'นมเม็ด'ดีทุกเวลา

'นมเม็ด'ดีทุกเวลา

ประชากรเด็กในเมืองไทยมีถึง 20% จากประชากรไทยราว 70 ล้านคน ถือเป็นขุมทรัพย์ดึงดูด "บีโปรดักส์อินดัสตรี้"ร่วมโกยเงินจากผู้ปกครองผ่านนมอัดเม็ด

บุษกร ภู่แส รายงาน

ประชากรเด็กในเมืองไทยมีถึง 20% จากประชากรไทยราว 70 ล้านคน ถือเป็นขุมทรัพย์ดึงดูดภาคธุรกิจเอกชนให้ขยับเข้าหา ไม่เว้นกระทั่ง "บีโปรดักส์อินดัสตรี้" แม้จะเป็นเบอร์หนึ่งแห่งผลิตภัณฑ์จากผึ้ง แต่ไม่พลาดโอกาสที่จะร่วมโกยเงินจากกระเป๋าของผู้ปกครองผ่านผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด
เพราะเด็กกับนมเกิดมาคู่กัน

ทางเลือกคนไม่ดื่มนม

บีโปรดักส์อินดัสตรี้นำเข้านมผงจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีความเข้มข้นสูงและปราศจากการปนเปื้อนสารเมลานีน มาผ่านเทคโนโลยีการอัดเม็ดด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย ขณะที่บริษัทมีความพร้อมและชำนาญ เห็นได้จากนมผึ้งอัดเม็ดและเกสรผึ้งอัดเม็ด การันตีด้วยมาตรฐานต่างๆ ทั้ง GAP เป็นมาตรฐานการผลิตทางการเกษตร, มาตรฐานการผลิตและการจัดการ ISO 9001: 2000 และ ระบบการผลิตอาหารปลอดภัย GMP & HACCP CODEX


แม้ว่าปัจจุบันตลาดของนมอัดเม็ดยังไม่เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคไทยมากนัก แต่ในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เพราะถือเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่รักสุขภาพ ได้ทุกที่ทุกเวลา สอดคล้องกับความพยายามในการรณรงค์คนไทยหันมาดื่มนมเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเน้นการให้ความรู้ และกระตุ้นการสร้างนิสัยรักการดื่มนมในทุกเพศทุกวัย โดยมีเป้าหมายให้คนไทยบริโภคนมเพิ่มขึ้น


"นมผงอัดเม็ดของเราจะเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มเป้าหมายคือเด็กในช่วง 5-10 ขวบ ซึ่งต้องการแคลเซี่ยมมากเป็นพิเศษ ถ้าเด็กไม่ชอบดื่มนมก็ต้องทดแทนด้วยนมอัดเม็ด ขณะที่ผู้ใหญ่ที่ใส่ใจสุขภาพส่วนมากนิยมจะรับประทานเล่นเป็นขนมขบเคี้ยว ทดแทนขนมที่อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาลและไขมันอย่างที่โฆษณาทั่วไป" ศิริลักษณ์ กันทาเจริญ ฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท บีโปรดักส์อินดัสตรี้ จำกัด กล่าว


ส่วนข้อดีอีกอย่างหนึ่งของนมอัดเม็ดก็คือ สะดวกต่อการพกพาและเก็บรักษาทั้งนี้ ประเทศไทยผลิตน้ำนมดิบได้มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อัตราการดื่มนมของคนไทยเฉลี่ย 14 ลิตรต่อคนต่อปีเทียบกับอัตราบริโภคนมโดยเฉลี่ยของคนเอเชียอยู่ที่ 60 ลิตรต่อคนต่อปี ถือว่าคนไทยดื่มนมน้อยมาก หากเทียบกับประเทศฟินแลนด์มีการบริโภคถึง 241 ลิตร สหรัฐอเมริกา 131 ลิตรญี่ปุ่น 40 ลิตร สิงคโปร์ 17 ลิตรต่อคนต่อปี

โอกาสธุรกิจสุขภาพ

เหตุผลทางการตลาดที่ตัดสินใจเลือกผลิตนมอัดเม็ด เธอบอกว่า คู่แข่งน้อย ความต้องการบริโภคสูง กลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อ จึงเป็นสินค้าที่มีศักยภาพทางการตลาดสูงในอนาคต

ปัจจุบันผู้ประกอบการอาหารต่างพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า เพื่อให้สอดรับกับกระแสการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจึงถูกนำมาผสมหรือแปรรูปเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์

"สำหรับตลาดนมในเมืองไทย อาจกล่าวได้ว่ากำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนถ่ายจากผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มไปสู่ผลิตภัณฑ์นมในรูปแบบที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ การแปรรูปให้เป็นนมอัดเม็ดที่รับประทานได้สะดวก" ศิริลักษณ์ กล่าว

ในอนาคตบริษัทวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายแก่ผู้บริโภค เช่น เติมสารปรุงแต่งเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับนมผงอัดเม็ด อาทิ โอเมก้า 3 เลซิทิน รวมไปถึงสารสกัดจากพืชผักผลไม้ส่วนช่องทางการขายจะผ่านโมเดิร์นเทรดทั่วไป ทั้งยังอาศัยการประชาสัมพันธ์ผ่านผลิตภัณฑ์ของบีโปรดักส์อินดัสตรี้ ซึ่งเน้นการออกงานแสดงสินค้ามาตั้งแต่เริ่มต้น และประสบความสำเร็จโดยที่ผ่านมาได้ออเดอร์และลูกค้าหลังจากออกงานแสดงสินค้า จนกลายเป็นลูกค้าประจำของบริษัทในปัจจุบัน


ขณะนี้ฐานลูกค้าผลิตภัณฑ์จากผึ้งของบีโปรดักส์อินดัสตรี้ในประเทศและต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 50:50 กลุ่มลูกค้าต่างประเทศจะเป็นประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกาและประเทศในเอเชีย อย่างประเทศญี่ปุ่น

นี่คืออีกหนึ่งความพยายามในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์นม ที่ไม่ใช่เพียงแค่ รสชาติ แต่ยังเติมสารที่ให้คุณค่าตามความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ จนกลายเป็นนมอัดเม็ดจากโรงงานในประเทศไทย ที่สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้