เคาะทีวีออนแอร์ 'เวลา' ตามเรต

หลังจากประกาศหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการ สำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา โดยประกาศฯ ดังกล่าวกำหนดให้มีการจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์ในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งนี้ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มหลักเกณฑ์จัดระดับความเหมาะสมรายการโทรทัศน์ (เรต) ในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการปฏิบัติเรื่องการจัดเรตรายการแต่ละประเภท

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด กสท. วานนี้ (2 ก.ย.) "เห็นชอบ" แนวทางการจัดระดับความเหมาะสมเนื้อหารายการโทรทัศน์ (เรต) ซึ่งเป็นคู่มือและแนวทางปฏิบัติ ตามประกาศผังรายการ

โดยแบ่งระดับความเหมาะสม 6 ระดับไว้ ดังนี้ “ป” รายการสำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 3-5 ปี “ด” รายการสำหรับเด็ก อายุ 6-12 ปี “ท” รายการสำหรับผู้ชมทุกวัย โดยเรต "ป" "ด" และ "ท" ไม่กำหนดเวลาการออกอากาศ

ส่วนเรต “น13” รายการที่เหมาะกับผู้ชมที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปีขึ้นไป ผู้ชมที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี ควรได้รับคำแนะนำ กำหนดห้ามออกอากาศก่อน 20.30 น. เรต “น18” รายการที่เหมาะกับผู้ชมที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีขึ้นไป ผู้ชมที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ กำหนดห้ามออกอากาศก่อน 22.00 น. และ เรต “ฉ” รายการเฉพาะไม่เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน ห้ามออกอากาศก่อน 24.00 น.

การจัดเรตรายการแต่ละประเภท จะมีคู่มือในการพิจารณาที่เป็นแนวทางเดียวกัน เช่น รายการเรต "ป" และ "ด" จะต้องไม่มีความรุนแรง ทั้งด้านพฤติกรรม, ภาษา และเพศ รายการเรต "ท" ความรุนแรงด้านพฤติกรรม, ภาษา และ เพศ ที่ระดับ 1 เป็นต้น

ใช้ฟรีทูแอร์ออกอากาศตามเรต

พ.อ.นที กล่าวอีกว่าประกาศผังรายการ กำหนดให้รายการทางโทรทัศน์ทุกแพลตฟอร์ม มีการจัดเรต ส่วนกำหนดเวลาการออกอากาศ บังคับใช้แพลตฟอร์ม "ฟรีทูแอร์" คือ ฟรีทีวี ทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม ส่วนแพลตฟอร์มบอกรับสมาชิกไม่กำหนดเวลาการออกอากาศตามเรต

ขั้นตอนจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะนำแนวทางการจัดระดับความเหมาะสมของรายการโทรทัศน์ ส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

"แนวทางจัดเรตจะเป็นไกด์ไลน์ ให้สถานีทีวีใช้กำหนดเรตรายการ ก่อนออกอากาศรายการ และหากผู้ชมเห็นว่าการจัดเรตรายการที่สถานีทีวีช่องต่างๆ กำหนดไม่เหมาะสมกับเนื้อหา สามารถร้องเรียนให้ กสทช.พิจารณาเรื่องดังกล่าวได้" พ.อ.นที กล่าว

การจัดทำคู่มือจัดเรตรายการ เพื่อต้องการให้สถานีใช้เป็นคู่มือในการพิจารณาเรต และลดปัญหาการจัดเรตรายการไม่เหมาะสม

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า แนวทางจัดเรตที่มีความชัดเจนขึ้น จะรู้ว่าเรตแต่ละประเภทมีลักษณะแบบไหน อย่างไร ซึ่งจะเป็นมาตรฐานกำหนดเรตให้เหมาะสมกับรายการทีวีประเภทต่างๆ อย่าง ฟรีทีวี เคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม รวมทั้งในอนาคตช่องทีวีดิจิทัล ประเภทเด็ก เยาวชนและครอบครัว ว่าจะกำหนดระดับเรตได้แค่ไหน

แจงขั้นตอนประมูลวันนี้

พ.อ.นที กล่าวอีกว่า วันนี้ (3 ก.ย.) เชิญชวนให้ผู้สนใจประมูล "ทีวีดิจิทัล" ประเภทธุรกิจ 24 ช่อง มารับการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาต อาทิ ข้อมูลการซื้อเอกสาร (ซอง) การกรอกเอกสาร การยื่นซอง ขั้นตอนการประมูล เงินค้ำประกันจากธนาคาร เป็นต้น ที่สำนักงาน กสทช. เวลา 13.00-16.00 น.

หลังจากนั้น กสทช. กำหนดให้ผู้สนใจร่วมประมูล ซื้อซองประมูล ราคาซองละ 1.07 ล้านบาท ต่อ 1 ช่องรายการ และลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประมูล ตั้งแต่วันที่ 10-12 ก.ย. นี้ ที่สำนักงาน กสทช. เวลา 09.30-16.00 น.

นอกจากนี้ กสทช. ได้กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตโครงข่าย (mux) ทั้ง 4 ราย คือ กรมประชาสัมพันธ์ กองทัพบกช่อง 5 อสมท และ ไทยพีบีเอส ส่งราคาค่าเช่าใช้บริการมาให้ กสทช. พิจารณาภายในวันที่ 15 ก.ย. นี้ หลังจากนั้น กสทช. จะพิจารณาราคาค่าบริการดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ โดยจะประกาศราคาค่าใช้บริการโครงข่ายให้ผู้เข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัลทราบ ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนวันประมูล

พ.อ.นที กล่าวอีกว่าหลังจากรับรองมาตรฐาน จอโทรทัศน์ที่มีระบบสัญญาณทีวีดิจิทัล หรือ บิวท์อิน จูนเนอร์ DVB-T2 จำนวน 4 แบรนด์ รวม 54 รุ่น ขณะนี้ สำนักงานกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาขั้นตอนการขออนุญาตนำเข้าและผลิตเพื่อจัดหน่าย ให้กับผู้บริโภคต่อไป โดย กสทช. ไม่มีการควบคุมราคาจำหน่ายจอโทรทัศน์ระบบดิจิทัล แต่พบว่าจะมีราคาต่ำกว่าจอโทรทัศน์ระบบอนาล็อกเดิม เพราะเป็นเทคโนโลยีที่มีการผลิตอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

พร้อมกันนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารับรองมาตรฐาน อุปกรณ์รับสัญญาณ (set top box) ทีวีดิจิทัล ที่มีผู้ยื่นขอรับรองมาตรฐานมาแล้ว 30-50 ราย คาดว่าจะพิจารณาเรียบร้อยภายในเดือนนี้ โดยพบว่าราคากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล ระบบดีวีบี-ที2 ที่จำหน่ายอยู่ในต่างประเทศราคาอยู่ที่กล่องละ 700 บาท และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ

ด้านความคืบหน้าในการพิจารณาใบอนุญาตโครงข่าย (ไม่ใช้คลื่นความถี่) กรณีพีเอสไอ ขณะนี้สำนักงานยังอยู่ในขั้นตอนที่อนุกรรมการขอเอกสารเพิ่มเติม โดยวานนี้ (2 ก.ย.) สำนักงาน กสทช. ได้ส่งหนังสือไปยัง "ช่องรายการ" ที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ห้ามออกอากาศบนโครงข่ายที่ไม่ได้รับใบอนุญาต