Perplexity ยื่นซื้อ Chrome จาก Google มูลค่า 34.5 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางคดีผูกขาด

Perplexity ยื่นซื้อ Chrome จาก Google มูลค่า 34.5 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางคดีผูกขาด

ดีล Perplexity - Chrome กลายเป็นหัวข้อร้อนวงการเทคโนโลยี ข้อเสนอเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากคดีผูกขาดสหรัฐ หากสำเร็จ Perplexity อาจกลายเป็นคู่แข่งรายใหญ่ของ Google

Perplexity สตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์ ยื่นข้อเสนอที่ไม่ได้มีการเจรจามาก่อน มูลค่า 34.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.26 ล้านล้านบาท เพื่อซื้อกิจการ Chrome เว็บเบราว์เซอร์หลักของ Google โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่ามูลค่ากิจการของ Perplexity เองในปัจจุบัน 

อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุว่ามีนักลงทุนหลายรายพร้อมสนับสนุนดีลดังกล่าว ข้อมูลนี้รายงานครั้งแรกโดย The Wall Street Journal และต่อมาถูกยืนยันโดย CNBC

ในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา Perplexity เพิ่งปิดการระดมทุนรอบล่าสุด ทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 18 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 6.6 แสนล้านบาท จากเดิม 14 พันล้านดอลลาร์ เมื่อต้นปี แสดงให้เห็นว่าบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่เดือน

ฝั่ง Chrome เองถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์สำคัญของ Google เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 และปัจจุบันเป็นเบราว์เซอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก จุดแข็งของ Chrome คือ เป็นช่องทางที่ทำให้ Google เก็บข้อมูลการใช้งานของผู้คนจำนวนมาก เพื่อนำไปพัฒนาโฆษณาแบบเจาะกลุ่ม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท

ข้อเสนอซื้อ Chrome ครั้งนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ Google กำลังเจอแรงกดดันทางกฎหมาย เพราะเมื่อปีที่แล้ว บริษัทแพ้คดีผูกขาดให้กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ศาลตัดสินว่า Google ครองตลาดเสิร์ชอย่างไม่เป็นธรรม และ DOJ เสนอให้ Google ต้องขาย Chrome ออกไป เพื่อเปิดทางให้คู่แข่งในตลาดค้นหามีโอกาสแข่งขันอย่างเท่าเทียม

ด้าน Google ออกมาปฏิเสธข้อเสนอนี้ โดยระบุว่าเป็น “การแทรกแซงเชิงรุนแรง” และ “เกินขอบเขต” พร้อมยืนยันว่ายังไม่ตัดสินใจว่าจะปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างไรต่อไปหลังคำตัดสิน

ขยายฐานจากเอไอ สู่เบราว์เซอร์

Perplexity เป็นเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยตอบคำถามให้กระชับ เข้าใจง่าย และยังแปะลิงก์ให้คนไปดูข้อมูลต้นฉบับได้ด้วย ต่างจาก Google Search ที่ต้องเลื่อนหาผลลัพธ์จากหลายๆ เว็บไซต์ด้วยตนเอง

ไม่นานมานี้ Perplexity เพิ่งเปิดตัว Comet โปรแกรมท่องเว็บของตนเอง ซึ่งทำงานคล้าย Chrome หรือ Safari แต่เพิ่มความสามารถของเอไอเข้ามา เช่น ค้นหาด้วยการพิมพ์ถามเป็นภาษาธรรมชาติให้เอไอหาคำตอบ สรุปเนื้อหาทั้งหน้าเว็บ หรือแปลภาษาอัตโนมัติในทันที

ตลาดเบราว์เซอร์ถือเป็นสนามใหญ่ที่มีผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก และยังเป็นจุดสำคัญที่บริษัทเทคโนโลยีใช้เก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อนำไปทำโฆษณาได้ตรงกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าใหญ่ครองตลาดอย่าง Google (Chrome), Apple (Safari) และ Microsoft (Edge)

การแข่งขันด้านเอไอขณะนี้ถือว่าร้อนแรง บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Meta และ OpenAI ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสร้างระบบเอไอ และแย่งชิงวิศวกรเก่งๆ มาทำงาน ขณะที่ Perplexity แม้จะเป็นบริษัทใหม่ แต่ก็เติบโตเร็ว และได้รับความสนใจสูง จนช่วงต้นปี Meta เคยเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อเข้าซื้อ แต่ดีลก็ไม่สำเร็จ 

ดีลเสี่ยงสูงไม่ใช่ครั้งแรก

เมื่อต้นปี 2025 บริษัท Perplexity เคยสร้างกระแสมาแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการเสนอขอรวมกิจการกับ TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ซึ่งตอนนั้น TikTok ในสหรัฐกำลังอยู่ในช่วงไม่แน่นอน เพราะสภาคองเกรสเพิ่งผ่านกฎหมายบังคับให้ ByteDance บริษัทแม่จากจีน ต้องขายกิจการออกไปหากยังอยากให้ TikTok เปิดบริการในสหรัฐต่อ

แต่สุดท้ายดีล Perplexity และ TikTok ก็ไม่เกิดขึ้นจริง และเรื่องก็เงียบไป

ครั้งนี้ Perplexity กลับมาพร้อมการเดินหมากที่ใหญ่กว่าเดิม คือ ยื่นข้อเสนอซื้อ Chrome เบราว์เซอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลกจาก Google หากทำสำเร็จ Perplexity จะได้ครองประตูสำคัญที่คนใช้เข้าสู่อินเทอร์เน็ต พร้อมต่อยอดธุรกิจเสิร์ช และโฆษณาได้ทันที

นักวิเคราะห์มองว่า นี่อาจเป็นดีลที่เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในโลกออนไลน์ เพราะ Chrome ไม่ใช่แค่โปรแกรมท่องเว็บ แต่เป็นจุดเชื่อมต่อข้อมูลผู้ใช้ และรายได้โฆษณามหาศาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในมือ Google แทบทั้งหมด

 

 

อ้างอิง: CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์