`สมชัย’ ซีอีโอ เอไอเอส เปิดแผนรับมือ ศก.โลกถดถอย - ย้ำแนวคิด Fix & Focus

`สมชัย’ ซีอีโอ เอไอเอส เปิดแผนรับมือ ศก.โลกถดถอย - ย้ำแนวคิด Fix & Focus

‘เอไอเอส’ รับวิกฤติครั้งนี้ต่างจากครั้งอื่น กระทบไปทั่วโลก เป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ ต้องมอนิเตอร์ตลอดเวลา ย้ำแนวคิด Fix & Focus เน้นเรื่องหลักที่องค์ต้องทำ ลดทอนเรื่องที่ไม่จำเป็น เร่งสร้างคัลเจอร์องค์กรให้เข้มแข็งขึ้น

"นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า  วิกฤติเศรษฐกิจโลกถดถอย จนสะเทือนไปทั้งโลก เอไอเอส ใช้แนวคิด Fix & Focus เป็นแนวคิดหลักที่ต้องนำมาใช้ในสถานการณ์แบบนี้ คือ ต้องเดินหน้าทำในส่วนที่เป็นกลยุทธ์หลักขององค์กรเท่านั้น พร้อมกับควบคุมและลดทอนเรื่องต่างๆที่ไม่จำเป็นต้องทำในช่วงนี้ลง เพื่อนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่ไปทำในเรื่องที่สำคัญและจำเป็นในอนาคต อันจะทำให้เกิดการเติบโตได้จริง ในระยะยาวเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

“ปัจจัยสำคัญมากอีกด้านคือ การสร้างเร่งสร้าง culture ขององค์กรให้เข้มแข็งขึ้น เพราะวิกฤตแบบนี้ องค์กรใหญ่ยังมีความสามารถที่จะดูแลพนักงานได้ ต้องใช้โอกาสนี้ ทำให้พนักงานรู้สึกดี ตื่นตัว ทั้งในเรื่องของความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบ และความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะให้พนักงานได้ up skill และ re skill ภายใต้ภาวะแบบนี้ ได้เป็นอย่างดีด้วย”

ซีอีโอ เอไอเอส ระบุว่า Mindset ที่ใช้ในการทำธุรกิจ ท่ามกลางวิกฤติใหญ่ในยุคนี้ มีทั้งความเหมือน และความต่าง กับวิกฤติที่เกิดขึ้นครั้งก่อนๆ ที่เหมือน คือ ทุกวิกฤติจะเกิดผลกระทบต่อธุรกิจในภาพรวมเหมือนกัน และองค์กรไม่สามารถทำงานตามแบบเดิมได้ ทุกองค์กรต้องปรับแผนงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปในวิกฤตนั้น

“คือต้องมีความเข้าใจต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจเรา และตัองปรับแผนงาน พร้อมติดตามผลตลอดเวลา เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้จริงในวิกฤตินั้น แต่ครั้งนี้มีความแตกต่างจากครั้งอื่นๆ คือ วิกฤตินี้อยู่นานและเป็นวงกว้างกระทบกันไปทั้งโลก และทุกกลุ่ม เริ่มจากการระบาดของโควิด และยังมีวิกฤติซ้อนวิกฤติจากสงครามรัสเชีย ยูเครนทำให้ราคานำ้มันแพงขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น ที่สำคัญกระทบกับกลุ่มคนฐานล่างส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นกำลังซื้อที่สำคัญ”

อย่างไรก็ตาม เอไอเอส ยังมองว่า วิกฤติครั้งนี้ นับเป็นความโชคดีที่อยู่บนธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของผู้คน ยิ่งเกิดวิกฤติขึ้น สินค้าและบริการของเอไอเอส ยิ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้า ทั้งการเวิร์คฟรอมโฮม และเลิร์นฟรอมโฮม แม้ว่าการลงทุนจะสูงขึ้นมาก ทั้งจากค่าคลื่นความถี่ และ การลงทุนบนเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เอไอเอส 5จี ให้กับลูกค้า แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ยังทำให้ไม่สามารถคิดค่าบริการเพิ่มขึ้นตามค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะกำลังซื้อของลูกค้า และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด

"เรายังถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ลูกค้าก็จะอยู่และใช้สินค้าบริการ ของเราต่อไป ดังนั้น เอไอเอส จึงยังคงมุ่งสร้างรากฐานทางด้าน Digital Life Services Provider ต่อไป พร้อมปรับสู่เป้าหมาย การเป็น ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถของเอไอ รองรับการเติบโตในอนาคต ขยายบริการของกลุ่มลูกค้าองค์กร ที่เกี่ยวกับ CCIID (Cloud,Cyber security,IoT,ICT,Data Center) ที่ทุกอุตสาหกรรมต่างตื่นตัวที่จะนำมาประยุกต์ใช้"