โลกก็ต้องรักษ์ ดีไซน์ก็ต้องเลิศ "รีวิว Nokia X30 5G" การกลับมาของโนเกียสไตล์

ในอดีตคงไม่มีใครปฏิเสธถึงความยิ่งใหญ่ของ Nokia ในฐานะแบรนด์โทรศัพท์มือถือที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์และความคิดสร้างสรรค์ คนที่ทันยุคทองของ โนเกีย คงจดจำมือถือหน้าตาเท่ มีสไตล์ บางรุ่นแหวกแนวล้ำจินตนาการมาก แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ Nokia ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยแบรนด์ต่างๆ รวมถึงเทรนด์การออกแบบโทรศัพท์ และรสนิยมของคนที่เปลี่ยนไป ยักษ์ใหญ่จากฟินแลนด์แบรนด์นี้ก็หายไปจากตลาดอยู่พักใหญ่

แต่ช่วงปีที่ผ่านมา ชื่อของ “Nokia” ได้รับการพูดถึงอีกครั้งในแวดวงโทรศัพท์มือถือ ที่วันนี้ได้กลายเป็นตลาดสมาร์ทโฟนไปแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แม้ในแก่นแกนของ Nokia ยุคนี้จะผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนในฝั่ง Android เช่นเดียวกับอีกหลายแบรนด์ ทว่ายังคงอัตลักษณ์เอาไว้ หนึ่ง คือการผลิตฟีเจอร์โฟนเพื่อตอบโจทย์ด้านรสนิยม ความทรงจำ และการใช้งานไม่ซับซ้อนแต่ยังมีเสน่ห์แบบมือถือยุคมิลเลนเนียม กับอีกอย่างคือการดีไซน์ที่ยังคงเห็นได้ชัดถึง DNA แบบโนเกียแท้ ซึ่งส่งผ่านมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จนมองปราดเดียวก็รู้ว่านี้คือ “โนเกียสไตล์”

Nokia X30 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ “โนเกีย” กำลังทำตลาดในประเทศไทย และนี่คืออีกหนึ่งรุ่นที่สะท้อนความเป็นโนเกียครบองค์ประกอบ ทั้งดีไซน์, ประสิทธิภาพ, ความทนทาน และที่สำคัญยุคนี้โนเกียยังเน้นเรื่อง Eco ดีไวซ์ทุกชิ้นของ “Nokia” จึงคิดมาแล้วว่าต้องรักษ์โลก

แล้ว Nokia X30 เครื่องนี้ จะรักษ์โลกอย่างไร และมี DNA อะไรซ่อนอยู่ในดีไซน์รวมทั้งฟีเจอร์บ้าง KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะเล่าให้ฟัง

DNA ของโนเกีย

ถ้าสังเกตหรือรู้จัก “โนเกีย” มาตั้งแต่สมัยยังเป็นมหาอำนาจด้านโทรศัพท์มือถือ แล้วมาดูที่สมาร์ทโฟนโนเกียยุคนี้ จะเห็นจุดร่วมอยู่ เช่น ความเหลี่ยม ความโค้ง งานประกอบแบบที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Minimal กับ Maximum เป็น Medium Design แต่เป็นเอกลักษณ์

สิ่งหนึ่งที่ "Nokia X30 5G" กำลังสะท้อนความเป็นมือถือโนเกีย ไม่ใช่ความหรูหราเวอร์วังแบบสมาร์ทโฟนฝั่งเอเชียชอบใช้ หรือความเรียบหรูแต่ทันสมัยแบบฝั่งแบรนด์ผลไม้ เพราะคาแรกเตอร์ของสมาร์ทโฟโนเกียเครื่องนี้คือความดุดัน สุขุม แต่ไม่เชย ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ

โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ และพลาสติกรีไซเคิล 65 เปอร์เซ็นต์ ที่ช่วยให้การใช้งานคล่องตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือที่จะเปื้อนบนพื้นผิวมันวาว รวมถึงโมดูลกล้องที่มีกลิ่นอายโรบอทนิดๆ การทหารหน่อยๆ มีดีไซน์แบบอวกาศให้พอเป็นสีสัน ซึ่งตรงนี้ทำให้ "Nokia X30" ดูแตกต่างจากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นชัดเจนมากๆ

รักษ์โลกอย่างไร

เมื่อ "Nokia" เลือกแล้วว่าจะมาสายรักษ์โลก ก็ต้องไปให้สุด มาดูกันว่ามีอะไรที่มือถือโนเกียรุ่นนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบ้าง

อย่างแรกคือวัสดุที่ใช้ผลิต "Nokia X30 5G" อย่างที่บอกไปคือ อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ และพลาสติกรีไซเคิล 65 เปอร์เซ็นต์ นอกจากจะลดการใช้ทรัพยากรแล้ว ยังแข็งแรง ทนทาน

ความทนทานที่ว่าต้องยอมรับว่าทนทานจริงๆ เพราะแม้จะไม่มีเคสแถมมาให้ และใช้งานด้วยตัวเครื่องเปล่าๆ เปลือยๆ โดยไม่ได้ทะนุถนอมเท่าไรนัก แต่กลับไม่มีริ้วรอยใดๆ เลย ที่สำคัญยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำระดับ IP67 ผ่านการทดสอบจริงแล้วจากการใช้น้ำล้างสิ่งสกปรกที่เปื้อนบนตัวเครื่อง

ตามมาด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ทางโนเกียการันตีว่าการลดขนาดบรรจุภัณฑ์ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการขนส่งได้ และลดการตัดไม้เพราะใช้กระดาษรีไซเคิล 94 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับการรับรอง 100 เปอร์เซ็นต์ จาก FSC

อีกเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่เกี่ยวพันกับสิ่งแวดล้อมมากๆ คือเรื่องระยะเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนแต่ละเครื่อง เพราะการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนใหม่ก็เท่ากับการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้น ดังนั้นโนเกียจึงตั้งใจให้ Nokia X30 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้นาน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกปี

วิธีการที่ทำให้ใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นได้นาน ทางโนเกียได้รับรองว่าจะอัปเดทความปลอดภัยรายเดือนเป็นเวลาสามปี และอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 3 ปี เป็นอย่างน้อย ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปีนี้ จะไม่มีปัญหาเรื่องการอัปเดทใดๆ

ประสิทธิภาพที่ไม่ธรรมดา

ในการใช้งานจริง "Nokia X30 5G" จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ดีมาก ลื่นไหล และมีฟีเจอร์หลายอย่างที่ค่อนข้างโดดเด่น เช่น เรื่องกล้องที่โนเกียให้ชื่อว่า PureView OIS ความละเอียดถึง 50 ล้านพิกเซล มีทั้งเทคโนโลยี AI และ Capture Fusion ซึ่งทำให้ไม่ว่าจะถ่ายภาพด้วยกล้องหลักในมุมมองปกติหรือกล้องเลนส์ไวด์ ก็ได้ภาพที่สวย คมชัด สีสันสมจริง

นอกจากนี้ยังมีโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้เต็มไปหมด พร้อมกับลูกเล่นที่ให้มาจนใช้กันแบบล้นๆ แต่ที่น่าเสียดายคือความละเอียดของไฟล์วิดีโอในโหมดปกติให้มาสูงสุดแค่ FullHD 1080P เท่านั้น ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าใครต้องการความละเอียดมากๆ อาจไม่ถูกใจ

ส่วนเรื่องความทนทานของกล้อง ก็ยังทำได้ดีมากเพราะใช้วัสดุกระจก Corning® Gorilla® กันรอยขีดข่วน พร้อม DX+ ที่ช่วยให้ แสงทั้งหมดผ่านเลนส์ได้ถึง 98 เปอร์เซ็นต์

ส่วนเรื่องความแรง ก็ถือว่าแรงใช้ได้ เพราะมาพร้อมซีพียู Snapdragon® 695 5G จะเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปก็ลื่นไหลดี ไม่มีปัญหาอะไรให้รำคาญใจ รวมถึงการใช้งานแบตเตอรี่ก็อึดมาก ใช้งานทั่วไปผ่านหนึ่งวันอย่างแน่นอน แถมยังชาร์จไวได้สูงสุด 33W

ดีแล้ว แต่น่าจะดีได้อีก

เรื่องที่กลายเป็นกำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนและ gadget ที่ประกาศจุดยืนว่ารักษ์โลก คือการไม่แถมอะแดปเตอร์หัวชาร์จมาให้ ด้วยเหตุผลเรื่องลดการใช้ทรัพยากร ใน “Nokia X30 5G” ก็ไม่มีอะแดปเตอร์มาให้เช่นกัน

อีกอย่างที่ยังน่าเสียดายคือเรื่องอัตราการรีเฟรชเรทหน้าจอให้มาสูงสุดที่ 90Hz สำหรับคนที่เคยชินกับหน้าจอ 120Hz อาจจะรู้สึกถึงความแตกต่างอยู่บ้างเล็กน้อย (แต่ถ้าให้มาถึง 120Hz) จะเยี่ยมเลย

ในเรทราคา 16,990 บาท สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนใช้ลื่นๆ ใช้ง่ายๆ แข็งแรง ทนทาน ดีไซน์มีเอกลักษณ์ มีคอนเซปต์รักษ์โลก และน่าจะโดนใจสาวกโนเกียที่ยังหลงใหลในกลิ่นอายของอดีตมหาอำนาจจากฟินแลนด์แบรนด์นี้ เพราะแค่เปิดเครื่อง ได้ยินเสียงเมโลดี้อันเป็นเอกลักษณ์ก็คงจะฟินแล้ว