรักสัตว์ สู่การสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่เชื่อมพื้นที่สำหรับคนและสัตว์เลี้ยงให้อยู่ร่วมกันได้ในชื่อของบาร์คคิเท็ค (Barkëtek)

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

จากสถาปนิกรักสัตว์ สู่การสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่เชื่อมพื้นที่สำหรับคนและสัตว์เลี้ยงให้อยู่ร่วมกันได้ในชื่อของบาร์คคิเท็ค (Barkëtek)

ประสบการณ์ของสถาปนิกด้านแลนด์สเคปที่จีนกว่า 8 ปี ‘ปิยณัฐ รัตนวงศาโรจน์’ มองเห็นแนวโน้มสินค้าที่แก้ปัญหาฟังก์ชั่นในการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง แต่ยังไม่มีใครผลิตออกมา จึงเริ่มเห็นช่องว่างของตลาด และจับมือกับคู่หูที่มีแนวคิดเดียวกันสร้างแบรนด์

:: สถาปนิกเพื่อน้องหมา

“บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง และของใช้สัตว์เลี้ยงมากมาย เจ้าของบ้านบางคนเลือกที่จะนำของใช้ที่ไม่สวย หรือไม่เข้ากับสไตล์การตกแต่งในห้องนั้น ๆ ไปเก็บไว้ในห้องเก็บของ เราจึงมองว่า แทนที่จะเอาไปเก็บไว้และมาค้นหามาใช้ในเวลาที่ต้องการ ก็ควรออกแบบสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ดูดีพอที่จะวางไว้ในห้อง โดยไม่ดูรกตา” ปิยณัฐกล่าว

เขาจึงไปคุยไอเดียกับ ‘คิดดี เจริญพานิชย์กุล’ กราฟฟิคดีไซเนอร์ที่รักสัตว์เหมือนกัน และเริ่มออกแบบอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของภายใต้แบรนด์ บาร์คคิเท็ค (Barkëtek) ผลิตภัณฑ์แรกคือ ถาดอาหารสุนัขและแมว ชื่อรุ่น Ice

ผลิตภัณฑ์ของบาร์คคิเท็คถูกออกแบบภายใต้ 3 แนวคิดคือ Ergonomics หรือหลักกายวิภาคของสัตว์เลี้ยง, ฟังก์ชั่นการใช้งาน และความสวยงาม ไม่โหล

“จุดเด่นของบาร์คคิเท็ค คือ สินค้าของเราจะมีฐานยกสูง ไม่วางติดพื้น จากประสบการณ์ที่เลี้ยงสุนัขมา เราเห็นว่า เมื่อใช้ภาชนะที่สูงระดับพอดี สุนัขกินอาหารมากขึ้น เพราะไม่ต้องก้มลงไปกินบนถาดอาหารที่วางระดับเดียวกับพื้น เวลาก้มลงไปกิน ขาจะถ่างออก ส่งผลต่อสุขภาพขาของสัตว์เลี้ยงเมื่ออายุมากขึ้น” เจ้าของแบรนด์เผย

ด้านการออกแบบ ปิยณัฐชี้ว่า แบรนด์จะเน้นเรียบง่าย คลาสสิค โดยวัสดุหลักคือ ไม้ยางพารา ซึ่งเราร่วมมือกับโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถนำเศษไม้มาสร้างผลิตภัณฑ์ได้เพราะเป็นของชิ้นเล็ก

ทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกมาภายใต้บาร์คคิเทคจะเน้นความเป็นผลิตภัณฑ์สีเขียว เช่น อลูมิเนียมที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือเศษไม้จากโรงงานเฟอร์นิเจอร์แต่ยังมีคุณภาพดี

:: ดีไซน์สู่สากล

ด้านคิดดีมองว่า บาร์คคิเท็คมี 2 ไลน์สินค้าคือ ถาดอาหารและเปล อนาคตจะขยายไลน์ไปสู่เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถแชร์กันได้ระหว่างคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ตู้เก็บอาหาร โต๊ะกาแฟ และของเล่น ที่จะเป็นตัวเพิ่มยอดขาย เพราะเป็นของชิ้นเล็ก ราคาถูก คนซื้อไม่จำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์ แต่สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้

จากกลุ่มเป้าหมายคือ คนที่ชอบแต่งบ้าน คนรักสัตว์ คนที่ชอบสไตล์โมเดิร์น วัย 25-40 ปี เมื่อขยายไลน์สินค้าก็จะเพิ่มกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย

บาร์คคิเท็คเปิดแบรนด์ในปี 2556 โดยเริ่มจากการออกบูทในงาน Pet Expo 2556 ปิยณัฐชี้ว่า การทำตลาดไทย จะเน้นไปที่การออกบูทในงานอีเวนท์ต่าง ๆ เพื่อห้แบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้วางผลิตภัณฑ์ในร้าน ROOM ที่สยามดิสคัฟเวอรี และร้านสระว่ายน้ำสุนัข ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีกลุ่มลูกค้าติดต่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊คหรืออินสตาแกรม ปัจจุบันมีลูกค้าฮ่องกงสนใจซื้อไป

สัดส่วนรายได้ปัจจุบัน ตลาดใหญ่คือ ตลาดในประเทศ 70% ของยอดขาย โดยตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 30% แต่เจ้าของแบรนด์ชี้ว่า เขามองตลาดหลักคือตลาดต่างประเทศ

“คนชอบแต่งบ้านในไทยมีอยู่ แต่ไม่มากนัก ตลาดมีจำกัด แต่ในต่างประเทศมีฐานคนชอบแต่งบ่านอยู่มาก พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในต่างประเทศนิยมมีบ้าน หรือคอนโดมิเนียนของตนเอง ทำให้มีความต้องการของแต่งบ้านอยู่ เป็นโอกาสที่เราจะโตได้เร็ว” เจ้าของแบรนด์ย้ำ

ก้าวแรกของการเปิดตลาดต่างประเทศคือ การเข้าสู่ตลาดเอเชีย ที่คุ้นเคย เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิคโปร์ เป็นต้น จากตัวปิยณัฐที่เคยทำงานที่จีน ก็จะมีข้อได้เปรียบเรื่องภาษาจีน ในขณะเดียวกัน คิดดีที่อยู่สหรัฐมากกว่า 20 ปี ก็มีเครือข่ายที่จะทำให้เข้าไปทำตลาดในสหรัฐได้ ซึ่งทั้งตลาดเอเชียและตลาดสหรัฐ ทั้งสองรายก็อยู่ระหว่างปูทางเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน บาร์คคิเท็คมียอดขายอยู่ที่ 30-40 ชิ้นต่อเดือน และภายในสิ้นปี 2556 ตั้งเป้ายอดขายที่ 100 ชิ้นต่อเดือน จากการรับรู้แบรนด์ที่มากขึ้น และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายไปในร้านขายสินค้าดีไซน์อีกกว่า 10 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุย

“จุดสูงสุดของเราคือ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทำให้คนและสัตว์เลี้ยงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีเครื่องใช้ดีไซน์สวยที่ใช้ได้ด้วยกัน วางอยู่ในบ้านได้โดยไม่ขัดตา”