EGAเชื่อมโยงข้อมูลผู้เลี้ยงสัตว์ผ่านเครือข่ายGIN

EGAเชื่อมโยงข้อมูลผู้เลี้ยงสัตว์ผ่านเครือข่ายGIN

EGAจับมือกรมการปกครอง กรมปศุสัตว์ เชื่อมโยงระบบข้อมูลผู้เลี้ยงสัตว์ผ่านเครือข่าย GIN

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ร่วมทำบันทึกข้อตกลงระหว่าง EGA กรมการปกครอง และกรมปศุสัตว์ เพื่อเชื่อมโยงระบบข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์กับข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร ผ่านเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ หรือGIN (Government Information Network) เพื่อทำให้โปรแกรมระบบฐานข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ (T H-LiFDS :Thai Livestock Farmer Database System) เข้าสู่ระบบ e-Service

EGA ได้เข้าไปทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลของสองหน่วยงานทำได้ง่ายขึ้น โดยกรมปศุสัตว์สามารถดึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ จากหมายเลขประชาชน 13 หลักของกรมการปกครอง ผ่านเครือข่าย GIN โดยไม่ จำเป็นต้องลงทุนเชื่อมต่อไปยังกรมการปกครองโดยตรง ซึ่งกรมปศุสัตว์ยังสามารถใช้ประโยชน์บริการอื่นๆ ที่ EGA ให้บริการเพิ่มเติมได้อีกมากมาย ซึ่งในปีงบประมาณ 2557 หน้านั้นทาง EGA เตรียมยกระดับการ ให้บริการ GIN เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมจากระบบ GIN2.0 เป็นระบบ GIN2.5 ซึ่งมีทั้งการเพิ่มระบบรักษาความ ปลอดภัย ความเร็ว และบริการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น

“โครงการนี้นอกจากจะทำให้ระบบ Smart Farmer หรือระบบเกษตรกรอัจฉริยะ มีความสมบูรณ์ มากขึ้น เพราะข้อมูลจะครอบคลุมทั้งผู้ปลูกพืชและผู้เลี้ยงสัตว์ ทั้งหมดจะเชื่อมโยงกับข้อมูลประชากรจากกรมการปกครอง ทำให้ทราบข้อมูลความเป็นจริง โดยเฉพาะข้อมูลของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มเลี้ยงสัตว์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด และจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนนี้ในลักษณะ two way เพื่อเป็น การบูรณาการข้อมูลในที่สุด” ดร.ศักดิ์กล่าว

นายสัตวแพทย์ ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทททกรมฯได้สำรวจข้อมูลและขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เป็นรายครัวเรือนทั่วประเทศ

เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่นำมาใช้ประกอบการกำหนดวิเคราะห์และบริหารงานในโครงการต่างๆ ขณะที่ในปี 2553 มีการนำโปรแกรมระบบฐานข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์มาใช้ ภายใต้แนวคิดว่าจำนวนปศุสัตว์ขึ้นกับจำนวนผู้เลี้ยง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องนำข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ของกรมปศุสัตว์ในปี 2555 ส่งไปตรวจสอบ ชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ของเกษตรกรไปยังกรมการปกครองพบว่ามีส่วนหนึ่งไม่ตรงกับข้อมูลในระบบฐานข้อมูลกลาง จึงจำเป็นต้องมีปรับปรุงและแก้ไขให้ถูกต้อง ส่งผลให้เกิดความล่าช้าและผิดพลาดในการจัดทำระบบงานดังกล่าว รวมทั้งเสียเวลาในการตรวจสอบตัวบุคคลที่จะช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรการของรัฐ

ดังนั้น ในปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด ให้การสนับสนุนข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อบูรณาการข้อมูลกับทะเบียนราษฎรระหว่างหน่วยงานที่ดำเนินการ เพื่อการจัดเก็บข้อมูลเกษตรกรลงในบัตรประจำตัวประชาชนแบบเอนกประสงค์ (Smart Card) นอกจากนี้ยังต้องให้การสนับสนุนนโยบาย Smart Farmer/ Smart Officer รวมทั้งจะต้องได้รับความร่วมมือกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

ในการใช้บริการระบบเครือข่ายสารสนเทศภาครัฐ (Government Information Network หรือ GIN) และโครงการการใช้บัตรประจำตัวประชาชน (Smart Card) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการทำธุรกรรมหรือขั้นตอนทางราชการต่างๆ ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ณ จุดบริการครบวงจรแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) รวมถึงประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านศูนย์บริการร่วมโครงการ Citizen Smart Info ในรูปแบบของ Web service

ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ ได้นำโปรแกรมระบบฐานข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ (TH-LiFDS : Thai Livestock Farmer Database System) มาใช้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลและขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เป็นรายครัวเรือนทั่วประเทศ โดยในปี 2555 พบว่ามีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศอยู่ในระบบฯ 3.6 ล้านครัวเรือน และในปี 2556 พบว่า เกษตรกรลดลงเหลือ 2.95 ล้านครัวเรือนเศษ นอกจากนั้น ระบบนี้ยังเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบการเคลื่อนย้ายสัตว์

ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Movement ซึ่งผู้เคลื่อนย้ายสัตว์ข้ามจังหวัดเพื่อนำไปสู่เชิงการค้าสามารถส่งเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที ซึ่งระบบทั้งหมดจะทำให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลย้อนกลับในสินค้าอาหารสัตว์ต่างๆ ได้

นายสถาพร ศิริภักดี รองอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การขอใช้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมปศุสัตว์ ถือเป็นหน่วยงานที่ 110 ซึ่งที่ผ่านมาการขอใช้ข้อมูลจะเป็นแนวทางเดียว คือหน่วยงานต่างๆ นำข้อมูลไปใช้เพียงฝ่ายเดียว แต่จากการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์แบบใหม่ รวมทั้งการที่ EGA มีทั้งระบบ GIN และระบบคลาวด์คอมพิวติ้งทำให้การเชื่อมโยงจะมากขึ้น และสามารถดำเนินการได้ แบบสองทาง นั่นคือหน่วยงานสามารถส่งข้อมูลของตนเองกลับมาที่กรมการปกครองด้วย ดังนั้นหลังจากนี้ทางกรมการปกครองจะเร่งดำเนินการเพื่อทำให้หน่วยงานเหล่านั้นแบ่งปันข้อมูลกลับมาเพื่อบูรณาการข้อมูลทั้งระบบอีกด้วย