ส.อ.ท. กางโรดแมป ฝ่าพายุ Disruption 'มุ่งเป้า Green Industry'

ส.อ.ท. กางโรดแมป ฝ่าพายุ Disruption 'มุ่งเป้า Green Industry'

ท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจโลกที่พัดกระหน่ำ ทั้งสงครามเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ที่ร้อนระอุ และโจทย์ใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศเดินหน้าบทบาท "แม่ทัพอุตสาหกรรม"

KEY

POINTS

  • ส.อ.ท. ชี้ภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญ 4 พายุความท้าทายระดับโลก ได้แก่ AI, การกีดกันทางการค้า (กำแพงภาษีคาร์บอน), ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ และสังคมสูงวัย
  • วางยุทธศาสตร์ 3 แกนหลักเพื่อฝ่าวิกฤต โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไทยสู่ "อุตสาหกรรมสีเขียว" (Green Industry) ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้
  • เดินหน้าโครงการรูปธรรมเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น "National Waste Platform" เพื่อจับคู่ขยะอุตสาหกรรมกับโรงงานที่ต้องการวัตถุดิบ และส่งเสริมมาตรฐาน "Eco Factory"

ท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจโลกที่พัดกระหน่ำ ทั้งสงครามเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ที่ร้อนระอุ และโจทย์ใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศเดินหน้าบทบาท "แม่ทัพอุตสาหกรรม" ชูโมเดล 3 ด้าน: ผลิต-บริโภค-หมุนเวียน พร้อมผลักดันนวัตกรรม "National Waste Platform" ปฏิรูปขยะสู่ขุมทรัพย์ทางธุรกิจ มุ่งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศให้ "แข็งแกร่งกว่าเดิม"

4 แรงกดดันมหาศาล โจทย์หินที่อุตสาหกรรมไทยต้องข้ามให้พ้น

นำพล ลิ้มประเสริฐ รองประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวในงาน เครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งประเทศไทยประจำปี 2568 ว่า  ปัจจุบันภาคธุรกิจไม่ได้เผชิญหน้ากับคู่แข่งทางการค้าเพียงอย่างเดียว แต่กำลังเผชิญกับ "4 พายุหมุนระดับโลก" ที่บีบให้ต้องเปลี่ยนโครงสร้างขนานใหญ่

  • AI & Digital Transformation: การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด ใครปรับตัวไม่ทันจะถูกกลืนหายไปจากห่วงโซ่มูลค่า
  • Trade Protectionism: การกีดกันทางการค้าที่มาในรูปแบบของ "กำแพงภาษีคาร์บอน" และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น
  • Geopolitical Conflicts: ความขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจเศรษฐกิจที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เปราะบางและผันผวน
  • Aging Society: สังคมสูงวัยที่กำลังพรากแรงงานฝีมือไปจากระบบ และเปลี่ยนโฉมหน้าพฤติกรรมการบริโภคไปอย่างสิ้นเชิง

ยุทธศาสตร์ 3 แกนหลัก ลอกคราบอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคใหม่

เพื่อตอบโต้แรงกดดันดังกล่าว ส.อ.ท. ได้วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านผ่าน 3 แกนสำคัญ

  • แกนที่ 1: ต่อยอดรากฐานอุตสาหกรรมเดิม (Enhancing the Foundation): ไม่ทิ้งอุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของไทย แต่ใช้การปรับปรุงกระบวนการให้ทันสมัยขึ้น
  • แกนที่ 2: นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง (Tech & Innovation): เร่งนำ AI, Automation และเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้เพื่อลดต้นทุนและสร้าง "มูลค่าเพิ่ม" (High Value-Added)
  • แกนที่ 3: อุตสาหกรรมสีเขียวและภาคบริการ (Green Industry & Services): เปลี่ยนภาพลักษณ์จากโรงงานแบบเดิมสู่การเป็น "Green Industry" ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายตัวสู่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่า

โปรเจกต์ "Game Changer" ขับเคลื่อนความยั่งยืน

1. ยกระดับการผลิตด้วยมาตรฐาน "Eco Factory"

ส.อ.ท. ไม่เพียงแต่สนับสนุนให้โรงงานลดมลพิษ แต่ได้สร้างระบบการรับรอง "Eco Factory" ที่เข้มข้น ครอบคลุมเกณฑ์ ESG (Environment, Social, Governance) ถึง 14 ด้าน และก้าวไปอีกขั้นกับ "Eco Factory for Waste Processor" เพื่อกำกับดูแลผู้จัดการของเสียให้มีมาตรฐานเดียวกัน ป้องกันปัญหาการลักลอบทิ้งขยะอุตสาหกรรมและสร้างความเชื่อมั่นในระบบจัดการของเสียทั้งวงจร

2. "Thai Eco-Products Directory" แพลตฟอร์มยุติความสับสนของผู้บริโภค

หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของการบริโภคที่ยั่งยืนคือ "ความล้น" ของฉลากสิ่งแวดล้อมที่มีมากกว่า 20 ชนิด ส.อ.ท. จึงได้รับแรงสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (EU) พัฒนาฐานข้อมูลกลางที่รวบรวมผลิตภัณฑ์สีเขียวที่ได้รับมาตรฐานไว้ในที่เดียว เพื่อเป็นลายแทงให้ผู้บริโภคและ "ผู้จัดจำหน่าย" สามารถเข้าถึงสินค้าที่เป็นมิตรต่อโลกได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น

3. "National Waste Platform" ปฏิวัติเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยหลัก "Make-Use-Return"

โครงการนี้ถือเป็น "หัวใจสำคัญ" ของการก้าวสู่ Zero Waste โดย ส.อ.ท. ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม พัฒนาแพลตฟอร์มกลางเพื่อจับคู่ระหว่าง "โรงงานที่มีของเสีย" กับ "โรงงานที่ต้องการวัตถุดิบ" เปลี่ยนขยะ (Waste) ให้เป็นทรัพยากร (Feedstock)

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ยอมรับว่ายังมีความท้าทายในด้าน R&D เนื่องจากวัสดุรีไซเคิลมักมีคุณสมบัติที่ต่างจากวัตถุดิบบริสุทธิ์ (Virgin Material) ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งใช้นวัตกรรมในการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อรองรับทรัพยากรหมุนเวียนเหล่านี้

บทบาทของ ส.อ.ท. ในวันนี้ ไม่ใช่เพียงผู้ประสานงาน แต่คือผู้สร้าง "Eco-system" ให้ภาคอุตสาหกรรมไทยสามารถยืนหยัดได้ในเวทีโลกอย่างสง่างาม การขับเคลื่อนตามแนวทาง Sustainable Production & Consumption และ Circular Economy จะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่นำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างแท้จริง