โซนี่ โยกทัพ “กล้องดิจิทัล’’ มาไทย ตอกย้ำ จีนอาจเสีย “ฐานการผลิตโลก”

โซนี่ โยกทัพ “กล้องดิจิทัล’’ มาไทย ตอกย้ำ จีนอาจเสีย “ฐานการผลิตโลก”

ศักยภาพของไทยยังคงโดดเด่นไม่แพ้ชาติอื่น เมื่อล่าสุดยักษ์ใหญ่อิเล็กทรอนิกส์แดนปลาดิบ “โซนี่” ตัดสินใจเลือกไทยเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญด้วยการ "ย้ายฐาน" การผลิตกล้องดิจิทัลเพื่อส่งออกต่างประเทศยกเว้นจีนมาที่ “ไทย” หนีความตึงเครียดของคู่ขัดแย้ง "ปักกิ่ง-วอชิงตัน"

ก่อนหน้านี้ โซนี่ ทุ่มงบกว่า 2.5 พันล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ขนาดใหญ่ที่ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ปทุมธานี นับเป็นเส้นทางที่น่าจดจำตลอด 35 ปีที่ “โซนี่” ยังเดินหน้าลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์ นิกเคอิ เอเชีย รายงาน เมื่อวันที่ 29 ม.ค. โซนี่ กรุ๊ปเริ่มย้ายการผลิตกล้องถ่ายรูป หลังความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนหนักข้อขึ้น ล่าสุดยืนยันย้ายฐานการผลิตมาไทยเพื่อส่งขายในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น

รายงานข่าวระบุด้วยว่า โซนี่ กรุ๊ป ต้องการปกป้องห่วงโซ่อุปทานของตน จึงลดการพึ่งพาจีน การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตกล้องในไทยเพื่อส่งตลาดยุโรปและญี่ปุ่นของโซนีเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 แต่โซนี่ประกาศชัดว่า ไม่มีแผนออกจากจีนไปทั้งหมด บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับตลาดจีนต่อไป สินค้าอื่นๆ อาทิ คอนโซลเกม เลนส์กล้องถ่ายรูป และโทรทัศน์ยังคงผลิตในจีน

จากข้อมูลของบริษัทวิจัยยูโรมอร์นิเตอร์คาดว่า ในปี 2022 โซนีมียอดขายกล้องดิจิทัลตระกูลอัลฟาทั่วโลกประมาณ 2.11 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้ตลาดจีนมีสัดส่วนเพียง 1.5 แสนเครื่อง ดังนั้นการที่โซนี่ ประกาศย้ายฐานผลิตกล้องดิจิทัล เพื่อส่งออกต่างประเทศทั้งหมดจากจีนมาที่ประเทศไทย ป้อนทั้งตลาดญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป จึงคิดเป็น 90% ของการผลิตทั้งโลก

นิคอน-ชาร์ป ก็ย้ายมาไทยเหมือนกัน

นอกจาก โซนี่ แล้ว นิคอน ก็ย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่มาในไทยเมื่อปี 2563 เช่นกัน หลังจากผลิตตัวกล้องในญี่ปุ่นมากว่า 70 ปี นิคอนแตกต่างกับ โซนี กรุ๊ป ตรงที่โซนี ขายเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ให้ “แอ๊ปเปิ้ล” และ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนราย อื่นๆ แต่นิคอนไม่มีธุรกิจรีเซล จึงยากที่การผลิตกล้องถ่ายรูปของนิคอน จะฟื้นตัวจากความเสียหายที่โควิด-19 เล่นงานไปทั่วโลกได้

ทั้งนี้ เว็บไซต์ bussinessinsider.com เคยรายงานว่า จีนกำลังสูญเสียสถานะศูนย์กลางห่วงโซ่อุปทานโลกให้กับ 5 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย เวียดนาม ไทย มาเลเซีย และบังกลาเทศ โดย “ไทย” ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเพิ่มห่วงโซ่มูลค่าการผลิต เป็นฮับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ยานยนต์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กับหลายชาติ เช่น โซนีและชาร์ปที่มาตั้งโรงานแล้ว

ปี 2562 โซนี่ กล่าวว่า กำลังปิดโรงงานสมาร์ทโฟนในปักกิ่งเพื่อลดต้นทุนแล้วย้ายการผลิตบางส่วนมาไทย ด้านชาร์ปกล่าวในปีเดียวกันว่า กำลังย้ายการผลิตพรินท์เตอร์บางส่วนมาไทยเนื่องจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

ไม่ใช่แค่บริษัทต่างชาติเท่านั้น แม้แต่บริษัทจีนเองก็ย้ายห่วงโซ่อุปทานบางส่วนมาไทยด้วย เช่น จิงโกโซลาร์ บริษัทผลิตแผงโซลาร์ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสวงหาความได้เปรียบจากต้นทุนที่ต่ำกว่าและหลีกเลี่ยงความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทยเมื่อเดือน ก.พ.2565 ชี้ว่า ระหว่างปี 2563-2564 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) เข้าไทยเพิ่มขึ้นสามเท่ามาอยู่ที่ 4.55 แสนล้านบาท

ทุ่ม 2.5 พันล้านตั้ง รง.ผลิตชิปในไทย

ก่อนหน้านี้ โซนี่ เซมิคอนดักเตอร์ โซลูชันส์ เข้ามาลงทุนราว 1 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 2,575 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี เป็นย่านฐานการผลิตใหญ่ในภาคกลางของไทย อยู่ในขั้นตอนก่อสร้างโรงงานแล้ว

สำหรับโรงงานแห่งใหม่ของโซนี่จะผลิตชิปประเภท “เซ็นเซอร์รูปภาพ” ซึ่งรถยนต์ที่มีระบบอัตโนมัติใช้ในการสแกนตำแหน่งคนเดินบนถนนและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เมื่อสร้างแล้วเสร็จ สเกลการผลิตของโซนี่ในไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 70% และบริษัทจะจ้างงาน 2,000 ตำแหน่งในโรงงานแห่งใหม่ด้วย

ทั้งนี้ กระบวนการประกอบแผงชิปในขั้นแรกจะทำในญี่ปุ่น ส่วนโรงงานในไทยจะนำแผงดังกล่าวมาประกอบเป็นชิปสำเร็จรูป ซึ่งจะถูกส่งออกไปทั่วโลก

สำหรับอาคารผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ บริษัท โซนี่ ดีไวซ์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะก่อสร้างเป็นอาคารที่มีความสูง 4 ชั้น และมีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งหมด 66,370 ตารางเมตร ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2567 และจะเริ่มดำเนินการผลิตในครึ่งแรกของปี 2567

จากการเพิ่มการลงทุนด้วยการขยายโรงงานผลิตครั้งนี้ “โซนี่” คาดว่า จะมีส่วนสนับสนุนชุมชนในการเพิ่มอัตราการจ้างงานในท้องถิ่นอีกกว่า 2,000 ตำแหน่ง อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมศักยภาพ และความเติบโตของภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศไทย

35 ปีโซนี่ยังลงทุนไทยต่อ

ปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจของโซนี่ ในประเทศไทย มีบริษัทในเครือ 3 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ทำหน้าที่ทำการตลาด จัดจำหน่ายสินค้าและให้บริการหลังการขาย

2.บริษัท โซนี่ เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ เลนส์ เครื่องเสียงรถยนต์ กล้องติดรถยนต์ และสมาร์ทโฟน ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และ 3.บริษัท โซนี่ ดีไวซ์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และเป็นฐานผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโซนี่ ดำเนินธุรกิจในไทยมาตั้งแต่ปี 2531 รวมระยะเวลากว่า 35 ปี