โยเกิร์ต 'ถ้วย' พิเศษ

สาลินีย์ ทับพิลา รายงาน

ถ้วยโยเกิร์ตธรรมดาๆ ก็สามารถช่วยโลกได้ เมื่อ “แดรี่โฮม”มุ่งสู่การเป็นผลิตภัณฑ์สีเขียวด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์อินทรีย์ ตอบโจทย์เทรนด์รักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมดึงลูกค้าใหม่กลุ่มรักษ์โลก

ปริมาณขยะพลาสติกที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาในการกำจัดด้วยการฝังกลบและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพลาสติกดังกล่าวสลายตัวได้ยาก ต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้น การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ชนิดใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสลายตัวได้ทางชีวภาพ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหา

“นโยบายหลัก 2 ประการของเราคือ ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และดีต่อสุขภาพ ดังนั้น แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จึงต้องการสิ่งที่ตอบโจทย์ ตรงนโยบายของบริษัท” พฤฒิ เกิดชูชื่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดรี่โฮม จำกัดกล่าว

บรรจุภัณฑ์สีเขียว

เมื่อผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตในต่างประเทศอย่างเยอรมนีและแคนาดา เดินหน้าใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ “แดรี่โฮม” ซึ่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมและโยเกิร์ตอินทรีย์ จึงมีแนวคิดที่จะเกาะเทรนด์รักษ์โลกด้วยเช่นกัน โดยปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากปิโตรเคมีเป็นพลาสติกชีวภาพ

“แรกๆ ใช้ขวดแก้วสำหรับผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ถือเป็นต้นทุนเพราะต้องมีการล้างทำความสะอาด สิ้นเปลืองพลังงาน น้ำ และยังมีน้ำหนักมาก สิ้นเปลืองค่าขนส่ง จึงต้องใช้พลาสติก ซึ่งสะดวก ราคาเหมาะสม แต่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม”

ผู้บริหารแดรี่โฮมได้หาทางออก โดยร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ในการวิจัยพลาสติกชีวภาพสำหรับบรรจุโยเกิร์ต จึงต้องมีคุณสมบัติทนความเย็นและชื้นในตู้เย็น ทนต่อความเป็นกรด และต้องย่อยสลายอย่างรวดเร็ว

ทีมวิจัยใช้เวลาเพียง 6 เดือนต่อยอดองค์ความรู้เรื่องของพลาสติกชีวภาพที่มีอยู่แล้ว จนได้บรรจุภัณฑ์โยเกิร์ตอินทรีย์ที่แตกสลายทางชีวภาพได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งทนต่อแรงกระแทกได้ดีเทียบเท่าบรรจุภัณฑ์เดิมที่ทำจากพลาสติกปิโตรเคมี

บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกชีวภาพ ไม่ใช่ผลงานวิจัยชิ้นแรกของแดรี่โฮม ซึ่งมีความสนใจในการวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานวิชาการต่างๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ นม Bedtime milk ซึ่งได้กลายมาเป็นสินค้าขายดี และน้ำนมอินทรีย์

สร้างจิตสำนึกรักษ์โลก

ด้วยจุดเด่นของถ้วยพลาสติกชีวภาพ ที่สลายตัวได้เมื่อฝังกลบลงในดิน ทางแดรี่โฮมจึงออกแบบบรรจุภัณฑ์โยเกิร์ตอินทรีย์ ให้มีลักษณะเป็นกระถางเพาะต้นอ่อนของพืช ที่สามารถปลูกลงดินได้โดยตรงแทนที่จะทิ้งเป็นขยะ

“แดรี่โฮมมีแผนจะใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกชีวภาพ สำหรับบรรจุนมและผลิตภัณฑ์นมอินทรีย์แปรรูป ภายในต้นปีนี้โดยจะเริ่มจากผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายแม่พิมพ์จากระดับการทดลองสู่แม่พิมพ์ขนาดอุตสาหกรรม ที่จะผลิตได้สูงหลักล้านชิ้นต่อปี” กรรมการผู้จัดการแดรี่โฮมกล่าว

แน่นอนว่า การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้จะเพิ่มต้นทุนในการผลิต พฤฒิยอมรับว่า ต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่มาก ซึ่งแดรี่โฮมเองได้รับต้นทุนที่เพิ่มเอาไว้ โดยไม่เพิ่มราคาสินค้า เนื่องจากมองว่า แม้ต้นทุนจะเพิ่ม แต่กลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมจะหันมาสนใจแบรนด์

ในปี 2556 คาดว่ายอดขายจะเพิ่ม 20% จากกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งแดรี่โฮมตั้งใจจะใช้พลาสติกชีวภาพสำหรับเป็นบรรจุภัณฑ์ให้กับทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น นม ไอศกรีม และโยเกิร์ต แต่จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม เพราะผลิตภัณฑ์นมแต่ละประเภทมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกัน

“ถือเป็นโครงการอนาคตที่แดรี่โฮมจะเดินหน้าพัฒนาเพื่อไปสู่การเป็นแบรนด์สีเขียว สร้างจิตสำนึกให้ผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาขยะพลาสติกที่ย่อยสลายตัวได้ยาก” กรรมการผู้จัดการแดรี่โฮมย้ำ

ทั้งนี้ แนวคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์โยเกิร์ตอินทรีย์จากพลาสติกชีวภาพ ส่งให้บริษัท แดรี่โฮม จำกัด ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประจำปี 2555 โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ