ม็อกเทล เครื่องดื่มทางเลือก

ม็อกเทล เครื่องดื่มทางเลือก

เงื่อนไขทางกฎหมายที่ตีกรอบให้กับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งโฆษณา ระยะเวลาและสถานที่วางจำหน่ายเปิดโอกาสให้กับ "ม็อกเทล"

บุษกร ภู่แส รายงาน

เงื่อนไขทางกฎหมายที่ตีกรอบให้กับธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งโฆษณา ระยะเวลาและสถานที่วางจำหน่าย ได้เปิดโอกาสให้กับ "ม็อกเทล" เครื่องดื่มรสชาติคล้ายคลึงกันแต่ปราศจากแอลกอฮอล์ สร้างทางเลือกทางรอดให้กับผู้ประกอบการ

"การทำธุรกิจแอลกอฮอล์เป็นเรื่องยาก ถ้ายังฝืนทำอยู่โอกาสธุรกิจเติบโตคงไม่มี ในฐานะผู้ประกอบการต้องคิดหาทางออกเพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ จึงเป็นที่มาของการคิดค้นสูตรม็อกเทลที่มีรสชาติเหมือนค็อกเทล แต่ไม่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ ทำให้ธุรกิจไม่ถูกจำกัดด้วยข้อห้ามจากกฎหมาย" คนธวรรณ รัคเจือเจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท บาร์เทนเดอร์ จำกัด กล่าว

ทางรอดของธุรกิจ

คนธวรรณ มองว่า ค็อกเทลเป็นเครื่องดื่มเพื่อการสังสรรค์ ไม่ใช่ดื่มให้มึนเมา แต่เมื่อเข้าข่ายเป็นเครื่องดื่มต้องห้าม ในฐานะคนทำธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ด้วยการแตกไลน์สินค้าม็อกเทลออกมาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าทั้งที่เป็นผู้บริโภคและผู้ที่ต้องการทำธุรกิจ โดยพัฒนาสูตรที่มีส่วนผสมจากผลไม้และสมุนไพร เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการปรุงเพื่อให้ได้รสชาติที่ใกล้เคียงหรือแตกต่าง ที่สำคัญรสชาติต้องถูกใจคนดื่ม ยกตัวอย่างเช่น การใช้เปลือกมะนาวที่มีรสขมมาผสมเพื่อให้รสสัมผัสคล้ายคลึงกับค็อกเทล

เครื่องดื่มปลอดแอลกอฮอล์จึงเป็นทางออกที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้กับประกอบธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ เพื่อสร้างสีสันให้กับร้าน รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟแทนที่ขายแต่ชา กาแฟ ม็อกเทลจะเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค เพราะสามารถดื่มได้มากกว่า ชา กาแฟ ที่สำคัญราคาต่อแก้วสูงไม่แพ้ร้านกาแฟแบรนด์ดัง

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มากขึ้น รับเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจตัวเองและลดความเสี่ยงทางธุรกิจ จากเดิมโฟกัสเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ปัจจุบันม็อกเทลได้รับการตอบรับในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมากขึ้นแม้จะมีสัดส่วนน้อย แต่มีศักยภาพทางการตลาดสูงไม่แพ้เครื่องดื่มประเภทค็อกเทล เพราะสามารถตอบโจทย์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ประกอบการทดแทน หรือเสริมจากเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ในเร็วๆ นี้ บริษัทบาร์เทนเดอร์เตรียมที่จะพัฒนาเครื่องดื่มม็อกเทลพร้อมดื่มออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Luxury โดยเริ่มจากการขยายตลาดในร้านสะดวกซื้อก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศจะอาศัยตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ

"สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจกับต่างประเทศคือ คอนเนกชันหรือสายสัมพันธ์ทางการค้าที่ดี ดังนั้น ช่วงแรกเราต้องหาคู่ค้าที่มีเครือข่ายในตลาดอยู่แล้ว จากนั้นค่อยหาลู่ทางเข้าสู่ตลาดท้องถิ่น เมื่อเป็นคู่ค้ากันแล้วก็ขยายช่องทางการตลาดเข้าสู่ร้านค้าต่างๆ มากขึ้น"

เช่นเดียวกับการเตรียมความพร้อมที่จะขยายฐานไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน (AEC) ที่คนธวรรณมีความตั้งใจอยู่แล้ว และขณะนี้ก็กำลังจะตกลงเซ็นสัญญากับคู่ค้าในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฯลฯ จากนั้นจึงค่อยขยายต่อไปภูมิภาคอื่นๆ เช่น ฮ่องกง จีนและญี่ปุ่น พร้อมๆ กับการทยอยจดเครื่องหมายการค้าไว้ในทุกประเทศเพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ

พลิกแพลงตอบโจทย์

นอกจากการผลิตสินค้าเครื่องดื่มประเภทนอน-แอลกอฮอล์ คนธวรรณยังเปิดหลักสูตรสอนให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพ มีทั้งหลักสูตรค็อกเทลและม็อกเทล วัตถุประสงค์ก็คือ การสร้างพันธมิตรเพื่อกระจายสินค้า

คนธวรรณทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนข้อมูล เทคนิค รวมทั้งวัตถุดิบป้อนให้กับลูกค้า ยิ่งพวกเขาสามารถเติบโตได้มากเท่าไร กิจการก็จะเติบโตไปพร้อมๆ กัน ผู้เรียนส่วนหนึ่งสั่งส่วนผสมค็อกเทลจากเธอโดยตรงโดยเฉพาะลิเคอร์ (เหล้าหวาน) ที่เป็นสูตรผลิตของบริษัทเอง

ส่วนใครคิดว่าม็อกเทลจะกระตุ้นให้คนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นหรือเปล่า คงต้องคิดกันเอง เพราะม็อกเทลไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การปิดกั้นมากเกินไปมันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ เมื่อเทียบกับการให้ความรู้กับผู้คนในการดื่มให้เหมาะสมข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องดื่ม

ติดตามภาพเคลื่อนไหวhttp://youtu.be/jBI1OMcRlw4